บทที่ 9 สื่อปลิดชีพ
“มันตายเฉพาะเจ้าสาว แปลกมั้ยล่ะ สงสัยผีเจ้าบ่าวว่ะ เลือกเจ้าสาวไปอยู่ด้วย ทีนี้ใครจะอยากแต่งงานวะ ศพนี้เป็นศพที่แปด จะมีศพที่เก้ามั้ยวะ”
“ไม่รู้สิ รอดูกันต่อไปแต่ใครจะกล้าจัดงานแต่งล่ะ คงไม่มีใครกล้าแล้วแหละ”
“กูอยากรู้ ทำไมตายเฉพาะเจ้าสาว”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันพี่”
“เฮ้ย.ไอ้สิงห์ เอ็งรู้มั้ยวะ”
“ไม่รู้จ้ะเฮีย”
สีหราชตอบและรีบจ่ายค่าข้าว ไม่อยากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เจ้าสาวจึงถูกปลิดชีวิตและแหวนหมั้นทับทิมล้อมเพชรหายไป แหวนวงนั้นมันเป็นแหวนมรณะ มันเป็นสื่อมรณะ หากเจ้าสาวคนไหนสวมมัน เจ้าสาวคนนั้นจะต้องจบชีวิตโดยหาตัวฆาตกรไม่พบและไม่มีวันพบ ตราบใดที่ยังหาตัวเจ้าบ่าวตัวจริงยังไม่เจอ
“ฉันไม่มีทางเลือกจริง ๆ หรือ ไม่มีเลยหรือ ฮือ ฮื่อ ฮือ...”
ความผิดพลาดในคืนวันขึ้น 8 ค่ำคืนนั้น ทำให้เขาติดบ่วงบาปมาจนถึงทุกวันนี้ หากเขาไม่พาพวกกำนันอินไปงานแต่งงานแสงหล้ากับบุญยืน วันนั้นกำนันอินโกรธบุญยืน ให้ลูกน้องยิงบุญยืนขณะนั่งคู่กับเจ้าสาว ทุกคนมาร่วมในงานแตกตื่น พ่อแม่เจ้าบ่าวเข้าขวางและทำร้ายลูกน้องกำนัน ส่วนตัวกำนันหนีออกจากงาน ก่อนออกไป ฉุดแสงหล้าไปด้วย แหวนนิ้วนางข้างซ้ายของแสงหล้า กำนันอินให้ลูกน้องถอดออกและทำร้ายแสงหล้าจนสลบ จากนั้นนำร่างแสงหล้าไปทิ้งในห้วย ไกลจากหมู่บ้านหลายสิบกิโลเมตร
แหวนหมั้นวงนั้น กำนันนำมาให้ลูกสาวคนเดียวของเขาซึ่งกำลังตั้งท้อง 3 เดือนและลูกในท้องของอำไพเป็นลูกบุญยืน อำไพรักกับบุญยืนลูกชายเศรษฐีนาข้าว ไม่ถูกกับกำนันอินซึ่งเป็นตระกูลผู้ดีเก่าที่ไม่ร่ำรวย บุญยืนรักอำไพแต่ถูกบังคับให้แต่งงานกับแสงหล้าลูกสาวนายอำเภอ
ความรักทำให้อำไพยอมเสียสละสามีให้กับเพื่อน แสงหล้าไม่รู้ว่าอำไพท้องจึงตกลงแต่งงานกับบุญยืน กำนันอินโกรธแค้นบุญยืนจึงทำในสิ่งผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองเสียเอง สั่งฆ่าบุญยืนโดยไม่ทันคิดถึงสิ่งที่จะตามมาและสั่งทำร้ายแสงหล้าแม้ไม่มีเจตนาฆ่าแต่สุดท้ายแสงหล้าเสียชีวิตในลำห้วยแห่งนั้น
สีหราชหรือสิงห์ไม่เคยลืมเหตุการณ์ในวันนั้น เขาเป็นคนนำกำนันอินเข้าไปในบ้านบุญยืน เขาคือสื่อมรณะตัวจริง เขาอิจฉาบุญยืน แสงหล้ารักบุญยืนแทนที่จะเป็นเขา สีหราชเป็นลูกน้าของบุญยืนไม่มีเงินทองมากมาย ไม่มีที่ดินเป็นร้อยไร่เช่นบุญยืน แสงหล้าจึงไม่สนใจเขามากไปกว่าเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น
เขาไม่มีเจตนาพากำนันมาปลิดชีพบุญยืนและทำให้แสงหล้าเสียชีวิต เขาต้องการแค่ให้กำนันมาเปิดโปงเบื้องหลังเจ้าบ่าวมีคนรักและคนรักกำลังตั้งท้องแค่นั้นแต่กำนันทำรุนแรงอย่างที่เขาไม่คาดคิดว่ากำนันอินจะทำกับลูกเขยไม่เป็นทางการเช่นนั้น
ข่าวการเสียชีวิตของลูกสาวนายอำเภอเป็นที่โจทขานกันทั่วทั้งเมือง แสงหล้าเสียชีวิตริมลำห้วยในชุดเจ้าสาวสีขาวส่วนบุญยืนอาการสาหัสและเสียชีวิตหลังจากพิธีฝังศพแสงหล้าผ่านไปเพียงคืนเดียวเท่านั้น ก่อนบุญยืนจะหมดลมหายใจ เขาพร่ำเรียกอำไพและร้องขอชีวิตกับใครบางคนซึ่งพ่อแม่และญาติพี่น้องมองไม่เห็น
“อย่า อย่า ฉันไม่ไปกับเธอ ฉันจะไปหาเมียฉัน ฉันไม่ไป อย่า อย่า อย่า”
จากนั้นบุญยืนสำลักออกมาเป็นเลือดสีแดงสดเต็มเตียงคนไข้ จบชีวิตด้วยดวงตาเบิกกว้างเพราะความกลัว
พิธีศพของบุญยืนมีพระอาจารย์เรียนเกี่ยวกับไสยศาสตร์มาทำพิธีส่งวิญญาณ ปลดปล่อยดวงวิญญาณของบุญยืนได้สำเร็จแต่ไม่สามารถช่วยแสงหล้าได้เพราะความแค้นมีมากเกินจนบดบังดวงวิญญาณไม่มีใครเข้าไปถึงได้
แสงหล้าตามแหวนทับทิมล้อมเพชรของหล่อนจากนิ้วนางข้างซ้ายของหลานกำนันอินเป็นคนแรกในสามปีผ่านมา หลานสาวกำนันเสียชีวิตปริศนาท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของกำนันและแหวนทับทิมของขวัญจากกำนันหายไปพร้อมลมหายใจของหลานสาว
“ใครมันฆ่าหลานสาวกู กูจะตามล่ามันให้ถึงที่สุด”
กำนันอินเกณฑ์ลูกน้องตามหาตัวคนร้ายแทบพลิกแผ่นดินก็หาตัวคนร้ายไม่ได้แต่ที่หาเจอคือแหวนวงนั้น
“กำนัน กำนัน แหวน แหวน”
ลูกน้องตะโกนเรียกกำนันอินจากชายป่าซึ่งเป็นป่าละเมาะห่างจากบ้านกำนันอินไม่ถึงกิโลเมตร จุดนั้นเป็นจุดพบศพหลานสาวกำนัน
“แหวนอะไรวะ”
“แหวนเจ้าสาวจ้ะกำนัน”
“เอ็งเจอตรงไหน”
กำนันรับแหวนจากมือลูกน้อง เขาถามจุดพบแหวนด้วยใจเต้นแรง ความโกรธวิ่งพล่านอยู่ในอก ลูกน้องของเขาเป็นฆาตกรหรือแต่คำตอบของลูกน้องเปลี่ยนความโกรธเป็นความสงสัย
“ใต้ต้นไม้จ้ะ ห่อผ้านี่อยู่ ปลายผ้าโผล่พ้นดินออกมา ฉันกับไอ้พวกนี้จะเลยไปแล้ว ไอ้นั่นมันเรียกไว้”
ลูกน้องชี้มือไปหาเด็กวัย 10 ขวบเศษ ๆ เป็นผู้พบชายผ้าขาวโผล่พ้นดิน คนร้ายฝังแหวนเพื่อปกปิดความผิด ทำไมไม่นำแหวนไปหรือจะย้อนกลับมาเอาแหวนทีหลัง
“มันต้องกลับมาเอาแหวนแน่ ๆ ซุ่มรอมันจนกว่าจะได้ตัว เข้าใจมั้ย”
“จ้ะกำนัน”
ลูกน้องกำนันซุ่มเฝ้าตลอดทั้งคืนก็ไม่เห็นเงาใครสักคน แหวนถูกฝังไว้ที่เดิม ปลายผ้าขาวโผล่พ้นดินเช่นเดิม
เวลาผ่านไปจากวันเป็นคืนและจากสองวันเป็นสามและสี่ ไม่มีใครมาใต้ต้นไม้ กำนันอินไม่ละความพยายามหาตัวคนฆ่าหลานสาว เขาตั้งรางวัลเป็นค่าตัวคนร้ายสูงถึง 1 หมื่นบาทแต่ก็ไม่มีใครหาตัวคนร้ายพบสักคน
“กำนัน วันนี้ก็ครึ่งเดือนแล้วนะ ไม่มีใครหาตัวมันเจอ ฉันว่ากำนันเก็บแหวนไว้ดีกว่า”
“ก็ดี ขุดมาให้ข้า”
“จ้ะ”
ลูกน้องใช้เสียบขุดดินออกจากผ้าขาว ดึงผ้าออกมา ห่อผ้ายังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม กำนันถือห่อผ้ากลับเข้าบ้าน เขาต้องตามหาคนร้ายมารับโทษให้ได้
สีหราชหายตัวไปจากหมู่บ้านหลังงานศพบุญยืนเสร็จสิ้น เขาบอกญาติพี่น้องว่าจะไปหางานทำในเมือง การเสียชีวิตของแสงหล้ากับบุญยืนเป็นเพราะเขาคนเดียว หากไม่อิจฉาญาติผู้พี่ยอมรับความเจ็บช้ำใจเพียงคนเดียว ไม่พากำนันไปงานแต่งงานบุญยืนก็คงไม่เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น เขาทนอยู่ในหมู่บ้านอีกต่อไปไม่ได้
ไม่มีใครรู้ว่าสีหราชไปอยู่ที่ไหนแต่สีหราชรู้ข่าวคนในหมู่บ้านเป็นระยะ ๆ อำไพคลอดลูกชาย หล่อนเห็นหน้าลูกเพียงไม่กี่นาทีก็เสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ กำนันอินโกรธเกลียดเด็กชาย กล่าวโทษเด็กว่าเป็นตัวซวยทำให้แม่ตายและทำให้เขาเกือบติดคุก เขายกหลานชายให้กับญาติในเมืองใหญ่และไม่รับรู้เรื่องเกี่ยวกับหลานอีกเลย นับจากหลานพ้นชายคาบ้านของเขาไปแล้ว