บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ลองดี เจอดี

บ้านของอัศนี นาวินและลูกน้องอยู่ท้ายซอย พวกเขาเช่าบ้านหลังเล็กอยู่ เจ้าของบ้านเช่ารู้เพียงว่าอัศนีกับน้อง ๆ เป็นเซลแมนขายเครื่องใช้ไฟฟ้า พวกเขาออกจากบ้านไม่เป็นเวลา บางวันเช้ามืด บางวันเที่ยง บางวันไม่กลับมาและไม่ออกไปก็มี

ซอยถัดไปเป็นทางเข้าบ้านสีหราชซึ่งอีกซอยเป็นทางเข้าบ้านปิ่นแก้ว เสียงร้องไห้จากบ้านท้ายซอยกลางผ่านเข้ามาถึงบ้านอัศนี ทุกคนได้ยินและสงสัยเหมือน ๆ กันว่า ใครร้องไห้ ร้องทำไม พวกเขากำลังหาทางพิสูจน์เสียงร้องนั้นแต่น่าแปลกทุกครั้งที่เตรียมออกไปค้นหาความจริงตามเสียงร้องไห้ ต้องมีงานด่วนเข้ามาทุกครั้ง อย่างวันนี้ อัศนีกับลูกน้องรีบออกจากบ้าน

“ดูแลหมวดวีเดี๋ยวนี้”

ต้นเสียงสั่งเฉียบขาด บอกจุดที่อยู่ของวีรชน อัศนีพาลูกน้องไปถึงวีรชนขณะเสียงปืนดังสนั่น อัศนีช่วยวีรชนพ้นวงล้อมลูกปืนและให้วีรชนส่งข่าวพีรวัสทันที

อัศนีกับลูกน้องไม่ลืมเสียงร้องไห้แต่พวกเขายังไปหาสาเหตุของเสียงนั้นไม่ได้ ผู้ใหญ่กำชับให้ช่วยสะสางคดีใหญ่ให้สิ้นสุดโดยเร็ว หากปิดคดีได้เร็วมากเท่าไหร่ ผู้ใหญ่ของพวกเขาจะพ้นมลทินรับสินบนจากเสี่ยก้องเกียรติและผู้ที่สั่งฆ่าก้องเกียรติจะถูกเปิดตัว

พลตำรวจโทไชยา อนันตสาส์น เก็บตัวเงียบในบ้านกลางป่าแต่ความเคลื่อนไหวในหน้าที่ไม่ได้เก็บเข้าลิ้นชักล็อกกุญแจ เขาถูกคำสั่งจากนายใหญ่อีกที พักราชการชั่วคราวกับข่าวรับสินบนเสี่ยก้องเกียรติ ข่าวยังไม่กรองออกมาไม่ถึงอาทิตย์ ก้องเกียรติถูกลอบสังหาร นักข่าวและญาติพี่น้องของก้องเกียรติจึงพุ่งความสงสัยมาที่พลฯโทไชยา

“คุณรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอย่างไรกับตัวเอง นี่เป็นคำสั่งชั่วคราวเท่านั้นแต่ระหว่างพักผ่อนให้หาตัวคนทำให้ได้ อยากได้ใครไปช่วยบอกมา อ้อ.อย่าให้เอิกเหริก”

นายพูดสั้น ๆ แค่นั้นและจากวันนั้นพลตำรวจโทไชยาก็หายไปจากวงจรของกองปราบ ร้อยตำรวจเอกอัศนีกับร้อยตำรวจโทนาวินรู้ถึงการหายตัวไปของผู้บังคับบัญชาและรู้ดีว่าต้องช่วยนายอย่างไร

งานในเมืองโกญจนาทเป็นงานสำคัญ พวกเขาต้องทำให้สำเร็จ พีรวัสและวีรชนรู้เรื่องไชยาเช่นกัน นอกจากตำรวจ ผู้มีอิทธิพลในเมืองก็รับรู้เช่นเดียวกัน

อำนาจจรัสทำตัวเป็นใหญ่แทนก้องเกียรติและพยายามรวบรวมตำรวจทุกนายขึ้นตรงต่ออำนาจความยิ่งใหญ่ของเขาแต่พีรวัสไม่ใช่ตำรวจขายศักดิ์ศรี เขาจึงไม่ยอมก้มศีรษะให้กับอำนาจจรัสและนั่นเป็นเหตุผลของการถูกไล่ล่าชนิดเปิดเผยไม่ใช่แอบซ่อน

วีรชนถูกทาบทามจริงจัง เขาใช้วิธีร่าเริง สนุกสนานปฏิเสธทีเล่นทีจริงแต่วันนี้เขาจำเป็นต้องตัดปัญหาเลื่อนซองสีน้ำตาลกลับไปตรงหน้าทรงวุฒิลูกน้องคนสนิทของอำนาจจรัส ทรงวุฒิไม่รับซองคืน

“หมวด รับไว้พิจารณาก่อนก็ได้ อย่าเพิ่งคืนผม ผมจะได้ไปบอกเสี่ยว่าหมวดขอคิดดูก่อนไงครับ”

“ไม่ดีกว่าครับ เงินเดือนผมพอใช้ครับ ฝากขอบคุณเสี่ยอำนาจจรัสด้วยครับ ผมขอตัวนะครับ มีงานรออยู่ที่โรงพักครับ ว่าจะจับไอ้พวกสารเลวเที่ยวโยนระเบิดให้ชาวบ้านเดือดร้อนสักสองสามคน อยากรู้นัก ถ้าตำรวจโยนระเบิดใส่บ้านมันเนี่ย มันจะร้องยังไง”

“หมวดพูดยังงี้แสดงว่าต้องการลองดีกับเสี่ยใช่มั้ย ถ้ายังงั้นก็ได้ ผมจะบอกเสี่ยให้นะครับ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะครับ อย่าตายข้างถนนอย่างหมาล่ะหมวด ฮะฮะฮะฮะฮะฮะ เฮ้ย.พวกมึง ได้เวลากลับแล้วว่ะ” ทรงวุฒิเป็นฝ่ายเดินออกจากร้านอาหารก่อนวีรชน สายตาและคำพูดของลูกน้องอำนาจจรัสเตือนภัยได้เป็นอย่างดี วีรชนเลื่อนมือมาที่เอวโดยอัตโนมัติและวินาทีนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น

“ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง”

ร่างนายตำรวจหนุ่มล้มลงกับพื้นกลิ้งตัวลงจากพื้นไม้ของร้านอาหารตกสู่พงหญ้าด้านล่าง เสียงปืนดังขึ้นอีก

“จะรอดมั้ยวะกู”

คำนั้นดังเพื่อปลอบใจตัวเอง เขาออกมาพบทรงวุฒิตามนัดที่ร้านอาหารแห่งนี้เพียงลำพัง เขาบอกพีรวัสว่ามีนัดสำคัญและมันเป็นนัดสำคัญจริง ๆ นัดเพื่อเอาชีวิตมาทิ้ง

“ไม่สิ ยังไงก็ต้องรอดไปช่วยพี่วัสก่อน”

พงหญ้าด้านหลังถูกเหยียบแรงและเร็ว เขาแนบหน้ากับกอหญ้าแต่ไม่ทัน คอเสื้อเขาถูกกระชากอย่างแรง ปืนในมือถูกแย่งออกไปรวดเร็วเช่นเดียวกับถูกกระชากเสื้อ

“ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง”

เสียงปืนดังอีกและเสียงรถแล่นออกจากหน้าร้านอาหารแบบเร่งรีบ รถอีกคันแล่นตามออกไป...

วีรชนเห็นหน้าคนช่วยชีวิตเขา เมื่อรถแล่นห่างจากร้านอาหาร อัศนีไม่ใช่คนแปลกหน้าแต่นาวินเป็นคนแปลกหน้า สัญชาตญาณของผู้หมวดหนุ่มบอกให้รู้ว่า นาวินไม่ใช่คนร้าย

“พี่โอ๊ก มายังไง รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่ ผมไม่ได้บอกใคร สารวัตรผมก็ไม่ได้บอก”

“เออน่ะ ถามสารวัตรเดี๋ยวนี้ ก่อนที่เราจะไปช่วยไม่ทัน เร็ว”

ไม่มีคำอธิบายนอกจากคำสั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม สารวัตรด้วยหรือ พีรวัสกำลังอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกับเขา เมื่อเช้าเขาเห็นพีรวัสขับรถออกจากบ้านพักไปทางหมู่บ้านที่ปิ่นแก้วอยู่ ปิ่นแก้วอยู่กับพีรวัสหรือเปล่า

ไม่มีเวลาคิดมาก ห่วงเพื่อนเท่า ๆ กับห่วงผู้บังคับบัญชา พีรวัสถูกโจมตีอย่างที่อัศนีคาดเดาจริง ๆ หากพวกเขาไปช้ากว่านั้น พีรวัสก็คงเหลือแต่เชื่อ ความสำเร็จของผู้มีอิทธิพลขยับขึ้นอีกขั้นหนึ่งซึ่งหน่วยกองปราบภาคพิเศษ ไม่ยอมให้คนอยากใหญ่ประสบความสำเร็จง่าย ๆ

ปิ่นแก้วลืมตามองเพดานห้อง หล่อนอยู่ที่ไหน ห้องนี้ไม่ใช่ห้องนอนของหล่อน ดวงไฟกลางห้องทรงกลมเหมือนห้องหล่อนแต่ลายดอกไม้ต่างกัน สีโคมไฟก็คนละสี หล่อนหลับตาลงอีกครั้งเพื่อลำดับเหตุการณ์หลังจากพีรวัสฉุดแขนหล่อนวิ่งออกจากร้านอาหาร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel