บทย่อ
จากอดีตคู่หมาย กลายเป็นคู่กัดไปเสียแล้ว
บทนำ
บทนำ
เด็กน้อยวัยไม่ถึงหนึ่งเดือนถูกห่อหุ้มด้วยผ้าเนื้อดี นอนหลับสนิทอยู่บนฟูกของห้องนั่งเล่นที่แปรสภาพเป็นห้องเลี้ยงเด็กชั่วคราวคุณผู้หญิงของบ้านภัทรจาริน พิชาญเมธนั่งมองลูกสาวไม่ห่างสายตา ลูกคนแรกที่รอมาเนิ่นนาน ใครจะคิดว่าเพิ่งตั้งครรภ์วัยขึ้นเลขสาม
ใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำเด็กหลอดแก้วสำเร็จ เธออยากมีลูกมาตลอดจนวันนี้ได้เห็นหน้าเด็กหญิงไรลินยา พิชาญเมธตามความตั้งใจของตนเอง
เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาในห้อง ทำให้ต้องรีบเช็ดน้ำตาแล้วเก็บผ้าที่กองอยู่ด้านข้างออกเพื่อไม่ให้ดูรกจนเกินไป มองแขกที่เพิ่งเข้ามาใหม่ด้วยรอยยิ้ม
ครอบครัวผกายฤทธิ์อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน อีกทั้งสามีของหล่อนและคุณผู้ชายบ้านนั้นก็เป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็กจนสนิทสนม ไปมาหาสู่กันตลอดจนเหมือนญาติสนิท
“คุณป้าสวัสดีค่ะ” ทักทายหญิงวัยกลางคนท่าทางเกรงขามที่เดินเข้ามาพร้อมหลานชาย โดยมีบิดาและมารดาของเด็กน้อยเดินตามพร้อมถือของขวัญต้อนรับยายหนูที่เพิ่งเกิด
คุณภัทรจารินกำลังจะลุกแต่โดนคุณดารากาน ผกายฤทธิ์โบกมือไม่ต้องการให้เป็นพิธีรีตอง ท่านเห็นว่าอีกฝ่ายยุ่งกับการเลี้ยงลูกเพราะอยากทำทุกอย่างเอง ถึงจะมีแม่บ้านคอยช่วยแต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธ อยากดูแลลูกคนแรกเอง
หลายปีมานี้เห็นถึงความพยายามจะมีบุตรของครอบครัวพิชาญเมธ ถึงจะมีลูกชายอย่างหมื่นฟ้า พิชาญเมธแล้วก็ตาม
ทว่ามันก็ไม่เหมือนมีลูกที่เกิดจากสายเลือดของตนเอง...
“เป็นยังไงบ้างล่ะ เลี้ยงลูกเหนื่อยไหม” เข้าไปนั่งลงข้างกายหนูน้อยที่นอนหลับสนิท ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อย โตมาคงสวยเหมือนคนเป็นแม่
“เหนื่อยค่ะ แต่มีความสุข” ถึงใบหน้าจะเหนื่อยแต่แววตาก็ทอประกายสว่างจนท่านคลายใจได้บ้าง แม่ของไรวินทร์ พิชาญเมธเป็นเพื่อนสนิทกับท่าน หลังอีกฝ่ายเสียไปเมื่อห้าปีก่อนก็คอยดูแลครอบครัวนี้แทนมาโดยตลอด
รักเหมือนลูกอีกคนไปเสียแล้ว ถ้าทำได้ก็อยากให้ตระกูลดองกันสักที เสียแต่ว่าทั้งท่านและเพื่อนต่างมีลูกชายคนเดียว
หากจะหวังก็คงเป็นรุ่นหลานแล้วล่ะ
สายตาของคุณดารากานมองมายังหลานชายซึ่งไม่ละสายตาจากน้องสาวที่กำลังนอนหลับปุ๋ย เด็กชายธีมา ผกายฤทธิ์ไม่เคยเห็นเด็กเล็กเพิ่งคลอดได้หนึ่งสัปดาห์มาก่อน ทำให้จ้องไม่วางตาก่อนจะยื่นมือไปจับนิ้วของน้อง
“อือ” เด็กที่หลับครางเสียงแผ่วพลางหันหน้าไปทางอื่น จนธีมาตกใจรีบชักมือออกกลัวทำให้น้องตื่นแล้วจะโดนมารดาดุ
“ธีม ไม่เอาลูกเดี๋ยวน้องก็ตื่นหรอก” ต่างจากที่คิดไว้เสียเมื่อไหร่ คุณณัชนิชรีบบอกลูกชายแล้วส่งสายตาให้มานั่งข้างท่าน กลัวจะทำให้คุณภัทรจารินลำบากถ้าลูกน้อยตื่น กว่าจะกล่อมให้หลับก็คงต้องใช้เวลาสักพัก
“ไม่ตื่นหรอกค่ะ เวลาได้หลับก็หลับลึก น้องธีมจับมือน้องได้นะลูก” ไม่ถือสาอะไร กลับสนับสนุนเสียอีกเพราะรู้ดีว่ายายหนูเป็นคนตื่นยาก แต่ถ้าตื่นมาก็ร้องเอาเรื่องเหมือนกัน เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็รุ่งสาง ลูกสาวไม่ยอมให้วางลงบนเตียงเลย ต้องอุ้มแล้วร้องเพลงให้ฟังถึงจะหลับ
ดีที่สามีคอยช่วยเลี้ยง ตอนนี้พวกท่านก็เหลือกันแค่สองคน ครอบครัวฝ่ายสามีไปอยู่ต่างประเทศหลังบิดามารดาเสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ส่วนครอบครัวของเธอก็อยู่ต่างจังหวัด มีธุรกิจรีสอร์ทและไร่ชาต้องดูแลคงไม่สะดวกมาเมืองหลวง
ธีมาได้แรงสนับสนุนจากคุณภัทรจารินเลยค่อยยื่นมือเข้าไปอีกครั้ง นิ้วเล็กขนาดนี้จะหยิบจับอะไรได้หรือเปล่านะ คิดอย่างสงสัยแต่ไม่นานนิ้วชี้ของเขาก็ถูกกำเอาไว้แน่น จนเผลอแสดงสีหน้าตกใจพลางหันมาถามผู้ใหญ่ที่นั่งข้างๆ
“น้อง ทำไมน้องกำนิ้วผม” ผู้ใหญ่ที่นั่งล้อมวงตรงกันต่างพากันยิ้มด้วยความเอ็นดู เห็นความตระหนกในดวงตาคมจนต้องปลอบให้คลายกังวล
“เวลานอนน้องชอบกำมือน่ะครับ อีกไม่นานก็ปล่อย หรือน้องธีมค่อยดึงนิ้วออกก็ได้น้องไม่ตื่นหรอก” คุณภัทรจารินบอกด้วยความสงสารปนเอ็นดู คงกลัวว่าถ้าน้องจับแบบนั้นไปอีกหลายชั่วโมงตนคงไม่ได้ออกไปไหน
คุณดารากานมองหลานชายสลับกับหลานสาวตัวจ้อย ไม่รู้ว่าท่านจะเจ้ากี้เจ้าการไปหรือเปล่าถ้าอยากได้ลูกสาวของครอบครัวผกายฤทธิ์มาเป็นสะใภ้ ทั้งที่เด็กน้อยเพิ่งออกมาดูโลกได้ไม่ถึงเดือน
แต่ผู้ใหญ่ก็หาสามีไว้ให้เสียแล้ว
“ชอบน้องไหม” คุณย่าหันมาถามหลานชาย ซึ่งแน่นอนว่าคนไม่ประสาไม่รู้ความนัยที่แฝงมากับประโยคนั้นจึงพยักหน้าตอบรับ
“ชอบครับ” มองดวงหน้ากลมไม่ขลาดสายตา เขาเองก็อยากมีน้องสาวบ้างเพราะเล่นคนเดียวมันค่อนข้างเหงา กลับมาบ้านก็มีเพียงมารดาและพี่เลี้ยง ไม่มีเด็กวัยรุ่นราวคราวเดียวกันเลย
ไม่ใช่สิ...ยังมีหมื่นฟ้าที่อายุน้อยกว่าเขาห้าปี แต่อีกฝ่ายเป็นคนไม่ค่อยพูด อยู่ด้วยกันยิ่งเงียบและน่าอึดอัดมากกว่าเดิมอีก
“อยากได้น้องหรือเปล่า” ไม่มีใครเข้าใจความนัยของคุณดารากาน ขนาดลูกสะใภ้ยังนึกว่าท่านต้องการให้ตนมีลูกอีกคน ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะหล่อนมีปัญหาเรื่องมดลูก กว่าจะได้ลูกชายคนนี้มาก็ยากแสนเข็ญ ไม่รู้เป็นกรรมอะไรนักหนา
แล้วพอได้ยินแม่ของสามีถามหลานชายเช่นนั้น หล่อนก็ยิ่งเงียบแล้วนั่งเม้มปากแน่น เสียใจที่ไม่อาจทำตามความต้องการของท่านได้
“แม่ครับ ผมอยากได้น้อง” คนอ้อนไม่รู้ประสา แต่คนถูกอ้อนกลับจุกที่ไม่สามารถทำตามคำขอนั้นได้ ท่านพยายามฝืนยิ้มแล้วบอกลูกชายเสียงเบา ซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ให้มิด
“เอาไว้ก่อนนะลูก” คุณดารากานรู้สึกผิดที่พูดเช่นนั้น ท่านไม่ต้องการกดดันลูกสะใภ้และรู้ถึงปัญหาการมีบุตรของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี แต่ที่ถามธีมาก็เพื่อต้องการหมั้นหมายลูกสาวบ้านพิชาญเมธต่างหาก
เอาไว้ก่อนเถอะ ถ้าพูดตอนนี้ก็คงไม่มีใครเห็นด้วย...
“น้องน่ารัก” ธีมาหันมามองเด็กหญิงที่หลับพริ้มอีกครั้ง นิ้วยังถูกกำไว้แน่นด้วยมือเล็กที่แสนบอบบาง
“น้องชื่ออะไรเหรอครับ” หันมาถามคุณภัทรจาริน
“น้องลินจ้ะ ไรลินยา” เป็นการนำชื่อแรกของสามีและชื่อหลังของหล่อนมารวมกัน ส่วนคำหลังก็คิดขึ้นเพื่อให้คล้องจองเท่านั้นเอง จึงได้ชื่อนี้มาแล้วทุกคนก็ชอบ
พอได้ยินชื่อก็กลับมามองน้องอีกครั้ง ดวงตาคมเปล่งประกายยามจ้องคนที่กำลังหลับ มุมปากยกยิ้มนึกเอ็นดูน้องสาวคนใหม่ และคิดว่าคงได้มาเล่นกับน้องอีกบ่อยๆ
“อ้อ น้องลินกับพี่ธีม” พึมพำเสียงเบาขณะที่จ้องเด็กหญิงไม่วางตา
โดยไม่รู้เลยว่าอนาคตภายภาคหน้า เขาและเธอจะเกี่ยวพันกันไปอีกแสนนาน...