บทที่ 1 หญิงร้าย ชายร้อน 3
“พูดบ้าอะไรของคุณ” เพลงพิณพยายามบิดข้อมือออกจากมือใหญ่ แต่ยิ่งบิด เขาก็ยิ่งบีบจนเธอรู้สึกเหมือนข้อมือเธอจะหักเสียให้ได้
“ผมพูดแทงใจดำเหรอไง”
“ไอ้โรคจิต ฉันจะแจ้งตำรวจ”
“ตามสบาย ถ้าคิดว่าตำรวจจะทำอะไรผมได้” แล้วเขาก็ผลักเธออย่างแรงจนหญิงสาวเซจนเกือบจะล้ม ยังดีที่ยังพยุงตัวเองเอาไว้ได้
“คนเลว คิดว่าตัวเองมีอิทธิพลเยอะนักหรือไง”
“ผมคิดว่าตัวเองมีดีพอสมควร ว่าไงล่ะ…จะคิดค่าตัวเท่าไหร่”
“ฉันไม่ขายตัว”
“ทำไมล่ะ ผมจะซื้อคุณคืนละห้าร้อยเชียวนะ ถ้าถึงใจ ผมอาจจะเพิ่มให้เป็นคืนละพันก็ได้”
“ทำไมคุณถึงชอบดูถูกผู้หญิงแบบนี้” เธอถามเสียงสั่น โกรธจนควันออกหู แต่ทำอะไรเขามากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเธอ…เป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาอยู่วันยังค่ำ แรงหญิงหรือจะสู้แรงชาย ยิ่งถ้าทำอะไรผลีผลามลงไป คนที่ต้องอับอายต่อสายตาชาวบ้านมากที่สุดก็คือ…ตัวเธอเอง
“เพราะคุณทำตัวให้ผมดูถูกไงล่ะ”
“ฉันไปทำอะไรให้คุณตอนไหน”
“จำไม่ได้เหรอไง”
“คุณคงจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ”
“ไม่ผิด ถึงแววตาของคุณจะเปลี่ยนไป แต่เค้าหน้าแบบนี้ ผมไม่วันลืมหรอกแพรพิณ” เขาหรี่ตาลงพลางพูดเสียงเข้ม
“แค่ชื่อฉัน คุณยังพูดผิดเลย ฉันไม่ใช่แพรพิณ” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง มองแววตาแข็งกร้าวของเขา เธอก็รู้แล้วล่ะว่าเขาจะต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน และก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิดไว้เสียด้วยสิเมื่อเขาเปิดปากพูดขึ้น
“ดัดจริต”
“ไอ้ผู้ชายปากจัด ฉันเกลียดคุณ”
“ผมก็เกลียดคุณเหมือนกัน” เขาโต้กลับทันควัน ก่อนจะหน้าหันอีกรอบเมื่อหลังมือเล็กๆตวัดกระทบซีกหน้าด้านซ้ายของเขาเต็มแรง
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ” เขาหันหน้ากลับมาพลางตะคอกลั่นก่อนจะชะงักเมื่อเห็นน้ำตาเม็ดโตๆที่กำลังรินไหลลงอาบแก้มขาวๆอีกรอบ เธอมองเขาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะหันหลังวิ่งหนีออกจากบริเวณนั้นไปทันที
คิ้วเข้มๆขมวดมุ่น ดวงตาคู่คมกราดมองไปทั่วที่มีคนคอยมองมาทางเขาอย่างให้ความสนใจ แต่เขาไม่คิดจะสนใจใคร จามิลยืนนิ่งงันก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ราคาแพงออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์เซอร์ๆแล้วเปิดกระเป๋าหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งออกมา
“พ่อ…” เขาพึมพำเสียงเบาในลำคอ นิ้วโป้งไล้ไปตามใบหน้าของชายสูงวัยในชุดภูมิฐานที่อยู่ในรูปอย่างเบามือราวกับกำลังอาลัยต่อบุคคลที่เขากำลังคิดถึงอยู่ในขณะนี้
แต่เมื่อสายตาเลื่อนมามองผู้หญิงหน้าตาสะสวยอายุราวยี่สิบปีที่ยืนกอดแขนชายสูงวัยคนนั้นอยู่ แววตาของจามิลก็เปลี่ยนไป จากแววตาแห่งความเสียใจและอาลัยรักเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นแววตาของความเคืองแค้น…
“ผู้หญิงแพศยา คุณทำให้พ่อของผมต้องตาย ผมจะต้องแก้แค้นคืนให้สาสม !” กรามแข็งๆถูกบดเข้าหากันแน่น จ้องมองผู้หญิงในรูปราวจะสลักลงในความอาฆาตและโกรธแค้นให้ตราตรึงอยู่นานเท่านั้น เพื่อเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่าเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงเลวๆที่อาศัยความสวยของตัวเองในการหากินเท่านั้น เขาไม่ควรไปหลงรูปโฉมสะสวยของเธอ
จามิลหลับตาลงเมื่อนึกถึงสัมผัสจากตัวนุ่มๆที่เขาได้กอด แม้จะเพียงชั่วระยะเวลาไม่นาน แต่เขาก็จำได้เป็นอย่างดีว่าผิวกายของเธอนุ่มขนาดไหน เธอหอมขนาดไหน
ท่าทางตื่นตระหนก ดวงตาที่แฝงถึงความไม่พอใจของเธอยามที่โดนเขาขโมยจูบยังคงติดตาอยู่ไม่รู้จาง
จูบ…? นั่นสินะ ทำไมตอนที่โดนเขาจูบ เธอถึงตัวอ่อนเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ ท่าทางของเธอเหมือนผู้หญิงที่ไม่เคยโดนใครจูบมาก่อน
ท่าทางไร้เดียงสาและอ่อนหัด กลิ่นกายที่หอมกรุ่น ผิวเนียนละมุนนุ่มมือ ทุกสิ่งที่เขาได้สัมผัสทำให้ชายหนุ่มเกิดความต้องการขึ้นมาอย่างง่ายดาย ทั้งๆที่คิดว่าจะทำให้เธอเจ็บเหมือนที่พ่อเขาเคยเจ็บ แต่เขาก็อดที่จะอยากได้เธอมาครอบครองไม่ได้ ให้ตายเถอะ…นี่เขาเป็นอะไรไป
จามิลลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆก่อนจะเดินตรงไปทางรถสีบรอนซ์ที่จอดอยู่ไม่ไกลสักเท่าไหร่นัก
ไม่ว่าเขาจะแก้แค้นเธอด้วยวิธีไหนก็ตาม…เขาจะไม่มีวันเอาใจตัวเองไปหลงรักโสเภณีไร้ค่าอย่างเธออย่างแน่นอน !
ไอ้ท่าทางไร้เดียงสา ท่าทางเหมือนไม่เคยต้องมือชายมาก่อนแบบนี้สินะ ถึงทำให้คุณจิรายุทธบิดาของเขาถึงกับหลงใหลคลั่งไคล้
ไม่ว่าแววตาของเธอจะเคยทำให้ผู้ชายคนไหนใจอ่อนและหลงหัวปักหัวปำมาแล้วบ้าง เขาก็ไม่สนใจ เขารู้แต่เพียงว่า เขาจะไม่มีทางหวั่นไหวไปกับเธออีกเป็นครั้งที่สอง เขานี่แหละที่จะเป็นคนสั่งสอนให้เธอจดจำบทเรียนราคาแพงในครั้งนี้ไปจนวันตาย !
ประตูรถคันละหลายล้านถูกเปิดออกก่อนที่ร่างสูงจะก้าวขึ้นไปนั่งในรถแล้วสตาร์ทเครื่องเตรียมเคลื่อนที่ออกจากบริเวณหน้าร้านหนังสือโดยไม่มีหนังสือติดมือกลับบ้านไปสักเล่ม
แต่ทำไมนะ…ทุกวินาทีที่เขาขับรถอยู่ ทำไมเขาถึงเอาแต่นึกถึงหน้าหวานๆของผู้หญิงที่เขาเกลียดชังมาโดยตลอดแบบนี้ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ !!