๓ ดลให้มาพบกันทันใด (๒)
แอบชอบน้องสาวบ้านใกล้คนนี้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าพัฒนาความสัมพันธ์สักทีเพราะแม่ไม่สนับสนุน และยังหาลูกสาวคนใหญ่คนโตมาให้ไม่ขาด ครั้นจะปฏิเสธก็โดนดุจนต้องยอมไปดูตัวตามความต้องการของท่าน
“อ้าวฟ้า กลับมาบ้านแล้วเหรอ” คุณดารากานเห็นหลานชายอีกคนเดินออกมาจากบ้านพิชาญเมธ พร้อมถือของสำหรับนำมาใส่บาตรก็กล่าวทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แตกต่างจากตอนคุยกับลูกสะใภ้ราวฟ้ากับเหว
บอกชัดเจนว่าท่านไม่ชอบอีกฝ่ายมากแค่ไหน
“ครับ ช่วงนี้ว่างก็เลยกลับมาอยู่บ้านสักสองสามวัน” ค้อมศีรษะให้คุณย่าเป็นการทำความเคารพ เพราะมือสองข้างถือของจึงไม่ว่าง
พิณพรเห็นอย่างนั้นฉีกยิ้มกว้าง หล่อนขยับไปใกล้มารดาเพื่อข้างกายจะได้ว่างให้ชายหนุ่มได้ยืนข้างตน ดวงตากลมเป็นประกายสดใสยามได้พบหน้าเขา
เธอแอบชอบชายหนุ่มมานาน พยายามไม่แสดงออกจนเกินงามกลัวมารดาจับได้ เพราะท่านไม่ชอบบ้านพิชาญเมธและไม่ต้องการให้ลูกทั้งสองไปสุงสิงกับพี่น้องบ้านนั้น
แต่เหมือนจะไม่ทันแล้วล่ะ เพราะทั้งพิชญะและพิณพร ต่างก็มอบใจให้คนบ้านพิชาญเมธไปจนหมด
“พี่ฟ้าคะ เย็นนี้วันเกิดเพลงถ้าพี่ฟ้าว่างมาได้นะคะ” จำต้องยืนข้างหล่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อไม่มีที่อื่นว่างเลย
“ครับ” ตอบรับแล้วเงียบ ไม่ต่อบทสนทนาอีก
พอดีกับที่พระมาบิณฑบาต พวกเขาจึงได้ทำบุญในวันพระ ทางหมู่บ้านได้รับคำขอของลูกบ้านอยากให้มีพระมาบิณฑบาต ถึงได้ติดต่อกับทางวัดที่อยู่ใกล้ทางเข้าหมู่บ้าน และบ้านที่ใส่บาตรเป็นประจำคือบ้านของคุณดารากาน
ทำบุญเผื่อจะชดใช้ความผิดที่มีต่อลูกสะใภ้คนเก่าได้...
กลับมาบ้านไรลินยาก็ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาห้องนั่งเล่น หายใจได้แค่ครึ่งปอดเพราะสายตาทิ่มแทงของคุณรุ่งวิภาที่จ้องยามลูกชายสุดที่รักคุยกับตน อยากบอกเหลือเกินว่าเธอไม่เคยคิดอะไรกับพิชญะเลย
ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต อย่างไรก็ไม่มีทางชอบชายหนุ่มเด็ดขาด ถ้าจะชอบคงชอบนานแล้วล่ะไม่รอจนป่านนี้หรอก
“อึดอัดมากเลยพี่ฟ้า ลินไม่เข้าใจทำไมคุณย่าถึงเกลียดคุณรุ่งขนาดนั้น” มองพี่ชายที่นั่งลงยังโซฟาเดี่ยว
ตอนเกิดเรื่องหมื่นฟ้ายังเด็กมาก จำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง รู้เพียงคุณป้าที่เคยมาบ้านตนหายไปแล้ว พร้อมกับพี่ชายที่เคยวาดภาพเล่นด้วยกัน
“เรื่องของผู้ใหญ่ไม่ต้องอยากรู้ไปหมดทุกอย่างหรอก” ตอบเลี่ยงจนน้องสาวต้องยู่หน้าขัดใจที่ถูกปฏิเสธด้วยประโยคเดิมยามที่ผู้ใหญ่ไม่ต้องการให้ตนทราบเรื่อง
“พูดแบบนี้ตลอดเลย นี่ลินก็โตพอจะรู้ทุกเรื่องแล้วนะ อีกไม่นานก็เข้ามหาวิทยาลัย อยากใส่ชุดนิสิตจะแย่” วาดฝันภาพเอาไว้ ใส่ชุดนักเรียนมานานจะได้ขยับไปอยู่รั้วมหาวิทยาลัยแล้ว ถึงหน้าตาหล่อนจะเกินอายุไปหน่อยจนโดนรุ่นพี่เรียกว่าพี่บ่อยๆ ก็ตาม
“ขนาดนั้นเชียว”
“เราจะได้อยู่มอเดียวกันด้วยนะพี่ฟ้า อีกสามเดือนกว่าจะเปิดเทอม ลินจะทำอะไรดี ช่วยงานคุณพ่อที่โรงแรมดีไหม อยู่บ้านแล้วมันเบื่อ” พี่ชายก็เรียนที่นี่ พ่อก็เคยเรียนที่เดียวกันทำให้หญิงสาวมีความใฝ่ฝันอยากเข้าไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนั้น
และอีกไม่กี่เดือนก็จะได้เข้าไปเป็นน้องใหม่ ยิ่งตื่นเต้นมากกว่าเดิมจนทนให้ถึงวันนั้นแทบไม่ไหวแล้ว
“พ่อคงได้ปวดหัวกว่าเดิมแน่มีเราไปป่วน” สองพี่น้องคุยกันอย่างสนุกสนาน กระทั่งไรลินยาคิดถึงเรื่องของธีมาจึงอยากลองถามเผื่อว่าหมื่นฟ้าพอจะรู้เรื่องในอดีตบ้าง
“เอ่อพี่ฟ้า พี่พอจะรู้จักคนที่ชื่อธีมาหลานชายของคุณย่าไหม” นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วค่อยพยักหน้า
“ธีมา...พี่ธีมเหรอ” เพราะชายคนนั้นอายุมากกว่า ทุกคนจึงให้เขาเรียกว่าพี่และพยายามทำให้สนิทสนมกัน แต่ก็ยังไม่ค่อยสนิทใจกับอีกฝ่ายเท่าไหร่ จนแทบจะลืมเลือนไปแล้วด้วยซ้ำ
“พี่รู้จักเขาเหรอ” ถามอย่างตื่นเต้น แต่เธอก็พยายามไม่แสดงอาการมากนัก
“อือ รู้จักแต่ไม่สนิท เคยเล่นด้วยกันตอนเด็กแต่ไม่บ่อยหรอก”
“แสดงว่าเขาเคยอยู่ที่นี่”
“ใช่ แต่เขาก็ย้ายตามแม่ไปอเมริกา ตอนนั้นพี่ยังเด็กเลยไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น” ตอนเกิดเรื่องเขาอายุยังไม่ถึงเจ็ดขวบเลย เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ชอบนั่งวาดภาพหรือระบายสีเล่น
“ลินอยากรู้จังเลย ถามใครได้บ้าง”
“ถามเจ้าตัวล่ะมั้ง” ตอบทีเล่นทีจริง แต่ร่างบางกลับถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นกอดอก ถามเจ้าตัวคงได้รู้เรื่องหรอก
“ไม่ได้สนิทกับเขาสักหน่อย แค่เคยเจอตอนไป..ไปกินข้าวบ้านคุณย่า” เกือบหลุดปากบอกเรื่องที่คลับ จึงรีบเปลี่ยนประเด็นกลัวถูกจับได้ เพราะพี่ชายเคยห้ามไม่ให้ไปในที่อโคจร แต่มีหรือที่หญิงสาวจะฟังเขา
“เขากลับไทยแล้วเหรอ นึกว่าจะอยู่เมกาถาวรซะอีก” แทบลืมเรื่องของธีมาไปจนหมด ตัวตนหลานชายคนโตของคุณดารากานหายไปจากความคิดของทุกคน
“กลับมาแล้ว ได้หุ้นจากคุณย่าไปทั้งหมดเลยขึ้นแท่นผู้บริหารเครือ PK Group อย่างเต็มรูปแบบ สามติดตรึมแน่ หล่อรวยแถมยังเป็นเด็กนอกอีก”
และการปรากฏกายครั้งนี้ของเขา ทำให้ทุกคนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เข้ามาบริหารครั้งแรกก็ขึ้นแท่นตำแหน่งรองผู้บริหาร แถมยังมีหุ้นส่วนมากกว่าประธานบริษัทเสียอีก เล่นเอาคนในระส่ำระส่ายกลัวจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งแน่นอนว่าเพียงแค่สัปดาห์เดียวที่เขาไปทำงาน ทุกคนก็หัวหมุนเพราะกฎใหม่ที่ธีมาเป็นคนตั้งขึ้นมา ระบบเก่าถูกโละทิ้ง โดยเฉพาะเส้นสายไม่สนใจความสามารถ
ดูประวัติของเขาก็ไม่ใช่เล่น จบบริหารจากอ็อกฟอร์ดด้วยเกรดเฉลี่ยสูงสุดในรุ่น เข้าทำงานที่บริษัทการเงินที่เข้ายาก ก่อนจะลาออกแล้วมาสมัครเป็นเลขานุการของประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ความสามารถไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นที่ประจักษ์
แต่ก็ยังลาออกและกลับไทยเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งรองประธานและผู้ถือหุ้นสูงสุดของ PK Group
ตกเย็นหญิงสาวที่ใช้เวลาทั้งวันไปกับการตะลอนเที่ยวก็กลับมาบ้าน เห็นรถยนต์ของบิดาจอดอยู่ที่โรงรถก็ยิ้มกว้าง คิดว่าท่านคงมาถึงบ้านแล้วจึงรีบเดินแกมวิ่งเข้าไปหา แต่กลับไม่เห็นใครสักคนกระทั่งแม่บ้าน
คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน วางของที่ซื้อลงบนโซฟาห้องนั่งเล่นแล้วตามหาพ่อ ก่อนได้ยินเสียงคุยกันที่ห้องทำงาน หล่อนค่อยเดินเข้าไปใกล้เพื่อฟังว่าท่านพูดอะไร
“ผมคิดว่าน้องต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ พ่อก็รู้ลินตั้งใจกับการสอบเข้ามหา’ลัยแค่ไหน” ชื่อของตนอยู่ในบทสนทนา ทำให้ยิ่งอยากรู้มากกว่าเดิมจนต้องแง้มประตูให้กว้างหน่อย
“รู้ พ่อรู้...แต่พ่อก็อยากให้น้องไปเรียนกับป้าเขา” น้ำเสียงของบิดาบ่งบอกถึงความหนักใจ ใช่ว่าท่านเองอยากบังคับจิตใจ แต่มันเกิดเพราะความจำใจต่างหาก แล้วรู้ว่าคงยากที่จะตะล่อมลูกสาวให้ไปเรียนต่างประเทศได้
เมื่อไรลินยาฝังใจกับมหาวิทยาลัยที่พ่อกับพี่เคยเรียนมากขนาดนี้
“น้องจะยอมเหรอครับ ถ้าลินโวยวายขึ้นมาใครก็เอาไม่อยู่หรอก” แม้กระทั่งหมื่นฟ้าเองยังทำใจลำบาก เขาอยากปฏิเสธบิดาแต่ก็รู้ถึงความจำเป็นของครอบครัวที่ต้องส่งน้องสาวไป
คุณไรวินทร์ไม่อาจให้ลูกสาวเห็นถึงความล้มเหลวของตัวเองได้ เป็นเพราะการบริหารของเขาโรงแรมจึงถึงทางตัน และอาจจะต้องทยอยปิดตัวไปหลายแห่ง
“พ่ออยากให้ฟ้าช่วยไปกล่อมน้อง บอกให้เขาเข้าใจว่าทำไมพ่อถึงต้องส่งไปเรียนที่เมกา” พอพูดจบประตูก็ถูกเปิดออกจนคนทั้งสองต้องหันไปมอง
พบไรลินยาที่ยืนตาแดงก่ำแล้วมองบิดาไม่วางตา เธอไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ทั้งที่เคยขอร้องกับท่านว่าไม่อยากไปเรียนต่างประเทศ และพ่อก็ตอบตกลงเรียบแล้ว
เหตุใดจึงยังจะส่งหล่อนไปไกลบ้านอีก...
“หมายความว่ายังไงคะ คุณพ่อจะส่งหนูไปที่เมกาเหรอ” ถามเสียงสั่นเครือ
“ลิน ฟังพ่อก่อนนะ” ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาได้ยิน รีบเดินเข้ามาหาลูกสาว ทว่าหล่อนกลับถอยหลังไม่อยากอยู่ใกล้ท่าน
“ทำไมคะ ทำไมต้องให้หนูไปเรียนที่นั่นด้วย หนูไม่ไป หนูจะอยู่กับคุณพ่อที่นี่” โวยวายเสียงดังก่อนน้ำตาจะร่วงริน ไม่ค่อยร้องไห้ถึงจะโดนดูถูกหรือก่นด่าอย่างไร แต่พอเป็นเรื่องของครอบครัวก็สามารถเรียกน้ำตาจากหล่อนได้เสมอ
“ถ้าลูกไปอยู่ที่นั่นมันจะดีกับลูกมากกว่า พ่อลองคุยกับป้าแล้วเขาก็จะหามหา’ลัยดังๆ มาให้ ด้วยประวัติของลูกเข้าไอวีลีกได้สบาย แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักปี..” พยายามอธิบายถึงข้อดีในการไปเรียนที่อเมริกา แต่หญิงสาวส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย
“ไม่ค่ะ หนูจะไม่ยอมไปเรียนที่อื่น หนูจะเรียนที่ประเทศไทย”
“พ่อคุยกับป้าแล้ว อีกหนึ่งเดือนลินต้องเก็บของไปเมกา” ตัดสินใจโดยพละการไม่บอกลูกสาวสักนิด หล่อนถึงกับพูดไม่ออก เช่นเดียวกับหมื่นฟ้าที่อึ้งกับระยะเวลาอันแสนสั้น
“พ่อ!” เขาเรียกบิดาเสียงดัง ยังทำใจรับไม่ได้กับการจะอยู่ไกลน้องสาวคนละซีกโลก ถึงเขาไปต่างจังหวัดแต่ยังหาเวลาว่างกลับมาเจอหล่อนได้
แต่ถ้าหญิงสาวไปอยู่ไกล...จะเจอหน้าอย่างไร
“พ่อไม่รักหนูแล้วเหรอ ทำไมพ่อจะไล่หนูไปที่อื่น ฮึก พ่อไม่รักลินแล้ว” ตะโกนลั่นแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านอย่างรวดเร็วจนตามแทบไม่ทัน
“ลินไม่ใช่อย่างนั้น ลิน ลิน!” คุณไรวินทร์รีบวิ่งตามบุตรสาว เช่นเดียวกับหมื่นฟ้าที่กลัวน้องจะเตลิดไปไกล
ไรลินยาวิ่งออกมาหน้าบ้านไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน แต่อยากหนีไปให้ไกลจนพ่อตามตัวไม่ได้ พอดีกับที่เห็นรถยนต์ของธีมาซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านคุณย่าพอดี ไม่รู้ว่าโชคช่วยหรือเปล่าที่เขาเพิ่งจะขึ้นรถแล้วยังไม่ทันได้ล็อคด้วยซ้ำ
“ลง..” กำลังจะไล่แต่พอเห็นดวงตาแดงก่ำและร่องรอยน้ำตาบนใบหน้าหวานก็ต้องเงียบ เหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับหล่อน
“พาฉันออกไปจากตรงนี้ก่อนเถอะนะ คุณ คุณจะด่าฉันค่อยด่าทีหลัง” ประโยคร่ายยาวอย่างเกรงกลัวแล้วรีบหลบตัวลงเกรงบิดาและพี่ชายที่วิ่งออกมาจะเห็น
ร่างสูงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่เข้าใจสักนิดว่าเจอกันทีไรทำไมเธอต้องมีปัญหาให้เขาร่วมหัวจมท้ายด้วยตลอด
แล้วสุดท้ายก็ต้องตัดสินใจช่วยเหลือ คนที่เหมือนลูกนกปีกหัก...