บทที่ 11 ฝันร้าย
“มันเปลี่ยนแผน คราวหน้ามันจะไปรวมตัวที่ไหนคอยตามมันให้ดี ไอ้คนทำเสียแผนมันเป็นใครวะ เรามากันแค่สองคนไม่ใช่เหรอวะ”
“ใช่พี่ ไอ้นั่นมันอยู่ฝ่ายไหน คนของคุณกนกพรรึเปล่าหรือไอ้บุวะพี่ มันยังไม่เข้าบ้านเลย”
“ไม่รู้ว่ะ ติดต่อตอนนี้ไม่ได้แน่แต่ถ้าไม่ใช่ไอ้บุเป็นคนของคุณกนกพร ไอ้เสี่ยใหญ่คนใหม่อยู่ไม่เป็นสุขแน่”
เสียงพูดคุยเบา ๆ เงียบไปพร้อมกับเงาดำกลืนหายไปกับความมืด เงาดำอีกเงาปรากฏตัวและหายวับไปอย่างรวดเร็ว...
“ได้เรื่องอะไรบ้างเชน”
สาวใหญ่สนใจคดีฆาตกรรมของสามีจนไม่มีเวลาเหลือบมองชายหนุ่มหรือชายวัยเดียวกับหล่อนในขณะนี้ หากสะสางคดีนี้ไม่เสร็จสิ้นจับตัวคนร้ายไม่ได้ หล่อนจะนอนหลับสบายได้อย่างไร
“พี่คาดเดาไว้ไม่ผิดเลยครับ มันวางแผนกำจัดผม มันว่าผมมีอะไรกับพี่ รอคุณพรรณกับคุณเกรียงกลับมาจากนอก มันจะยุให้สองคนเฉดหัวผมออกจากบ้าน”
“มันไม่รู้สินะว่าแกน่ะรักพี่เหมือนพี่สาวแท้ ๆ ของแก ทำทุกอย่างเพื่อพี่สาวได้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อจับคนร้ายฆ่าพี่ก้องของแก ยังไงห้ามแกมาแอบรักพี่นะเชน พี่ไล่หัวแกออกจากบ้านแน่”
กนกพรเอ็นดูราเชนเช่นน้องชายคนหนึ่งและเห็นความจงรักภักดีมีต่อก้องเกียรติมาตลอด ราเชนเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ยอมตายเพื่อผู้มีพระคุณ คนอย่างนี้หล่อนไม่ปล่อยให้ลำบาก หากเขาต้องการแยกตัวเพื่อมีครอบครัว หล่อนก็พร้อมสนับสนุน
“ถ้าแกชอบใครก็บอกพี่นะ พี่จะไปขอให้ แต่งให้ด้วย เออ พูดถึงแต่งงาน คดีเจ้าสาวที่เพิ่งตายคืนฉลองสมรสไปถึงไหนรู้มั้ย จับตัวคนฆ่าได้มั้ย”
“ยังครับพี่ ก็คงเหมือนคดีก่อน ๆ เจ้าสาวตายฟรีแต่ที่ผมแปลกใจ คนตายเกี่ยวข้องกับตากำนันอินทั้งนั้นเลยนะพี่ พี่รู้จักกำนันอินมั้ย คนเก่าแก่เมืองนี้”
“รู้จักแต่ชื่อ ไม่เคยเห็นตัว เก็บตัวไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เห็นว่าอายุเก้าสิบสองปีใช่มั้ย ลูกหลาน เหลนโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมด”
“ใช่พี่ แต่ว่าหลานสาวหรือไม่ก็เหลน ถ้าแต่งงานตรงวันขึ้น 8 ค่ำ ตายทุกคน อาถรรพณ์อะไรรึเปล่า”
“เออ นั่นสิแล้วคนที่เพิ่งตายนี่ล่ะเป็นอะไร เหลนเหรอ”
“ว่างั้นแหละพี่ คดีนี้หมวดสรสิชทำมั้ง คงเหลวอีก ไอ้นี่กินเงิน”
“ลูกล้อไอ้อำนาจจรัส ถ้าสารวัตรพีรวัสออกโรง ต้องจับคนร้ายได้”
กนกพรคิดถึงสารวัตรหนุ่มหน้าตาดีและผู้หมวดชอบเงินอย่างสรสิช นอกจากหล่อนสนใจคดีเจ้าสาวหายตัวและพบเป็นศพริมคันคู ชาวเมืองสนใจไม่แพ้คดีอุกฉกรรจ์ของก้องเกียรติ สารวัตรพีรวัสเป็นเจ้าของคดีลอบสังหารเสี่ยก้องเกียรติ ความสนใจในตัวคนร้ายจึงพุ่งอยู่ที่คดีนี้ส่วนคดีเจ้าสาว เขารับฟัง รับรู้และเห็นภาพทุกคดี
พีรวัสบอกใครไม่ได้กับความฝันของเขา เจ้าสาวแสนสวยยิ้มให้เขาในความฝันและทุกคนมีเลือดท่วมตัวก่อนจะเป็นข่าว ครั้งล่าสุดก็เช่นกัน คืนนั้นเขาง่วงนอนผิดปกติและหลับตั้งแต่หัวค่ำ เขาสะดุ้งตื่นเที่ยงคืน ตื่นเพราะความฝัน เจ้าสาวสวมชุดสีขาวส่งยิ้มให้เขา หล่อนเดินออกมาจากโรงแรมจัดงานเลี้ยงเพียงคนเดียว หล่อนมองเขา โบกมือทักทายและยิ้มให้ จากนั้นร่างของหล่อนค่อย ๆ มีเลือดไหลจนชุดสีขาวเป็นสีแดงเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้ายิ้มนั้นบูดเบี้ยวเจ็บปวดและขอความช่วยเหลือจากเขา
“ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย”
เขาวิ่งเข้าไปหาหล่อนแต่ถูกมือของใครบางคนกระชากแขนเขาไว้ เขาล้มลงเสียงร้องขอความช่วยเหลือนั้นกรีดร้องโหยหวน
“อ๊ายยยยยยยย...”
เขาสะดุ้งตื่นเม็ดเหงื่อชื้นเต็มใบหน้า เขาหลับตาไม่ลง หลับลงครั้งใดเห็นแต่เจ้าสาวยิ้มให้และสุดท้ายตัวของหล่อนมีแต่เลือด มันเป็นฝันร้ายมานานหลายปี เขาพยายามหาต้นตอของความฝัน ความเชื่อเรื่องลางสังหรณ์ถูกกำหนดขึ้นในใจเงียบ ๆ
เช้าวันที่เขาไปหาปิ่นแก้วและรับหล่อนออกมาจากบ้าน เขาฝันเห็นเจ้าสาวยิ้มให้และมีเลือดท่วมตัวของหล่อน ตอนบ่ายได้ข่าวพบศพเจ้าสาวเสียชีวิต สรสิชทำคดีนี้ รายงานให้เขาทราบเช่นทุกครั้งที่เกิดคดี ครั้งนี้เขาจะสืบหาตัวคนร้ายด้วยตัวเองแต่การไล่ล่าตัวเขากับหญิงสาวที่เขาพาหล่อนมาด้วย ทำให้เขาลืมการสืบไปโดยปริยายแต่ค่ำคืนนี้ ความคิดของเขากลับมาอีกครั้ง
“หมวดสิช คดีเจ้าสาวไปถึงไหน ผมขอดูแฟ้มคดีหน่อย”
“ทำไม จะปิดคดีเองหรือครับสารวัตร”
“ผมทำได้มั้ยล่ะ”
“ได้ แต่ผมเตรียมสรุปไว้ให้ปิดแล้วครับ ฆ่าชิงทรัพย์เหมือนเดิม แหวนเจ้าสาวหายไป ทางเจ้าบ่าวบอกว่าเป็นแหวนประจำตระกูล ราคาเป็นล้าน คนร้ายน่าจะจ้องตั้งแต่เห็นเจ้าบ่าวสวมแหวน”
สรสิชปฏิเสธทางอ้อมด้วยการสรุปสำนวนคดีให้ผู้บังคับบัญชาเสียเอง พีรวัสรับทราบคำรายงาน เขาอยากหาข้อเท็จจริงด้วยตัวเองแต่คดีของก้องเกียรติยังค้างคา
“รู้เบาะแสคนร้ายหรือยัง”
“กำลังตามตัวครับ อยู่ในหมู่บ้านครับ ห่างจากตัวเมืองห้าสิบโล ผมให้หมู่โรจน์ไปซุ่มดูแล้วครับ”
“อ้อ ครับ”
ขอเวลาให้เขาคลี่คลายคดีเสี่ยใหญ่เสร็จก่อน เขาจะสืบคดีเจ้าสาวด้วยตัวเองแม้สรสิชจะปิดคดีแล้วก็ตาม
“ปิ่นแก้ว เธอจะเชื่อฉันมั้ย ถ้าฉันจะเล่าความฝันให้ฟัง”
ในใจคิดถึงหญิงสาวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขากำลังเสพติดนักข่าวสาวสายอาชญากรรมหรืออย่างไรจึงคิดถึงแต่หล่อนเพียงคนเดียว
“พี่วัส พี่โอ๊กกับพี่วินนัดกินข้าว จะแนะนำผู้ช่วยอีกคน มาที่นี่นานแล้วแต่ไม่เปิดเผยตัว เดินเกร่ ๆ ในตลาดบ้าง ขายล็อตเตอรี่บ้างว่างั้น”
“รู้แล้ว”
พีรวัสตอบเรื่อย ๆ แต่วีรชนสนใจ ผู้บังคับบัญชาของเขาไม่ใช่คนธรรมดาเสียแล้วสิ หยั่งรู้สิ่งที่เขาไม่รู้ก่อนทุกครั้ง
“มีญาณทิพย์พิเศษหรือไงพี่ รู้ก่อนทุกที ใครบอก พี่โอ๊กไม่ได้เล่าเลยนะ พี่วินก็ด้วย”
“ไม่มีญาณพิเศษอะไรหรอก ข้างในกรมฯส่งข่าวลับ ๆ มา ถ้าแกรู้ด้วยก็ไม่ใช่ข่าวลับสิวะ ไป หิวแล้ว นัดที่ไหน”
“ร้านส้มตำในตลาด เรากินแค่สองคน เออ.ผมโทร.จิกไอ้ปิ่นกับไอ้พลมาด้วย เรานั่งกันแค่สี่คนนะครับส่วนพี่โอ๊กเขานั่งของเขาต่างหาก เขาขายเครื่องปั่นน้ำผลไม้กัน”
“เออ.”
รับคำสั้น ๆ แต่ใจคิดยาวไปถึงใบหน้าปิ่นแก้ว วันนี้หล่อนจะมาด้วยชุดอะไร กางเกงยีนสีซีด เสื้อยืดแขนสั้นสีขาวหรือไม่ก็ฟ้า น้ำเงิน เหลือง ครีม เขียวเข้ม ผมรวบพอไม่ลุ่ยปกใบหน้าเกลี้ยงเกลาของหล่อนเท่านั้น