บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 นางฟ้าใจดีคนนั้น...

นับเป็นครั้งที่แรกในรอบสี่เดือนที่ก่อฤกษ์นำรถมาจอดหน้าอะพาร์ตเมนต์สูงแปดชั้นภายในซอยที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน แต่ความรู้สึกในคราวนี้มันเปลี่ยนไป มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่เขาเคยมา

“ยังไม่เที่ยง...”

ก่อฤกษ์พึมพำเมื่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา พลันคิดว่าวันนี้เป็นวันทำงาน ฝนแก้วน่าจะอยู่ที่ทำงานของเธอ

“เรามาทำอะไรที่อะพาร์ตเมนต์ของเธอวะ”

เมื่อคิดว่าการที่ฝนแก้วไม่ได้รับสายของเขา อาจเป็นเพราะเธอกำลังยุ่งอยู่กับงาน ไม่ใช่การจงใจไม่อยากคุยกับเขา ก่อฤกษ์ก็รู้สึกดีขึ้นมา

กระจกหน้าต่างรถถูกเลื่อนให้เปิดออก เบาะคนขับปรับเอนลง เขาคิดจะพักสักงีบด้วยรู้สึกอ่อนล้า ตื่นนอนเมื่อไรแล้วค่อยว่ากัน หากเขาไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือมาวางบนเบาะข้างตัว เผื่อฝนแก้วโทร.กลับมา เขาจะได้รับสายของเธอได้ทัน

“หน้าตายังซีดอยู่เลย อยากกลับไปพักไหม ป้าจะให้ลุงมาล้างถ้วยที่เหลือเอง”

ป้าจุ๋มถามคนที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้สำหรับนั่งล้างถ้วยมานั่งเอนหลังพิงผนัง ในมือของเธอมียาดม นางสังเกตลูกจ้างสาวท้องโตมาสักพักแล้ว คิดว่าวันนี้เจ้าหล่อนคงไม่ไหวจริงๆ

“เหลือถ้วยอีกไม่มาก ฝนขอพักสักสิบนาที แล้วค่อยล้างต่อค่ะ”

“เอาอย่างนั้นก็ได้ ถ้าล้างเสร็จก็กลับห้องไปเลยนะ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา มันจะพากันลำบากไปหมด”

ป้าจุ๋มพูดตรงๆ เสมอ ฝนแก้วยิ้มรับ ก่อนจะหลับตาเพื่อนอนพัก

ช่างน่าแปลกนัก วันนี้เธอมีอาการแพ้ท้องทั้งวัน ทั้งที่เคยดีใจว่าร่างกายของเธอแข็งแรงดี ไม่มีอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ และคลื่นไส้ จนเป็นอุปสรรคในการทำงาน หากวันนี้ทุกอาการที่ว่ามานั้นมันโถมเข้าหาเธอพร้อมกัน

หลังจากนั่งพักจนรู้สึกดีขึ้น ฝนแก้วจึงลุกขึ้นไปจัดการงานจนเสร็จ ลูกค้าบางตาลงแล้ว เธอลาป้าจุ๋มเพื่อกลับไปพักผ่อน ในขณะที่ย่างเท้าเดิน มือบางก็ลูบท้องนูนๆ พลางพูดกับคนในท้องไปด้วย

“หนูแกล้งแม่อยู่หรือเปล่าคะ วันนี้แม่ทำงานไม่ได้เลย ทำท่าจะเป็นลมตั้งหลายรอบ ดีนะที่ยายจุ๋มใจดี ไม่ว่าอะไรแม่ ปล่อยให้แม่นั่งพักเป็นช่วงๆ ได้ทั้งวัน แถมยังให้แม่กลับห้องก่อนด้วย พรุ่งนี้แม่จะทำงานชดเชยให้ยายจุ๋ม ส่วนหนูก็ต้องเป็นเด็กดีนะคะ ไม่ซนไม่ดื้อกับแม่นะ”

แค่ได้พูดคุยกับลูกน้อย ได้รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของลูกที่อยู่ในท้อง ฝนแก้วก็สัมผัสถึงความสุขได้อย่างง่ายๆ

