2 (1)
“กลับมาแล้วเหรอ” เสียงทักนั้นทำให้เจ้าของร่างบางที่ก้มหน้าก้มตาเดินเข้าบ้านหยุดชะงัก กิ่งแก้วปรายตามองคนสูงวัยกว่าแล้วตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความเบื่อหน่าย
“ค่ะ”
“ทำไมกลับซะค่ำเลย” กิ่งแก้วไม่ตอบแต่เลือกที่จะเดินเลี่ยงขึ้นห้อง ทว่าก็ต้องชะงักและถอยหลังแทบไม่ทันเมื่อร่างสูงภูมิฐานของน้าเขยเดินมาดักข้างหน้า
“ทานอะไรมาหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอทางด้วยค่ะแก้วจะขึ้นห้อง” เธอบอกอย่างหวาดระแวง ระวังตัวเองมากที่สุด เมื่อร่างสูงยังคงยืนปักหลั่นไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอขึ้นห้องง่ายๆ
“จะรีบไปไหน คุยกันก่อนสิ วันหยุดแก้วไม่เคยอยู่บ้านเลยนะ” ไม่พูดเปล่ามือใหญ่ยังเอื้อมมาแตะต้นแขนกลมกลึง กิ่งแก้วถึงกับสะดุ้งและรีบเบี่ยงตัวหลบราวกับโดนของร้อน
“ทำไมต้องทำท่าทางรังเกียจน้าอย่างนั้นด้วยละ” เสียงทุ้มถามกลั้วหัวเราะ แล้วส่งรอยยิ้มอบอุ่นอย่างผู้ใหญ่ใจดีมาให้เหมือนเป็นกับดักล่อ
เมื่อครั้งเธอมาอาศัยอยู่ที่นี่ใหม่ๆ มันอาจจะได้ผล แต่ทุกวันนี้บอกเลยว่าเปลือกนอกที่แสนจะดูดีและท่าทางพ่อพระอย่างนี้ใช้กับเธอไม่ได้ผลหรอก เมื่อราคะตัณหามันบดบังจนหน้ามืดตามัวธาตุแท้มันก็ค่อยๆ เผยออกมาทีละนิด แต่ถึงอย่างนั้นผู้ชายคนนี้ก็ฉลาดพอที่จะไม่ให้ภรรยาของตัวเองระแคะระคายว่ากำลังอยากจะจับหลานภรรยาทำเมียใจจะขาด
ก่อนหน้านายเพชรรัตน์ทำตัวเป็นหมาหยอกไก่ แต่เธอไม่เล่นด้วย ยอมรับว่าพอเป็นอย่างนี้เธอตกใจมาก ตอนแรกว่าจะเล่าให้น้าของเธอฟังแต่ เมื่อได้ยินได้เห็นว่าน้าทั้งรัก ยกย่อง นับถือ และภูมิใจกับสามีคนนี้มากทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออก ยอมให้เรื่องมันผ่านเลยไปพร้อมกับคิดว่า เมื่อเธอไม่เล่นด้วยแล้วทางน้าเขยคงจะเลิกรา
ทว่าเธอคิดผิด ผ่านไปแค่เพียงอาทิตย์เดียวเธอก็ถูกเรียกไปพบที่ห้องทำงาน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดมากเพราะเธอเป็นเลขาฯ ของนายเพชรรัตน์ เธอไม่ได้ถูกเรียกไปคุยเรื่องงานแต่ถูกเรียกไปคุยเรื่องที่คาดไม่ถึง นายเพชรรัตเกลี้ยกล่อมต่อรองให้เธอยอมเป็นมีอะไรกับตน โดนเอาเงินและตำแหน่งหน้าที่การงานมาล่อ แต่เธอก็ปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาดทุกข้อเสนอพร้อมกับขู่ว่าจะฟ้องน้าของเธอ
นอกจากจะไม่กลัวแล้วนายเพชรรัตยังท้าทายให้เธอไปฟ้องอย่างมั่นใจว่า ภรรยาของตนไม่มีทางเชื่อหลานสาวอย่างเธอแน่นอน ไม่ลองไม่รู้เธอคิดอย่างนั้น วันหนึ่งเมื่อสบโอกาสจึงได้เกริ่นๆ เรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่บอกว่าเป็นเรื่องของเธอ พอฟังจบน้าของเธอกลับหัวเราะชอบใจ พร้อมกับบอกว่าเธอเข้าใจผิด มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คนธรรมะธรรมโม วันหยุดก็เข้าวัดฟังเทศน์ แถมเป็นคนที่ขี้อายไม่กล้าจะมองผู้หญิงตรงๆ มีหรือจะทำเรื่องแบบนั้นได้ แถมน้าของเธอยังเล่าเรื่องราวความรักในอดีตด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่า นางเป็นคนเริ่มตนจีบนายเพชรรัตก่อน และจนมาได้แต่งงานกันนั้นก็เป็นฝีมือนางล้วนๆ เมื่อออกมาอีหรอบนี้ก็ยากที่น้าจะเชื่อคำพูดของเธอและไม่เคยระแวงว่าสามีแสนดีของตัวเองจะเป็นคนในแบบที่นางไม่รู้จัก อยากให้น้ามาเห็นพฤติกรรมตอนนี้ของสามีเหลือเกิน
“น้าก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ ว่าทำอะไรที่น่ารังเกียจไว้บ้าง” กิ่งแก้วบอกอย่างรังเกียจผู้ชายดีแค่เปลือกตรงหน้า
“ปรักปรำกันหรือเปล่า น้าออกจะรักและเอ็นดูเรามากขนาดนี้ ดูสิให้ที่พักอาศัยแถมยังให้งานทำ รู้ไหมตำแหน่งเลขาของน้าน่ะใครๆ ก็อยากทำ แต่น้ายกให้แก้วเพราะว่ารักและหวังดี คนกันเอง คุยกันได้ อะไรๆ มันก็จะง่ายขึ้น แต่แก้วก็ทำเป็นเรื่องยากทุกที” นายเพชรรัตน์เอ่ยทวงบุญคุณ แล้วถอนหายใจราวกับเหนื่อยอ่อนกับหลานสาวภรรยา ขณะที่กิ่งแก้วเหยียดยิ้มทำเสียงหึขึ้นจมูกอย่างรู้สึกสมเพชและขยะแขยงพวกมือถือสากปากถือศีล
“แก้วบอกตั้งนานแล้วนะคะว่าให้คุณน้าหาเลขาคนใหม่มาแทนแก้วได้ทุกเมื่อ แก้วอยากไปทำหน้าที่อื่นที่มันตรงกับที่แก้วเรียนมา” เธอเรียนจบด้านการตลาด เมื่อก่อนเคยสงสัยว่าทำไมนายเพชรรัตน์ถึงอยากให้เธอไปทำตำแหน่งเลขา ถึงกับย้ายเลขาคนเดิมไปให้กับผู้บริหารคนอื่นเรื่องนี้ได้ยินคนอื่นนินทามาอีกที แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไม
“ไม่เอาน่า เป็นเลขาของน้าสบายจะตาย และจะสบายยิ่งขึ้นถ้าแก้วไม่ชอบขัดคำสั่งของน้า”
“แก้วไม่เคยขัดคำสั่งเรื่องงานของน้าเพชร” กิ่งแก้วเน้นคำว่า ‘เรื่องงาน’ หนักเป็นพิเศษ “แล้วนี่น้าเก๋กับคนในบ้านไปไหนหมดคะ” เธอถามอย่างเริ่มหวาดระแวงใจไม่ดีขึ้นมาอีกรอบ เมื่อรู้สึกว่าบ้านเงียบผิดปกติ
นายเพชรรัตน์กดยิ้มมุมปาก มองกิ่งแก้วด้วยสายตาแพรวพราวจนคนถูกมองขนลุกซู่ เย็นสันหลังวาบ ก่อนจะบอกอย่างอารมณ์ดีว่า
“น้าเธอต้องไปเฝ้าเพื่อนที่เข้าโรงพยาบาล เขาประสบอุบัติเหตุ มันกะทันหันไม่มีคนเฝ้า สามีของเธอเดินทางไปต่างประเทศกว่าจะกลับมาถึงก็พรุ่งนี้โน้น” นายเพชรรัตน์หัวเราะในลำคอเมื่อสังเกตเห็นร่างบางสะดุ้งและเกร็งขึ้นมาทันทีที่เขาเอ่ยจบ “ส่วนป้าอ๋อยขอลากลับบ้าน” ชายสูงวัยกว่าเอ่ยย้ำต่อ ก่อนจะสาวเท้าเข้าหาร่างบางที่ห่อตัวยกกระเป๋าขึ้นมากอดขณะที่เท้าก็ก้าวถอยหลัง ดวงตากลมโตไหวระริกอย่างหวาดกลัว
“มันใกล้มืดแล้วน้าของเธอเป็นห่วงที่จะให้หลานสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง เลยไล่ให้ฉันกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ” น้ำเสียงและแววตาของนายเพชรรัตไหวระริกอย่างไม่เก็บอาการ ขอบคุณภรรยาและแม่บ้านเหลือเกินที่เปิดโอกาสงามๆ ให้เขา วันนี้มันจะต้องไม่พลาด
“ไม่มีใครอยู่สักคนอย่างนั้นหรือนี่” กิ่งแก้วคราง แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ใช่ ตอนนี้มีแค่เราสองคน” เอ่ยจบมือใหญ่ก็หมายจะคว้าแขนเรียวเล็ก แต่กิ่งแก้วก็เบี่ยงตัวหลบพร้อมกับถอยหลังโดยไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองถอยเกือบชิดโต๊ะรับแขกอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อถอยอีกเพียงก้าวเดียวขาเธอก็สะดุดและล้ม
“โอ๊ย!” หญิงสาวร้องเสียงหลง เจ็บแปลบที่ข้อเท้า ถึงอย่างนั้นเธอก็รีบลุกแต่ก็ยังช้ากว่านายเพชรรัตน์ที่เข้ามาพยุงประคองร่างบางให้ลุกขึ้น
“ซุ่มซ่ามจริง แต่สวยและหอมขนาดนี้น้าให้อภัย” ไม่พูดเปล่านายเพชรรัตน์ยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้บริเวณแก้มและซอกคอหอมกรุ่น แล้วสูดกลิ่นกายสาวเข้าเต็มปอด
“ปล่อยนะคะ! ถ้าน้ายังทำรุ่มร่ามกับแก้วอีก แก้วจะฟ้องน้าเก๋” หญิงสาวขัดขืนอย่างรังเกียจพร้อมกับเผลอขู่ในสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้นึกกลัว
“เชิญ...จะรอดูว่าน้าของเธอจะเชื่อใครระหว่างผัวที่ภาพลักษณ์ดีมาตลอดอย่างฉันกับหลานที่ไม่มีอะไรน่าเชื่อถืออย่างเธอ” นายเพชรรัตน์ท้าอย่างมั่นใจเหมือนทุกครั้ง
“ถ้าเธอยอมอะไรๆ มันก็ง่ายขึ้น” นายเพชรรัตน์เกลี้ยกล่อม ก่อนจะก้มลงไปหวังสัมผัสแก้มนวลอย่างย่ามใจเมื่อกิ่งแก้วหยุดขัดขืน
แต่สิ่งที่ชายสูงวัยกว่าไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“โอ๊ย!” นิ้วเรียวยาวทิ่มเข้าไปที่เบ้าตาทั้งสองข้างแบบเต็มๆ สร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้าตัวจนผลักร่างบางออกห่างแล้วยกมือกุมดวงตาของตัวเอง
“ตาแก่ตัณหากลับ” กิ่งแก้วตะคอกด่าก่อนจะเตะเข้าที่กล่องดวงใจซ้ำเข้าไปอีกครั้ง ก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านอย่างไม่รีรอ แม้ตอนนี้จะคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหน
เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตามทางเท้า ขณะเดียวกันก็เอี้ยวตัวมองกลับหลังตลอดเวลาอย่างหวาดระแวงว่าน้าเขยจะตามมา หญิงสาวเปิดกระเป๋าเช็กดูเงินและบัตรเอทีเอ็มเพื่อความแน่ใจว่ามันยังคงมีอยู่ คืนนี้เธอคงต้องหาที่ซุกหัวนอนไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอาอย่างไร บางทีคงได้เวลาที่เธอจะขอแยกออกมาอยู่คนเดียวเสียที หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยขออนุญาตคนเป็นน้าแล้วหลายครั้ง แต่ท่านไม่อนุญาตบอกว่าเป็นห่วง เป็นสาวเป็นนางพักคนเดียวอันตราย แต่ใยน้าเธอจะรู้ว่าพักอยู่บ้านของท่านนั้นอันตรายยิ่งกว่าเป็นไหนๆ กิ่งแก้วคิดพลางเดินชะเง้อคอหารถแท็กซี่ แต่ยังไร้วี่แววเธอจึงจำต้องเดินต่อไป ไม่คิดจะยืนรอ
และระหว่างที่เดินนั้นด้วยความเคยชินเธอจะต้องหันไปมองบ้านสีขาวเป็นประจำ และครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา คิ้วเรียวสวยขมวด เท้าเดินเข้าไปจนชิดประตูรั้ว
ไฟในบ้านเปิดอยู่!