บท
ตั้งค่า

1 (2)

“ลุงรู้ไหมครับว่าคนที่แก้วนั่งรถไปด้วยเป็นใครครับ” ถามแล้วก็กลั้นใจรอคำตอบ เมื่อลุงพงษ์ทำท่านึกแล้วพยักหน้ายิ้มๆ “แฟนคุณแก้วครับ”

“แน่ใจนะลุง”

“ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ ลุงเห็นไปรับไปส่งกันประจำ”

“แล้วลุงรู้ได้ไงว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน” ชายหนุ่มถามอย่างมีความหวังว่าลุงพงษ์อาจจะเข้าใจผิดคิดเองเออเองก็ได้

“ก็พ่อหนุ่มคนนั้นเขาเป็นคนบอกลุงเอง และคุณแก้วก็ไม่ได้ปฏิเสธ แถมยิ้มอายๆ” ลุงพงษ์บอก ก่อนจะเล่าเรื่องราววันนั้นให้เจ้านายหนุ่มฟังว่า วันนั้นกิ่งแก้วกลับมาจากข้างนอกแล้วแวะเอาขนมมาฝากตน และด้วยความสนิทสนมอีกทั้งหญิงสาวก็เป็นคนช่างคุย จึงพูดคุยสารทุกข์สุกดิบคุยเรื่องโน่นนี่นั่นไปเรื่อยเพลินจนลืมคนที่รออยู่บนรถ

และด้วยความเกรงใจกิ่งแก้วอยู่มากทำให้ชเนศที่ตอนนี้ลงจากรถเดินหน้าตึงมาตามแฟนสาวหันไปเล่นงานลุงพงษ์ที่ดูก็รู้ว่าเป็นแค่ลูกจ้าง ว่า ‘นี่ลุงจะคุยกับแฟนผมอีกนานไหม’ ได้ยินอย่างนั้นกิ่งแก้วจึงบอกลาและเดินนำแฟนหนุ่มไปขึ้นรถ

คาร์ลอสถอนหายใจเฮือกใหญ่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาเพิ่งรู้ ทว่าพอทราบมาก่อนจะมาที่นี่จากภรรยาของไมกาห์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับกิ่งแก้วว่าหญิงสาวมีแฟนแล้ว และมีมาได้หลายเดือนแล้วด้วย ที่ถามลุงพงษ์เพื่อจะย้ำว่าสิ่งที่ได้รับรู้ว่ามันคือเรื่องจริง

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นก็หมุนตัวเดินเข้าบ้านไป ด้วยสีหน้าและท่าทางที่หงอยๆ ลงไปกว่าเดิม

เธอคงลืมเขาแล้วจริงๆ สินะ...

นักท่องเที่ยวหลงทางเมื่อครู่ทำให้กิ่งแก้วนึกถึงใครบางคนหลังจากนั่งคิดมาตลอดทาง และชั่วขณะเธอถึงกับใจกระตุกวูบก่อนจะสะบัดศีรษะบอกตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าผู้ชายคนนั้นคือคาร์ลอสลุงพงษ์ต้องรู้จักสิ

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” กิ่งแก้วหันมายิ้มน้อยๆ ให้กับคนถามแล้วส่ายหน้า “นี่เราจะไปไหนกันคะ” เธอถามอย่างคนไม่มีแผนในใจ แค่ชายหนุ่มมารับออกไปข้างนอกเธอก็มาดีกว่าอยู่บ้านด้วยความอึดอัดใจ เธอคิดเท่านั้น

“ทานข้าวแล้วไปดูหนังกัน แก้วอยากทานอาหารชาติไหนเป็นพิเศษไหม” กิ่งแก้วปรายตามองแฟนหนุ่มเจ้าสำอางและมีนิสัยไฮโซจ๋า อะไรๆ ก็ต้องเลิศหรูและแพงไว้ก่อนแล้วส่ายหน้า เพราะเชื่อได้เลยว่าอาหารอีสานร้านริมถนนที่เธออยากทานชายหนุ่มไม่มีทางยอมไปแน่

“ดีเลย เพราะพี่ตั้งใจจะพาแก้วไปทานอาหารจีน ร้านนี้พี่กับครอบครัวไปทานมาแล้วอร่อยมาก อาหารระดับฮ่องเต้ทั้งนั้นเชื่อเลยว่าถ้าแก้วได้ทานแล้วจะติดใจ” กิ่งแก้วยิ้มรับน้อยๆ ไม่ได้เอ่ยแย้งอะไร แม้ความจริงจะเป็นคนที่ทานอาหารรสจัดจ้าน ดังนั้นอาหารจีนที่มีรสชาติค่อนข้างจืดจึงไม่ใช่รสนิยมในการทานของเธอเท่าไหร่

“เดือนหน้าเราไปเกาหลีกันไหม” คนที่จู่ๆ ก็ถูกชวนไปเกาหลีแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำหน้าเหวอแล้วรีบถามกลับอย่างงงๆ

“ไปทำไมคะ”

“ไปทานอาหารเกาหลีกัน”

“ไปทานอาหาร!” กิ่งแก้วอุทานทำหน้าเบื่อหน่าย แค่ทางอาหารต้องหอบสังขารไปทานถึงเกาหลีเชียวหรือ เธอไม่เข้าใจจริงๆ

ตั้งแต่คบกันมาบ่อยครั้งที่แฟนหนุ่มชวนไปต่างประเทศด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าท่า อีกทั้งยังขยันสรรหาที่จะไปเสียเหลือเกิน และแน่นอนแต่ละที่นั้นล้วนอยู่ต่างประเทศ เธอเคยถามทำไมไม่เที่ยวที่เมืองไทย ซึ่งเธอเชื่อว่ามีสถานที่ที่สวยงามเยอะแยะ สวนเรื่องอาหารก็หลากหลายเชื้อชาติและอร่อยไม่แพ้ต้นตำรับก็มีไม่น้อย คำตอบที่ได้รับคือ ‘เมืองไทยจะไปเที่ยวตอนไหนก็ได้’ ได้ยินอย่างนั้นแล้วเธอก็ไม่คิดจะโต้แย้ง เราจะไปห้ามความคิดของเขาก็คงจะไม่ได้ และอีกอย่างเงินที่เขาใช้ซื้อตั๋วและไปเที่ยวก็เงินเขานี่นา แม้ในความคิดมันจะเป็นการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่ายไร้ความจำเป็นก็ตาม

“ใช่ ทานที่ไทยมาหลายร้านแล้ว พี่เลยอยากไปลองทานของต้นตำรับแท้ๆ ดูบ้าง ไม่ต้องห่วงนะพี่จะพาแก้วไปทานร้านที่ดีและแพงที่สุดในเกาหลีเลย ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยยังไงล่ะ”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ” หญิงสาวบอกอย่างเกรงใจ “และอีกอย่างแก้วก็ต้องทำงานด้วย”

“ลาหยุดไม่ได้เหรอ พี่เห็นแก้วทำงานแทบจะไม่มีวันหยุดเลยนะ ทำงานหนักอย่างนี้สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง ทำแต่งานๆๆ เครียดตายเลย” ชายหนุ่มบอกอย่างเป็นห่วง แต่ในขณะเดียวกันกิ่งแก้วก็อยากจะบอกคนข้างๆ เหลือเกินว่าเขาก็สมควรไปทำงานทำการบ้าง ไม่ใช่วันๆ หาแต่ที่จะเที่ยว จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกที่งานเลี้ยงเปิดตัวทายาทไฮโซบริษัทจิวเวอรี่ชื่อดัง ซึ่งน้าเขยเธอได้รับเชิญ เธอกับน้าจึงได้มีโอกาสไปร่วมงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วย ได้ประกาศว่าชเนศคือทายาทที่จะสืบทอดกิจการทั้งหมด แต่ดูเจ้าตัวตอนนี้สิยังลอยชายไม่เห็นจะสนใจกิจการที่ว่าสักนิด งานนี้ไม่รู้จะรุ่งหรือจะร่วง

“แก้วชอบทำงานค่ะ ตอนนี้ยังมีแรงต้องรีบทำงานเก็บเงินเอาไว้เยอะๆ อนาคตจะได้ไม่ลำบาก” คำพูดนั้นของกิ่งแก้วทำให้ชเนศถึงกับหลุดหัวเราะออกมา “พูดอย่างกับคนแก่แน่ะ”

“แก้วคิดอย่างนั้นจริงๆ นี่คะ อนาคตไม่แน่นอน”

“เรากำหนดอนาคตได้ และอนาคตของแก้วสบายแน่นอน เพราะทันทีที่เราแต่งงานกันแก้วจะต้องลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านดูแลพี่คนเดียว” ชายหนุ่มบอกพลางหันมาส่งสายตาหวานฉ่ำมีความหมายมาให้ ทำเอากิ่งแก้วถึงกับวางหน้าไม่ถูก เพราะถึงจะคบกันมาได้สักระยะแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของเธอเลย แม้ครั้งหนึ่งเธอจะเคยพูดประชดกับเพื่อนว่าถ้าแฟนหนุ่มขอแต่งงาน เธออาจจะตกลงก็เป็นได้ แต่พอเอาเข้าจริงเธอกลับทำไม่ได้

“คือเรื่องนั้นมันยังอีกตั้งไกล”

“ไกลที่ไหน เราคบกันแล้วอีกหน่อยก็แต่งงานกันอยู่ดีจริงไหม”

“เราเลิกคุยเรื่องนี้กันดีกว่านะคะ” กิ่งแก้วบอกและพยายามจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ทว่าดูเหมือนชายหนุ่มจะยังติดใจ

“ทำไม หรือแก้วมีคนอื่น” คราวนี้น้ำเสียงของชเนศเข้มขุ่นขึ้นกว่าเดิม

กิ่งแก้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไม่เข้าใจว่าทำไมไปๆ มาๆ เรื่องมันถึงกลับกลายมาเป็นอย่างนี้ “แก้วไม่มีใครคะ”

“แล้วทำไม...”

“เราเพิ่งคบกันได้ไม่นานอย่าเพิ่งคิดไปไกลนักเลยค่ะ อนาคตไม่มีอะไรแน่นอน”

“เรากำหนดอนาคตได้” ชายหนุ่มยังดื้อดึง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น และกิ่งแก้วก็คร้านจะต่อปากต่อคำกับผู้ชายงี่เง่า

บ่อยครั้งได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมถึงตกลงปลงใจรับชเนศมาเป็นแฟนทั้งที่ไม่ได้รู้สึกชอบพอ แต่คิดไปคิดมาเธอคงอยากหาใครสักคนมาแทนที่คนคนหนึ่ง

คนที่ซึ่งในอดีตมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ เธอจำกัดความความสัมพันธ์นั้นเอาเองว่า ทั้งเขาและเธอคงเป็น’มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน’ เขาและเธอไม่เคยเอ่ยถึงความรู้สึกหรือการพัฒนาความสัมพันธ์ในครั้งนั้นว่าจะให้มันเป็นไปในทิศทางไหน แต่จะให้คิดว่าเป็นเพื่อนกันก็คงไม่มีเพื่อนคนไหนจูบกันลึกซึ้งหรอก ถามว่ารอไหม บอกตรงๆ เลยว่ารอทุกลมหายใจลุ้นว่าเมื่อไหร่ชายหนุ่มจะเอ่ยความในใจที่แอบคิดเข้าข้างตัวเองแล้วว่าตรงกัน

จนกระทั่งถึงวันที่เขาต้องกลับอังกฤษพร้อมเจ้านายความหวังก็ถูกดับสนิท คาร์ลอสบอกลาธรรมดาเพียงสั้นๆ ว่า ‘ผมไปนะ’ ไม่มีแม้แต่คำว่า ‘แล้วพบกัน’ นั่นหมายความว่าอะไรถ้าไม่หมายความว่าเขาไม่ต้องการพบเธออีกและที่ผ่านมามันคืออารมณ์พาไปหรืออะไรก็มิอาจทราบได้ แต่สำหรับเธอมันคือความรู้สึกล้วนๆ และจนถึงทุกวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังคุกรุ่นอยู่ในใจไม่ลืมเลือนและไม่รู้จะหาใครมาลบล้างมันออกไป

เพราะจากวันนั้นจนถึงวันนี้เธอยังหาไม่เจอสักคน...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel