บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 อันตรายรอบตัว

“เฮ้ย.ฉันตายแล้วเหรอวะเนี่ย”

เสียงร้องไม่เบานัก คนอยู่นอกห้องเปิดประตูก้าวเร็ว ๆ เข้ามาถึงเตียง ดวงตาสีเข้มจับนิ่งที่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแต่ซีดเซียวของหญิงสาว

“สารวัตร...”

“เป็นอะไร” คำถามห้วน ๆ แต่ใบหน้าและดวงตาฉายแววห่วงใย ปิ่นแก้วไม่หลบดวงตาคู่เข้ม

“เรายังไม่ตายใช่ไหม”

“อือ...ลุกไปล้างหน้า เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ผมจะไปส่งที่บ้าน”

เขาอยากกอดหล่อน เรียกขวัญให้หล่อน ลูบหลัง ลูบศีรษะทำเหมือนผู้ใหญ่ปลอบเด็กเวลาตกใจเสียขวัญแต่เขาทำได้แค่สั่งให้หล่อนลุกจากเตียงเท่านั้น

“ฉันอยู่ที่ไหน”

“บ้านพักผม”

“หา...คุณพาฉันมายังไงเนี่ย ใครเห็นบ้างแล้วเรารอดมาได้ยังไง เสียงปืนยังกับฟ้าจะถล่ม คุณเป็นอะไรรึเปล่า”

ไม่ใช่ทำตามคำสั่งเขาแต่หล่อนลุกจากเตียงราวกับติดสปริงเพราะเป็นห่วงเขา ทำไมต้องห่วงจนลืมตัว กระโดดเข้ามาเขย่าแขนเขาแรง ๆ จนเขาร้อง

“โอ๊ย...”

“เอ่อ.ขอโทษ คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย เรารอดมาได้ยังไง”

คำถามนั้นเหมือนคนละเมอมากกว่าอยากรู้คำตอบ พีรวัสทรุดนั่งบนเตียง ขยับเข้าชิดหญิงสาว รั้งร่างหล่อนมากอดรัดแน่นขึ้นเพื่อให้ความอบอุ่นกับหล่อน ความกลัวยังคงค้างคาอยู่ในใจหล่อน ปิ่นแก้วเป็นหญิงแกร่ง ห้าวแต่เวลานั้นทำให้เขารู้จักหล่อน ความอ่อนโยนและหวาดกลัวยังอยู่กับหล่อน ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ทอมบอย ไม่ใช่คนเก่งฉกาจใด ๆ ยังคงเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น

“ไม่เป็นอะไร ผมไม่เป็นอะไร คุณล่ะเป็นไงบ้าง ยังกลัวอยู่ใช่ไหม ผมขอโทษ พาคุณไปเจอกับเรื่องร้าย ๆ เดี๋ยวผมไปส่งบ้านนะ ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้า วีรออยู่ข้างนอก เราจะกินข้าวด้วยกัน”

พยายามอย่างที่สุดเพื่อให้เสียงอ่อนโยน อ้อมกอดอบอุ่นสำหรับหล่อน ช่วยให้ใจเต้นแรง เลือดสูบฉีดทั่วเรือนร่าง ความกลัวต่าง ๆ ทยอยลดน้อยลงและหายไป เหลือเพียงหัวใจเต้นรัว เจ้าชายซาตานกอดหล่อนแน่นเกินไปหรือเปล่า

“ปล่อยสิ กอดแน่นยังงี้จะไปห้องน้ำได้ไง ฉวยโอกาสเก่งนี่สารวัตร”

ความเขินหรืออะไรทำให้ร่างนุ่มผลักไสสารวัตรหนุ่มออกและไม่ถนอมแรงผลัก ร่างของเขากลิ้งตกเตียง

“โอ๊ย...”

แขนข้างถูกยิงกระแทกกับพื้น เจ้าของร้องไม่ออมเสียงเช่นกัน คนกระทำเลื่อนตัวลงจากเตียงทรุดนั่งข้างเขา

“ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ เจ็บตรงไหน”

“ไม่เป็นไร”

กิริยาเคร่งขรึมกลับมาให้หญิงสาวอึดอัด เขาชอบทำอย่างนี้ หล่อนจึงไม่อยากเข้าใกล้ เมื่อเขาไล่ก็ไม่ง้อ หล่อนเดินออกจากห้องนอน ด้านนอกมีห้องน้ำอยู่ทางขวามือซึ่งอยู่ทิศตะวันตก ด้านซ้ายเป็นมุมนั่งเล่น มีตู้หนังสือและโต๊ะเล็ก ๆ ถัดมาเป็นโต๊ะสำหรับทานอาหาร หล่อนรีบเข้าห้องน้ำเมื่อเจ้าของบ้านเดินตามออกมาจากห้องนอน

“เป็นไงพี่ เจ็บแผลเหรอ”

วีรชนเพิ่งเข้ามาในบ้านพักสารวัตร เขากลับไปเอารถตัวเองที่ร้านอาหาร อัศนีและนาวินทำตัวหายไปจากกลุ่มฝูงชนและตำรวจหลายนายเข้ามาเคลียร์พื้นที่ วีรชนบอกกับเพื่อนตำรวจว่า

“น่าจะเข้าใจผิด ไม่มีอะไรหรอก ผมไม่เคยมีศัตรูที่ไหน”

การเข้าใจผิดของคนกลุ่มนั้นร้ายเกินกว่าจะให้อภัยและไม่อาจให้ตำรวจบางคนรู้เรื่องนี้ได้ สารวัตรพีรวัสและหมวดวีรชนต่างรู้พอ ๆ กันว่ามีตำรวจบางนายเป็นสายให้กับอำนาจจรัสเพราะต้องการอยู่ในสถานีตำรวจโกญจนาทยาวนานและเลื่อนยศได้ง่าย

“ร้อยตำรวจเอกสรสิชหรือหมวดสิช ต้องระวังอย่างมากนะวี ฝากบอกสารวัตรด้วย”

“ผมกับพี่วัสรู้แล้วครับ พี่โอ๊ก พี่วิน ระวังด้วยนะครับ ถ้าพวกมันเห็นพี่ จะอยู่ที่นี่ยาก”

“ไม่ต้องห่วง เจอกันแล้ว พี่ขายเครื่องปั่นผลไม้ให้มัน”

เสียงหัวเราะดังขึ้นแต่เพียงครู่เดียวก็เงียบและทุกอย่างอยู่ในความเงียบสนิทเมื่อรถแล่นห่างจากบ้านพักสารวัตร

“อือ. แม่เพื่อนรักแกแผลงฤทธิ์” พีรวัสพูดเหมือนฟ้องลูกน้อง สาเหตุการเจ็บแผลมาจากปิ่นแก้วแต่ไม่อธิบายชัดเจนว่าแผลงฤทธิ์อะไรจึงเจ็บแผลจนนิ่วหน้าอย่างนี้

“ส่งพี่โอ๊กแล้วเหรอ”

“ครับ พี่โอ๊กกับพี่วินเตือนให้ระวังหมวดสิช ผมบอกไปว่าเรารู้ตัวกันแล้ว”

“ลูกน้องเขาล่ะรวมทีมกี่คน ฉันจะได้คัดถูกว่าควรทำยังไง หมู่กรด้วยรึเปล่า”

“ไม่แน่ใจ หมู่กรตลกเฮฮา ไม่ค่อยไปไหนกับหมวดสิช มีแต่หมู่โรจน์กับหมู่วิล ไปด้วยกันตลอด”

“ไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่าใครบ้าง จับตาดูให้ดี”

“โอ.เค. อ้าวไอ้ปิ่น ตื่นแล้วเหรอวะ ไงเพื่อน กลัวจนสลบเลยเหรอ”

วีรชนรู้หน้าที่ของตนดีว่าต้องทำอย่างไรกับรายชื่อที่เขาเอ่ยขึ้นเมื่อครู่นี้ ปิ่นแก้วได้ยินเขาพูดกับพีรวัส ไม่แน่ใจว่าทั้งหมดหรือเปล่า เขาจึงแก้สถานการณ์ด้วยการทักทายเพื่อนเสียงดังกว่าปกติ พีรวัสสบตาลูกน้องจึงเข้าใจ ปิ่นแก้วรู้เรื่องนี้ไม่ได้

“ใครบ้างไม่กลัว เจอแบบฉันก็ลมใส่ทุกคนแหละยกเว้นแกมั้งไอ้หมวดกระดูกเหล็กระวังเถอะ กระดูกเหล็กจะเจอกระสุนเหล็กเจาะเข้าสักวัน” ปิ่นแก้วพูดใส่หน้าเพื่อนรัก

“อ้าว ๆ ไอ้นี่ แช่งเพื่อนเหรอวะ พี่วัสจัดการมันให้ที มันบังอาจแช่งตำรวจน่าเลิฟอย่างเรา”

“น่าเลิฟตายแหละ”

ตอบโต้คำกับเพื่อนรักแต่ทำไมใจเต้นแรงเมื่อคิดถึงคำว่ารัก ชายหนุ่มเจ้าของบ้านยืนหันหลังให้หล่อน เพียงด้านหลังเขาก็ดูเท่จนใจไหวหวั่น หล่อนชอบผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าชายซาตาน ชอบไปได้อย่างไร ไม่ชอบ หล่อนไม่ได้ชอบพีรวัส คำคัดค้านในใจเหมือนจะเบากว่าคำพูดจากปากเจ้าตัว

“กินข้าว จะได้กลับบ้าน ป่านนี้แม่คุณเป็นห่วงแย่แล้ว”

“กี่โมงแล้วเนี่ยวี” หล่อนไม่สนใจคำพูดของสารวัตรหนุ่ม เขาชอบออกคำสั่งกับหล่อนและใช้สายตาดุ บังคับทางอ้อม หล่อนต้องทำตามเขา ทำไมต้องทำตามก็ตอบตัวเองไม่ได้ ครั้งนี้หล่อนจะฝืนลองดูสักครั้ง

“สามทุ่ม”

“หา...สามทุ่ม ตายเลยฉัน แม่ด่าแล้ว แกไปส่งฉันทีวี”

คำตอบของเพื่อนรัก ราวกับดวงไฟรนก้นร้อนยืนนิ่งไม่ได้ หล่อนตรงเข้าไปคว้ามือวีรชนแต่พีรวัสใช้เสียงเข้มหยุดหล่อนไว้

“ไม่ได้ กินข้าวก่อน เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”

“พี่วัส อันตรายนะ มันจ้องเล่นงานพี่อยู่ ผมไปส่งเองดีกว่า”

“ถ้ามันจะเล่น อยู่ไหนมันก็กล้า ตอนนี้มันเจ็บไม่ใช่เหรอ คงยังไม่ลงมือซ้ำ ถ้าแกกลัวก็ไปกับฉัน”

“ได้พี่ ไอ้ปิ่นกินข้าวเร็ว” วีรชนรับคำพีรวัสแล้วหันมาเร่งเพื่อนทานอาหารค่ำ

ปิ่นแก้วคลายความกลัวเหตุการณ์เมื่อตอนสายของวันนี้ อันตรายอยู่รอบข้างพีรวัสกับวีรชน ใครจ้องทำร้ายตำรวจ 2 นายนี้ คนใหญ่คนใหม่ในเมืองนี้อย่างนั้นหรือ ทำไมต้องทำร้ายตำรวจ สัญชาตญาณของนักข่าวเข้าสิงหัวใจของหล่อนทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel