บทที่ 13 สายสืบ

“ไปด้วยกันหน่อยคุณนักข่าว เชิญที่รถ คนอื่นห้ามยุ่งนะ ไม่งั้นยายนี่ไส้แตกแน่”

รอยยิ้มของหญิงสาวหุบลงแบบฉับพลันทันใด คน 3 คนไม่ล้อเล่น สีหน้าแต่ละคนน่ากลัว ดวงตาของพวกเขาอยู่ใต้แว่นกันแดดสีดำจึงเดาไม่ถูกว่าพวกเขากำลังจะทำอะไรกับหล่อน

“ไปทั้งสองคน เร็ว ๆ อย่ายึกยัก ถ้ายังอยากหายใจ”

คนเป็นหัวหน้าออกคำสั่งอีกครั้ง คนที่สองคุมตัวปิ่นแก้ว คนที่สามคุมชุมพล บังคับให้เดินไปขึ้นรถกระบะสีขาวแต่ปิ่นแก้วไม่ยอม หล่อนโผเข้าไปกอดพีรวัสโดยที่เขาไม่ทันระวัง แผนจับตัวนักข่าวเป็นแผนพีรวัส วีรชนเพิ่งรู้ตอนนั่งรถออกมาจากสถานีตำรวจด้วยกัน

“จับมันไปทำไมพี่ เดี๋ยวมันได้ร้องเรียนถึงกรมฯ หรอก ไอ้นี่มันผิดมนุษย์นะพี่”

“เออน่ะ เพื่อนแกไม่กล้าหรอกเชื่อเถอะน่ะ เราแค่หยอกเล่นแค่นั้นไม่มีอะไรมาก”

“พี่ทำยังงี้ต้องมีเหตุผล”

“ใช่ เหตุผลคือ ไม่ให้ยายเพื่อนรักของแก เข้าไปวุ่นวายในบ้านเสี่ยก้อง ตอนนี้เสี่ยใหม่กำลังทำอะไรสักอย่าง พี่โอ๊กให้ระวังตัว ข่าวไม่ได้กรองวันนี้ เพื่อนแกลุยถึงบ้านคุณกนกพร อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าคุณกนกพรปฏิเสธ เผลอ ๆ กล่าวหาว่าเพื่อนแกสร้างข่าวหาเรื่องเข้าบ้านเขาละก็ ยุ่งหนักแน่งานนี้”

“คุณกนกพรเป็นคนดีนะพี่ ผมอยู่ที่นี่มาหลายปี ไม่มีข่าวเสียของแกเลย พี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอ”

“เออน่ะ ให้ยายนั่นไปกับพวกพี่โอ๊กแป๊บเดียว”

เมื่อพีรวัสยืนยันจะให้อัศนีนำตัวปิ่นแก้วกับชุมพลไปด้วย วีรชนจึงต้องเงียบ เหตุผลของสารวัตรย่อมมีและน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญของเขากับการจับตัวนักข่าวไป

ปิ่นแก้วไม่กลัวผู้ที่เชิญตัวหล่อนกับชุมพลมาขึ้นรถและขับออกมาจากตลาด พีรวัสรู้เห็นการกระทำของคน 3 คน วีรชนก็รู้เช่นกัน พวกเขาแกล้งหล่อนแรงเกินไปหรือเปล่า

“จับพวกเรามาทำไม พวกคุณเป็นพวกสารวัตรไม่ใช่เหรอคะ”

หล่อนถามเมื่อรถแล่นออกมาครู่หนึ่ง ชุมพลมองหน้าชายหนุ่มวัยต่างจากเขาและน่าจะวัยเดียวกับเขา 1 คน

“จะพาเราไปไหนครับ”

“พาไปพักผ่อน สารวัตรสั่งมา”

“สั่งเก็บพวกเราเชียวเหรอ เราไปทำอะไรให้ จอดรถเดี๋ยวนี้เลย คุยกันให้รู้เรื่อง”

ปิ่นแก้วโวยวายดังลั่นรถ ชุมพลยกมือปิดปากเพื่อนไว้ อัศนีกับนาวินยิ้ม บุรีทำหน้าที่คนขับรถอย่างดี ไม่จอดรถตามคำของหญิงสาว

“ใจเย็น ๆ สารวัตรช่วยพวกคุณ ถ้าปล่อยคุณไปบ้านเสี่ยก้อง เสี่ยอำนาจจรัสรู้ต้องฉกตัวคุณสองคนไป ไม่ได้พาไปเหมือนที่พวกเราพามานะแต่พวกนั้นจะพาไปทรมานเพื่อให้ได้ข่าวของคุณกนกพร”

“คิดมากหรือเปล่าครับ เสี่ยอำนาจจรัสไม่ต้องพึ่งนักข่าว พวกเขาก็สืบจนได้นั่นแหละครับ”

“นี่แหละที่เราต้องการปรึกษาพวกคุณ เสี่ยอำนาจจรัสกำลังทำอะไรรู้มั้ย สารวัตรพีรวัสถูกย้ายภายในอาทิตย์หน้านี้ หากไม่ปล่อยคดีวันก่อนไป ถ้าตามตัวคนร้ายต่อ สารวัตรไม่ปลอดภัย ครั้งที่แล้วคุณไปด้วยไม่ใช่หรือคุณปิ่นแก้ว”

“ทำไมพวกคุณรู้จักพวกเราคะ”

ปิ่นแก้วรู้แล้วว่ากลุ่มชายหนุ่มพาตัวหล่อนกับเพื่อนขึ้นรถมานี้ไม่ใช่คนร้ายแต่เป็นตำรวจ หากเดาไม่ผิดเป็นสายสืบ วีรชนเคยเผลอพูดให้ฟังครั้งหนึ่งและพีรวัสก็เคยพูดทำนองมีคนคอยช่วยสืบคดีลอบสังหารก้องเกียรติ

“เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้ สารวัตรแนะนำดังไปถึงโรงพักโน่นมั้ง ถ้าน้องอยากรู้จักพี่ก็ถามสารวัตรหรือไม่ก็หมวดวีแต่ตอนนี้อยากถามข่าวที่แอบสืบมา มีข้อมูลอะไรบ้าง”

อัศนีรวบรวมข้อมูลที่ได้ทั้งพวกเขาสืบมาและจากคนรอบข้าง คดีก้องเกียรติเป็นคดีสะเทือนขวัญของประชาชน สารวัตรพีรวัสต้องปิดคดีนี้ให้ได้ ผู้ช่วยของเขาเร่งหาหลักฐานทั้งเป็นสิ่งของและตัวหนังสือหรือแม้แต่คำพูดก็ต้องเก็บทั้งหมด

“ทำไมไม่ให้พี่วัสมาด้วยกันเลยครับ จะได้ฟังพร้อมกัน”

ชุมพลเข้าใจงานของสารวัตรพีรวัส เขาช่วยสืบตามที่พีรวัสขอร้อง การนัดพบวันนี้เพื่อให้ข้อมูลกับสารวัตร

“มีคนแอบตามมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นคนของใครและคนที่ตามก็ไม่ใช่ใคร เป็นตำรวจในโรงพักนั่นแหละ สารวัตรถึงให้พาคุณสองคนออกมาก่อน ไม่อย่างนั้น พวกมันเล่นงานพวกคุณจนกว่าจะได้ข้อมูลที่พวกคุณมีอยู่”

“อ๋อ.เข้าใจแล้วค่ะ มิน่าถึงนั่งเฉยตอนพวกคุณพาเรามาขึ้นรถ”

ปิ่นแก้วหายโกรธพีรวัสกับวีรชน เวลานี้ไม่ใช่เวลาโกรธคนโน้นคนนี้ หล่อนมีงานต้องทำอีกหลายเรื่อง ก่อนมาพบพีรวัสตามนัดไว้ บรรณาธิการกองหนังสือพิมพ์สั่งให้หล่อนไปสืบคนถีบสามล้อ หัวหน้าของหล่อนได้ข่าวบางอย่างเกี่ยวกันการเสียชีวิตของเจ้าสาว มีคนเห็นสามล้อถีบออกมาจากโรงแรมในคืนวันเจ้าสาวหายตัวไปจากงานฉลองสมรส

หล่อนยังไม่ได้บอกชุมพล งานนี้หล่อนอยากสืบคนเดียว สามล้อถีบในตลาดมีไม่กี่คัน คนไหนล่ะที่น่าสงสัยหรือน่าสงสัยทุกคน

“พวกเรามีข้อมูลไม่มากหรอกครับแค่เดาไว้ว่า คนจัดการกับเสี่ยก้องเป็นลูกน้องมือขวาของเสี่ยอำนาจจรัส พี่รู้แล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“ใช่ แต่มากกว่านั้นมีอะไรอีก”

ชุมพลตอบตามที่เขารู้และกำลังสืบต่อ สมุนมือขวาของอำนาจจรัสอยู่ไม่ห่างตัวเจ้านาย ทำตามคำสั่งเจ้านายทุกอย่าง

“คนน่าสงสัยอีกคน เมียเสี่ยอำนาจ”

ปิ่นแก้วคิดมาตลอดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของก้องเกียรติ วันเกิดเหตุมีคนเห็นไฉไล ภรรยาของอำนาจจรัสขับรถผ่านรถก้องเกียรติก่อนจะมีการบุกยิงเสี่ยใหญ่ของเมือง รถไฉไลชะลอก่อนจะขับผ่านรถก้องเกียรติเหมือนจะจอดแต่ไม่จอด หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก้องเกียรติถูกมือปืนสังหารอย่างโหดเหี้ยม