หญิงสาวเดินผ่านลานจอดรถของอะพาร์ตเมนต์ ช่วงเวลานี้มีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน เพราะคนที่พักอาศัยส่วนใหญ่เป็นคนทำงานออฟฟิศ หากทันทีที่เธอเดินเข้ามาในล็อบบีของอาคารที่พักอาศัย พลันเห็นจากทางหางตาว่ามีรถยุโรปสีตะกั่วคันหนึ่งแล่นออกไป เธอหันไปมองตามหลัง เพราะรถคันนั้นสะดุดตา

“อะพาร์ตเมนต์เรามีเศรษฐีด้วยเหรอ รถคันนั้นราคาหลักสิบล้านเลยนะ”

เสียงคุ้นหูดังอยู่ใกล้ๆ ฝนแก้วหันกลับมามอง แล้วต้องเบิกตากว้างขึ้น โดยที่อีกฝ่ายมองเธอยิ้มๆ อยู่แล้ว ก่อนที่เขาจะหลุบตาลงมองท้องนูนๆ ของเธอ

“สวัสดีสาวสวย ไม่ได้เจอกันเกือบปี เราหนีพี่ไปแต่งงานแล้วเหรอ”

“สวัสดีค่ะพี่หมู”

ฝนแก้วทักทายแล้วหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เพราะเธอไม่รู้จะตอบเขาอย่างไรดี ผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของเธอ หลังจากที่เรียนจบ เธอก็รู้ว่าเขาเปิดร้านขายหมูสะเต๊ะแถวย่านกลางเมือง อีกทั้งยังเป็นพ่อค้าขายของออนไลน์ โดยเขาเช่าห้องพักที่นี่ไว้เป็นที่เก็บของ เธอรู้เพราะเจ้าตัวเคยกระซิบว่าห้ามเธอบอกเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ เพราะมันเป็นข้อห้ามไม่ให้คนพักอาศัยนำห้องไปใช้ผิดประเภท...ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเขาแค่พูดเล่น ฝนแก้วจึงได้แต่หัวเราะกับความอารมณ์ดีของเขา

“ตอนนี้ฝนทำอะไรอยู่ที่ไหน แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ”

รุ่นพี่คงเห็นท่าทางอึกอักของเธอ เขาจึงเปลี่ยนเรื่องถาม ซึ่งคราวนี้ฝนแก้วตอบได้อย่างคล่องปากมากขึ้น

“ฝนว่างงานค่ะ ช่วงนี้ช่วยป้าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ ถ้าพี่หมูมีงานให้ฝนทำเพิ่มก็บอกได้นะคะ”

“พี่ไม่กล้าใช้แรงงานคนท้องหรอก แล้วเราลาออกจากงานทำไม ออกมาเป็นแม่บ้านรอเลี้ยงเจ้าจิ๋วในท้องหรือ”

“ฝนไม่ได้ตั้งใจที่จะว่างงาน แต่ฝนตกงานจริงๆ ฝนต้องการงานและต้องการรายได้ค่ะ”

ฝนแก้วบอกเสียงจริงจัง เพราะเห็นว่ารุ่นพี่คนนี้รู้จักผู้คนมากกว่าเธอ เขาอาจช่วยให้เธอมีงานทำที่มั่นคงและมีรายได้มากขึ้น...ความต้องการอยู่รอดมันสอนให้ฝนแก้วกล้าขอความช่วยเหลือและไม่อายที่จะบอกความจริงกับใครสักคน

“ฝนรีบไปไหนหรือเปล่า เรานั่งคุยกันหน่อยดีไหม ในร้านกาแฟก็ได้”

รุ่นพี่ชี้ไปยังร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ใต้อะพาร์ตเมนต์ ภายในร้านนั้นมีโต๊ะว่างอยู่หลายโต๊ะ นาทีนี้ฝนแก้วไม่คิดจะปิดกั้นโอกาสสำหรับตัวเอง เธอพยักหน้ารับคำชวน ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในร้าน

“พี่จะให้ฝนเป็นแอดมินเพจปล่อยของให้พี่ทางออนไลน์ พี่สาวของพี่ทำกระเป๋าหนังขาย เขามีโรงงานผลิตเอง ก็เลยมีบางชิ้นที่ถูกคัดออก เช่น ขนาดไม่ได้มาตรฐาน พี่เลยนำมาดัดแปลงและติดแบรนด์ใหม่ แต่คุณภาพหนังและการตัดเย็บยังเป็นสินค้าเกรดดี ฝนคิดว่าจะทำงานนี้ได้ไหม”

“ฝนทำได้ค่ะ แต่ช่วงสิบโมงเช้าถึงบ่ายสามโมงฝนอาจไม่สะดวก เพราะฝนต้องทำงานในร้านก๋วยเตี๋ยว”

“ไม่เป็นไร พี่มีแอดมินเพจทำงานอยู่อีกคน พี่จะให้ฝนมาช่วยเป็นแอดมินเสริม ไหนๆ ฝนก็อยู่ที่อะพาร์ตเมนต์นี้และพี่เก็บสินค้าไว้ที่นี่แล้ว พี่จะให้ฝนถือกุญแจห้องของพี่เพื่อมาแพ็กของเอง เออ! เราไม่ต้องกลัวพี่นะ เพราะห้องนั้นพี่ไม่ได้อยู่ พี่เช่าไว้เก็บของและแวะมาทำงานเท่านั้น”

“ฝนทำได้ค่ะ”

เมื่อได้รู้ถึงค่าจ้างที่จะได้รับ ฝนแก้วก็ยิ้มดีใจอย่างปิดไม่มิด เพราะมันมากกว่าค่าจ้างที่ได้จากร้านก๋วยเตี๋ยวเสียอีก การทำงานสองที่เช่นนี้ก็ทำให้เธอมีเงินเหลือสำหรับสำรองไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็นแล้วสินะ

“ถ้าช่วงไหนยอดขายดี พี่จะมีเงินพิเศษให้ด้วย แต่ยังไงฝนก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ ฝนท้องห้าเดือนกว่าแล้วใช่ไหม อีกไม่กี่เดือนก็จะคลอดลูกแล้ว’”

“ฝนคงทำได้จนคลอดค่ะ เพราะฝนคิดว่ามันไม่ใช่งานหนักอะไร”

“พี่ก็อยากพูดอย่างนั้น แต่ตัวพี่มันเป็นผู้ชาย พี่เลยพูดเองไม่ได้ พี่เห็นพี่สาวทำงานตลอดช่วงที่ท้อง หลังคลอดได้ไม่นาน พอฟื้นตัวเขาก็เริ่มทำงานแล้ว”

รุ่นพี่ยกมือลูบท้ายทอยแก้เก้อ การได้เจอกับรุ่นน้องที่ตนเคยหมายปอง แล้วพบว่าเจ้าหล่อนกลับท้องป่องเสียแล้ว มันทำให้เขาทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน พยายามพูดเรื่องงานให้มันจริงจังเข้าไว้ เพราะเห็นอยู่ว่าเธอต้องการความช่วยเหลือ

“งั้นคงเท่านี้แหละ ฝนทำงานกลับมาเหนื่อยๆ ก็ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ ยังไงพรุ่งนี้ค่อยเริ่มงาน แล้วพี่จะโทร.มาคุยในช่วงที่ฝนเลิกงานจากร้านก๋วยเตี๋ยวแล้ว”

ฝนแก้วยกมือไหว้เขา อีกฝ่ายรีบยกมือรับไหว้อย่างเร็ว เหมือนกับเขายังไม่ชิน เมื่อเดินแยกจากมา ฝนแก้วก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือในถุงผ้าใส่สัมภาระของตัวเองดังขึ้น

ถ้าไม่ใช่สายจากบริษัทขายประกันหรือเสนอสินเชื่อ มันก็อาจเป็นสายของบริษัทที่โทร.มาเรียกให้เธอไปสัมภาษณ์งาน ถึงวันนี้ฝนแก้วชินกับการถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าตนกำลังตั้งท้องแล้ว คิดเพียงว่าขอให้ตนขึ้นไปให้ถึงห้องพักก่อน แล้วค่อยโทร.กลับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel