บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 ไม่ต้องการแล้ว

“ผมมาพบคุณฝนแก้ว”

ก่อฤกษ์ตรงปรี่ไปยังเคาน์เตอร์ให้บริการของอะพาร์ตเมนต์ หลังจากพนักงานเปิดกระจกเพื่อเป็นช่องทางติดต่อในเวลาเก้านาฬิกาตรง

“ห้องไหนและตึกไหนคะ”

“ผมไม่รู้ครับ คุณช่วยค้นหาคนเช่าชื่อนี้ได้ไหม ผมจำเป็นต้องพบเธอ”

“อะพาร์ตเมนต์มีสี่ตึก แต่ละตึกมีผู้เช่าตั้งร้อยกว่าคน เราไม่มีเวลาไล่หาข้อมูลให้คุณหรอกค่ะ”

ถึงแม้ว่าผู้ติดต่อจะมีหน้าตาที่ดีมาก แถมรูปลักษณ์ยังสะดุดตา ใจหนึ่งเธอก็อยากช่วยเหลือ แต่อีกใจ...งานใหญ่เกินไป อีกทั้งมันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องทำด้วย

“คุณค้นหารายชื่อแค่ตึกนี้ก็ได้ครับ”

ก่อฤกษ์ตัดความยุ่งยากให้ อีกฝ่ายมองเขาค้อนๆ ทำนองว่าตนบอกปัดไปแล้ว แต่เขายังหาเรื่องให้เธอเหนื่อยอีกจนได้

เมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องทำ พนักงานสาวใช้เวลาไล่รายชื่อบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ถึงสิบนาทีเธอก็เงยหน้าขึ้นมาบอกเขา

“ตึกนี้ไม่มีผู้เช่าที่ชื่อฝนแก้วค่ะ คุณต้องไปหาอีกสามตึก อ้อ! ถ้าคุณมั่นใจว่าเธอเป็นคนทำสัญญาเช่าเองนะ ไม่ใช่แฟนหรือญาติเป็นคนทำให้”

ข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ทำให้แขกที่มาติดต่อคอแข็ง...ฝนแก้วไม่มีญาติ และแน่นอนว่านอกจากเขาแล้ว เธอไม่มีผู้ชายคนอื่นที่คบหาเป็นแฟนด้วย หากเขาก็ได้แต่บอกขอบคุณเจ้าหน้าที่ แล้วเดินไปยังตึกถัดไปที่อยู่ด้านใน

คำถามจากก่อฤกษ์ยังเป็นเหมือนเดิมและเจ้าหน้าที่ก็ให้คำตอบเขาเหมือนกับตึกแรก ผ่านไปแล้วสามตึก เหลือตึกด้านในสุดเป็นตึกสุดท้าย

“ผมมาพบคุณฝนแก้วครับ”

คำถามเดิมส่งไปให้เจ้าหน้าที่ประจำตึก เธอเหลือบตาขึ้นมามองเขา ดวงตาแข็งๆ อ่อนแสงลงพลันเมื่อเจอรอยยิ้มของหนุ่มหล่อ...

ท่าทีของก่อฤกษ์โอนอ่อนลง เขาพยายามทำตัวให้อ่อนน้อมมากที่สุด เพราะตึกนี้เป็นตึกสุดท้ายแล้ว หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ มันก็เห็นแววรำไรว่าเขาจะต้องตามหาฝนแก้วโดยไม่มีทิศทางอีกวัน

โดยไม่ต้องค้นหารายชื่อ เพียงแค่เขาบอก เจ้าหน้าที่ก็ตอบเหมือนเธอรู้จักฝนแก้วอยู่แล้ว

“ฝนน่าจะยังอยู่บนห้อง ทำไมคุณไม่โทร.ไปเรียกเธอล่ะคะ”

“ผมโทร.ไม่ติดครับ”

ตั้งแต่เช้ามา เขาโทร.ไปหาฝนแก้วถึงสองหน ซึ่งเธอก็ปิดเครื่องเหมือนเมื่อวานช่วงเย็น

“งั้นคุณต้องรอเธออยู่ตรงนี้ค่ะ”

“เธออยู่ห้องไหนครับ”

“ฉันบอกคุณไม่ได้ ยังไงก็ขอให้คุณติดต่อฝนแก้วเองก่อน”

ถึงแม้ในสายตาของพนักงานจะเห็นว่าก่อฤกษ์มีท่าทางที่ดูดีมาก แต่คนสมัยก็ไว้ใจกันได้ยาก ยิ่งเป็นเรื่องระหว่างหนุ่มสาว เธอจะไม่ขอเสี่ยง

ในขณะที่ก่อฤกษ์ถอยไปนั่งรอฝนแก้วบนเก้าอี้ในล็อบบี พนักงานสองคนก็กระซิบกระซาบกัน

“เขามาถามหาฝนแก้วคนที่กำลังท้องอยู่ใช่ไหมพี่”

“ฝนแก้วคนนั้นนั่นแหละ มีอยู่คนเดียว เธออยู่ที่อะพาร์ตเมนต์นี้มาตั้งแต่เรียนหนังสือแล้ว”

“แฟนของเธอเป็นใคร ไม่ใช่คนที่เราเห็นเมื่อวานเหรอ ผู้ชายคนนั้นก็เช่าห้องที่ตึกนี้ด้วย”

“ตอนแรกพี่ก็คิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ชักจะไม่แน่ใจแล้ว”

เมื่อเป็นเช่นนี้ พนักงานอีกคนก็เข้าใจได้ว่าทำไมผู้ชายหน้าตาดีที่พวกเธอเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกนั้นถึงไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปหาฝนแก้วถึงในห้องพัก...

เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร มีความสัมพันธ์อันใดกับผู้เช่าที่กำลังตั้งท้อง อีกทั้งผู้เช่าคนนี้ก็มีผู้ชายที่อยู่ร่วมตึกซึ่งพูดคุยอย่างสนิทสนมให้เห็นกันอยู่ทั้งคน ซึ่งไม่ว่าอย่างไร ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้เช่าจะต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

ฝนแก้วตื่นนอนตอนแปดนาฬิกา เมื่อคืนเธอนอนหลับเร็ว เหมือนชดเชยจากค่ำคืนที่ผ่านมาที่เธอนอนหลับยาก แถมยังตื่นมาอาเจียนตั้งแต่ตีห้า ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลียตลอดทั้งวัน หากเมื่อวานก็มีบางอย่างเข้ามาทำให้เธอคลายความกังวลลงได้

พี่หมูรุ่นพี่ที่เธอได้เจอเขาโดยบังเอิญ เขายื่นตะเกียงส่องนำทางมาให้เธอ เขาทำให้เธอได้เห็นแสงสว่างของเส้นทางชีวิตได้ชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่เธอต้องอยู่กับความมืดมนมานาน มันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย ลูกในท้องก็สงบลง เธอนอนหลับได้อย่างไร้กังวลเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา

พอถึงเช้าวันนี้ เมื่อใกล้จะถึงเวลาต้องออกไปทำงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ฝนแก้วจึงอาบน้ำและจัดการตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย เธอเปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อรับการติดต่อ หากมีข้อความมิสคอลแจ้งเตือนเข้ามา

สายของพี่ก่อ...

ในทีแรกฝนแก้วคิดว่าเป็นข้อความเตือนที่ตกค้างจากเมื่อวาน แต่เมื่อกดดู เธอจึงเห็นว่าเขาเพิ่งติดต่อมาหาเธอในช่วงเช้าของวันนี้ มันทำให้เธอมุ่นคิ้วคิด เพราะฉุกคิดได้ว่าคนที่ใช้เบอร์นี้มีอยู่สองคน

ใครโทร.มาหาเรา พี่ก่อหรือพี่ชายของเขา

พลันเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์ที่ติดอยู่ในความคิด ฝนแก้วสะดุ้งโหยง เธอเกือบจะสะบัดมือทิ้งโทรศัพท์ลงบนพื้น แต่โชคดีที่คุมสติได้ทัน

ฝนแก้วกดรับสายด้วยมือสั่นเทา ขัดใจตัวเองที่รู้ตัวล่วงหน้าว่าสายนี้กำลังพยายามติดต่อมาหา เธอมีเวลาเตรียมใจตั้งแต่เมื่อวาน แต่พอถึงเวลาจริง ทำไมสติถึงทำท่าจะบินหายไปได้

“สวัสดีค่ะ”

“ฝน!”

“คะ คุณ...เป็นใครหรือคะ”

ไม่มั่นใจเสียแล้วว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เพราะตอนที่เธอคุยกับพี่ชายฝาแฝดของก่อฤกษ์เมื่อเกือบสองเดือนก่อนนั้น เธอแยกเสียงของพวกเขาไม่ได้ เธอยังคิดว่าเสียงของพี่ชายของเขาเป็นเสียงของเขาอยู่เลย

“พี่ก่อไงครับ ฝนจำพี่ไม่ได้แล้วเหรอ”

“คุณมีธุระอะไรหรือคะ”

“พี่มาหาฝน ฝนลงมาพบพี่ได้ไหม หรือจะให้พี่ขึ้นไปหาฝนที่ห้องก็ได้ เจ้าหน้าที่อะพาร์ตเมนต์บอกว่าฝนยังอยู่ในห้อง”

“ฝะ...ฝนไม่สะดวกค่ะ ฝนไม่...”

“พี่อยากเจอฝน พี่รอฝนอยู่ที่ล็อบบี”

ฝนแก้วตัดสาย เพราะเธอควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้เธอทำใจแล้วว่าก่อฤกษ์จะหายไปจากเธอตลอดกาล เธอทำใจว่าตัวเองถูกผู้ชายหลอกฟันแล้วทิ้งได้แล้ว แต่ทำไมวันนี้เขาถึงปรากฏตัวขึ้นมาในชีวิตของเธออีก

การเข้ามาหรือจากไปของก่อฤกษ์ยังทำให้จิตใจของเธอกระเพื่อมไหว เพราะมันยังเร็วเกินไปที่จะให้เธอทำใจให้ลืมเขา

นานนับสิบนาทีที่ฝนแก้วยืนนิ่งงันอยู่ในห้อง เมื่อใกล้ถึงเวลาทำงาน เธอจึงออกจากห้องโดยไม่ลืมล็อกประตูอย่างเรียบร้อย

ก่อฤกษ์ยืนนิ่งสงบอยู่ตรงหน้าโถงลิฟต์ หากจิตใจกำลังร้อนรุ่ม เขามองผู้คนที่เดินออกจากลิฟต์ของอะพาร์ตเมนต์ สายตาคมสำรวจทุกคนที่เดินออกมา เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไร เพราะเขาต้องการพบฝนแก้วเท่านั้น

เธอยังไม่ลงมา หากเขาไม่ถอดใจ เพราะเจ้าหน้าที่บอกเขาว่าไม่ว่าอย่างไรฝนแก้วจะต้องออกมาจากห้องเพื่อไปทำงานในร้านก๋วยเตี๋ยว เขาจึงปักหลักรอเธออยู่ตรงนี้ เพราะกลัวว่าเธอจะหลุดรอดสายตาเขาไป

ตึ๊ง...

ประตูลิฟต์เปิดออกในเวลาเก้านาฬิกาห้าสิบนาที หนุ่มสาวนักศึกษาคู่หนึ่งเดินออกมา ก่อฤกษ์กำลังจะถอนสายตา เพราะไม่เห็นใครเดินตามออกมาแล้ว หากก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งก็ก้าวเท้าเนิบออกมา ซึ่งทำให้เขาผวาไปหาเธอ

ก่อฤกษ์จับข้อมือของเธอไว้อย่างลืมตัว ในขณะเดียวกันเขาก็กราดสายตามองทั่วร่างของเธอไปด้วย

“ฝน...ฝนท้องจริงๆ เหรอ”

ถ้อยคำนี้หลุดออกมาได้อย่างไร ก่อฤกษ์ก็ชะงักไปเหมือนกัน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขาตั้งแต่ตอนไหน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel