บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 ไม่ต้องการแล้ว

ฝนแก้วไม่ยื้อยุด เธอเพียงเดินออกมาห่างๆ จากหน้าประตูลิฟต์เพื่อไม่ให้ขวางทางคนอื่นที่อาจโดยสารลิฟต์ลงมาในรอบหลัง ก่อฤกษ์จึงต้องเดินตามเธอไปด้วย

หญิงสาวผลักประตูอะพาร์ตเมนต์เดินออกไป เป้าหมายเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ที่อยู่เลียบกับถนนภายในซอย เธอทำเหมือนไม่สนใจว่ายังมีใครอีกคนที่เดินประชิดอยู่ทางข้างหลัง

“ฝนท้องลูกของพี่ใช่ไหม”

คำถามที่สองไม่ได้ดีกว่าคำถามแรก ฝนแก้วไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไร หรือเขาเป็นมาตั้งแต่แรก แต่เป็นเธอเองที่ตาบอด จนมองไม่เห็นมัน

เมื่อคิดว่าหากปล่อยให้ก่อฤกษ์เดินตามอยู่อย่างนี้ มันคงเป็นภาพที่สะดุดสายตามากเกินไป ฝนแก้วจึงหยุดฝีเท้า แล้วหันไปเผชิญหน้ากับเขา เธอไม่สนใจว่าสีหน้าและแววตาของตนเป็นอย่างไร มันอาจกำลังแสดงความอ่อนแออย่างถึงที่สุดก็ได้...แต่ช่างมันปะไร

“เราเลิกกันแล้ว”

“แต่ฝนท้องกับพี่”

“คุณตัดสินใจเดินออกไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก คุณไม่จำเป็นต้องสนใจเด็กคนนี้ด้วย เพราะลูกจะเป็นลูกของฝนคนเดียว”

“ทำไมฝนถึงคิดอย่างนี้”

“ฝนอยู่ได้แล้วค่ะ”

“แต่ฝนโทร.ไปหาพี่เอง”

“ฝนโทร.ไปหาคุณเมื่อสองเดือนก่อน...มันนานพอสมควรนะคะ ตอนนั้นฝนต้องการความช่วยเหลือ ฝนอยากให้คุณช่วย ฝนเลยตัดสินใจโทร.ไปบอกคุณว่าฝนตั้งท้อง พี่ชายของคุณเป็นคนรับสาย เขาพูดถูกค่ะ เขารู้ทันว่าฝนจนตรอก ฝนไม่มีทางไป ฝนเลยโทร.ไปบอกคุณ แต่เมื่อคุณไม่ช่วยเหลือ ฝนก็ทำอะไรคุณไม่ได้”

น้ำเสียงของฝนแก้วสั่นพร่า น้ำตาจวนเจียนจะหยด แต่เธอไม่สนใจ เธอไม่คิดจะรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้ว เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงเก่ง เธอไม่เคยเป็นผู้หญิงแกร่ง หากเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่ดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเท่านั้น

สีหน้าของก่อฤกษ์ไม่ได้ดีไปกว่าเธอ ดวงหน้าของเขาเผือดลง ฝนแก้วรู้ว่าคำพูดของตนมันค่อนข้างแรง แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาทำกับเธอ มันก็ยังเทียบกันไม่ได้หรอก...

ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยการหลอกลวง เธอจะคาดหวังอะไรจากมัน ก่อฤกษ์ปั้นหน้าโกหกผู้หญิงหน้าโง่คนนี้ให้หลงเชื่อตั้งแต่เขาเดินเข้ามาหา จนกระทั่งถึงวันที่เขาบอกเลิกรา...ยามนึกถึงเหตุการณ์ทุกฉากทุกตอนที่มีร่วมกัน มันเคยตราตรึงอยู่ในหัวใจ แต่ตอนนี้เธอได้แต่รู้สึกเศร้าเสียใจ เพราะรู้ว่าแท้จริงมันไม่เคยมาจากความจริงใจของเขา เขาทำร้ายเธอได้ลงคอ

เลือดเย็นชะมัด...

ลูกค้าโต๊ะแรกเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แล้ว ฝนแก้วสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับก่อฤกษ์ เธอถึงรู้ว่าตัวเองรับมือได้ดีเกินกว่าที่นึกกลัว ตอนนี้ความกระวนกระวายใจลดลง...มันดีกว่าการที่เธอต้องคอยปิดโทรศัพท์หนีการติดต่อจากเขา

“ดีขึ้นหรือยัง ยังแพ้ท้องอยู่หรือเปล่า”

“ฝนหายแล้วค่ะ เมื่อวานได้นอนพักเต็มที่ วันนี้หายเวียนหัวแล้ว”

“ป้าเห็นหน้าตาของฝนเหมือนไม่ค่อยสบาย”

ป้าจุ๋มพูดพึมพำ ฝนแก้วตั้งใจแล้วว่าวันนี้เธอจะต้องทำงานให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ของป้าจุ๋มขายดีก็จริง ถ้าหากลุงกับป้าทำกันแค่สองคน พวกเขาคงอยู่กันได้อย่างสบาย แต่เมื่อมีภาระต้องจ่ายค่าจ้างให้เธออีกคน มันจึงถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มองข้ามไม่ได้

ฝนแก้วต้องการค่าจ้างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้ในแต่ละเดือน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เกรงใจเจ้าของร้านด้วย เธอห่วงความอยู่รอดของร้านก๋วยเตี๋ยวไม่น้อยไปกว่าห่วงตัวเอง

“วันนี้ฝนจะอยู่จนกว่าป้าจะปิดร้านค่ะ”

ฝนแก้วบอก หวังจะให้เจ้าของร้านสบายใจ เธอคะเนเวลาแล้วว่าหลังจากอยู่ช่วยป้าจุ๋มปิดร้าน เธอก็จะรีบกลับห้องพักเพื่อรอคุยรายละเอียดงานขายของออนไลน์กับรุ่นพี่ต่อ

“ค่อยๆ ทำไป ไม่ต้องหักโหม”

ถือว่าป้าจุ๋มเป็นนายจ้างที่มีน้ำใจและให้โอกาสลูกจ้างที่เต็มไปด้วยปัญหาส่วนตัวอย่างเธอ บทเรียนจากเรื่องงานที่ออฟฟิศเก่ามันสอนให้ฝนแก้วเลี่ยงที่จะก้าวพลาดซ้ำสอง

ยาดมที่ใส่ไว้ในกระเป๋าชุดคลุมท้องถูกหยิบมาใช้เกือบทุกสิบนาที อาการวิงเวียนศีรษะแวะเวียนเข้ามาเป็นระยะ แต่เธอก็บอกตัวเองว่าวันนี้ตนต้องไหว

“เส้นเล็กไม่งอกกับเกาเหลารวมครับ”

ฝนแก้วหันไปมองด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นภายในร้าน เธอไม่ได้ตกใจเมื่อเห็นลูกค้าที่นั่งตรงโต๊ะหมายเลขเจ็ด

เขาสั่งออร์เดอร์กับเธอ ทั้งที่มีกระดาษให้ลูกค้าเขียนออร์เดอร์อยู่บนโต๊ะ หากฝนแก้วก็ไม่ได้ท้วงติงลูกค้าหน้าใหม่ เธอเดินไปหยิบกระดาษบนโต๊ะของเขาแล้วเขียนออร์เดอร์ให้เขาเสียเอง ก่อนจะนำไปวางให้ป้าจุ๋มที่กำลังยืนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงหน้าร้าน

ตลอดเวลาที่ลูกค้าคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมาในร้านก๋วยเตี๋ยว สีหน้าของฝนแก้วเรียบเฉย มันเฉยเสียจนลูกค้าหนุ่มรู้สึกใจเสีย

ความเสียใจและความผิดหวังจนถึงขีดสุดมันเป็นอย่างนี้นี่เอง มันทำให้คนบูชาความรักเหนือสิ่งอื่นใดอย่างเธอต้องเดินมาถึงจุดที่กลายเป็นคนหัวใจเย็นชา...เพราะมันเจ็บจนชาหนึบไปทั้งหัวใจ

ฝนแก้วเข้ามาทำงานในร้านก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่สิบโมงเช้า ก่อฤกษ์เฝ้ามองเธออยู่ในร้านที่ตั้งอยู่เยื้องกัน เขายังไม่เห็นเธอได้พัก กระทั่งตัดสินใจเดินเข้ามาเป็นลูกค้าของร้านนี้ในตอนบ่ายโมง ฝนแก้วเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวและเกาเหลาให้เขา จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปยังด้านหลังของร้าน

ก่อฤกษ์คิดว่าเธอจะเข้าไปพักผ่อนเสียอีก หากเมื่อได้ยินเสียงถ้วยชามกระทบกัน เขาจึงถือวิสาสะเดินไปชะเง้อมอง แล้วจึงเห็นคนท้องกำลังนั่งล้างจานที่มีเป็นกองพะเนิน

ลูกค้าหนุ่มตีหน้าเครียด ความสงสัยประดังเข้ามาหา ฝนแก้วออกจากงานที่ออฟฟิศเดิมตั้งแต่เมื่อไรกันนะ...หรือเป็นตอนที่เธอโทร.มาหาเขาเพื่อบอกว่าตัวเองตั้งท้อง

‘ฝนโทร.ไปหาคุณเมื่อสองเดือนก่อน...มันนานพอสมควรนะคะ ตอนนั้นฝนต้องการความช่วยเหลือ ฝนอยากให้คุณช่วย ฝนเลยตัดสินใจโทร.ไปบอกคุณว่าฝนตั้งท้อง พี่ชายของคุณเป็นคนรับสาย เขาพูดถูกค่ะ เขารู้ทันว่าฝนจนตรอก ฝนไม่มีทางไป ฝนเลยโทร.ไปบอกคุณ แต่เมื่อคุณไม่ช่วยเหลือ ฝนก็ทำอะไรคุณไม่ได้’

สองมือหนายกขึ้นมากุมขมับ ก่อฤกษ์ไม่เคยคิดว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างนี้ สมแล้วที่ฝนแก้วโกรธเขามาก

เขาคิดน้อยเกินไป เขาปัดความรับผิดชอบออกไปง่ายๆ คิดเอนเอียงไปว่าฝนแก้วคงไม่ได้ตั้งท้องจริง เธออาจเล่นเกมกับเขาเหมือนอย่างที่แฟนเก่าเคยทำ หากในทางกลับกัน สิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องจริง เขาก็ยังเชื่อว่าเธอคงดูแลตัวเองได้ ด้วยความที่ฝนแก้วเป็นเด็กกำพร้า เธอคงแข็งแกร่งพอ เพราะเธอชินกับการดูแลตัวเอง เธอคงรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ไหว

หากดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันคลาดเคลื่อนไปเสียหมด...ฝนแก้วดูเปราะบางไม่ต่างกับแก้วใสที่พร้อมจะแตกลงในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง

“คุณจะสั่งอะไรเพิ่มไหม”

แม่ค้าวัยกลางคนที่อยู่ประจำด้านหน้าร้านตะโกนถาม ลูกค้าหนุ่มจึงหยุดความคิดเครียดลงชั่วขณะ

“สั่งครับ เอ่อ...ป้ามีอะไรแนะนำไหมครับ”

“มีลูกชิ้นลวกจิ้ม”

ป้าจุ๋มเปิดขายเมนูนี้ตอนใกล้จะปิดร้าน ถ้าเห็นว่าในวันนั้นยังมีลูกชิ้นเหลือพอ ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้ารายนี้ไม่ปฏิเสธ

“ป้าปิดร้านกี่โมงครับ”

ลูกค้าหนุ่มถามหลังจากได้ลูกชิ้นลวกจิ้มแล้ว เพราะอยากรู้ว่าลูกจ้างสาวท้องโตใกล้จะได้พักหรือยัง

“ปกติร้านปิดตอนบ่ายสามโมง แต่วันนี้ป้าคงปิดร้านก่อนสักครึ่งชั่วโมง เพราะไก่ฉีกหมดแล้ว”

ก่อฤกษ์ตั้งใจจะปักหลักรอจนกว่าเจ้าของร้านจะปิดร้าน เพราะเขาไม่อาจทิ้งฝนแก้วไว้ได้อีกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel