บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 แตกสลายและก่อเกิดใหม่

ฝนแก้วเดินเข้าไปในคลินิกแห่งนั้น เช้านี้ยังไม่มีคนไข้เข้ามาใช้บริการ ทั่วทั้งคลินิกเหมือนจะมีแต่ผู้ช่วยพยาบาลอยู่โยงคนเดียว

“เก็บของกลับบ้านหรือ”

“ฝนลาออกแล้วค่ะ แต่...ความจริงแล้วฝนถูกให้ออกจากงาน”

“อืม...พี่ไม่เห็นน้องหลายวัน ยังเป็นห่วงอยู่ว่าขาดงานหลายวันแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทีนี้น้องจะทำยังไงต่อ”

“ฝนยังไม่ได้คิดค่ะ”

“น้องมีแฟนไหม พ่อของเด็กน่ะ”

“ฝนเลิกกับเขาแล้วค่ะ”

“อยู่ตัวคนเดียวหรือเปล่า”

ฝนแก้วพยักหน้า

“ถ้าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายจนเกินไป พี่แนะนำให้น้องบอกให้เขารู้ พ่อแม่เลิกกันก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อมีเด็กเกิดมา พ่อกับแม่ก็ควรรับผิดชอบร่วมกัน”

ฝนแก้วไม่เคยคิดในมุมนี้มาก่อน...ตลอดสัปดาห์ที่จมอยู่กับตัวเองภายในห้องพัก เธอคิดเพียงว่าสิ่งที่เกิดกับเธอในวันนี้ เธอจำเป็นต้องผ่านมันให้ได้ด้วยตัวเอง

“ฝนขอบคุณพี่ค่ะ”

“พี่แนะนำได้เท่านี้ ความจริงพี่ไม่ควรไปยุ่งกับคนไข้ของคลินิก มันเกินหน้าที่ของพี่ ถ้าคุณหมอรู้ พี่คงถูกดุ ปกติพี่เห็นน้องเดินผ่านหน้าคลินิกเกือบทุกวัน แต่ตั้งแต่วันจันทร์ที่น้องไม่สบายเข้ามาในคลินิก น้องก็หายไปเลย พี่เลยเป็นห่วง”

บทสนทนากับคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยจบลงแค่นั้น ฝนแก้วบอกลา ก่อนจะหอบกล่องใส่ของที่ขนมาจากออฟฟิศขึ้นรถเมล์เมื่อรถมาจอดเทียบป้ายที่อยู่หน้าคลินิกพอดี

แค่ช่วงเย็นของวันที่ฝนแก้วไปเก็บของจากออฟฟิศเก่ากลับมาถึงห้องพัก เธอก็เริ่มค้นหาบริษัทที่เปิดรับสมัครพนักงานใหม่ นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนพอดี ซึ่งเธอจำไม่ได้ว่าส่งใบสมัครออนไลน์ไปกี่บริษัทแล้ว หากทุกบริษัทล้วนเงียบกริบ ไม่มีที่ไหนติดต่อกลับมา ไม่มีบริษัทไหนเรียกให้เธอไปสัมภาษณ์งาน

วันเวลาที่ผ่านไปทำให้ฝนแก้วได้ตระหนักว่าเหนือจากความเศร้าที่ถูกคนรักทิ้งไป นั่นก็คือเธอกำลังตั้งท้อง เธอกำลังจะคลอดลูกในอีกห้าเดือนข้างหน้า

ความคิดถึงและความโหยหาที่มีต่อพ่อของลูกนั้นรุมเร้าเข้ามาทุกคืนวัน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูบ่อยครั้ง ชั่งใจว่าควรติดต่อไปหาเขาดีไหม

‘เราจากกันตรงนี้ ฝนไม่ต้องติดต่อมาหาพี่อีก’

ที่ผ่านมาฝนแก้วทำให้คำสั่งห้ามของเขาเป็นฝ่ายชนะ เพราะทิฐิและความถือดีพุ่งมาขวางไว้ทุกทีเมื่อเธอเกิดความลังเล แต่เมื่อสถานการณ์เดินมาถึงจุดนี้ เธอเองก็ตระหนักได้ว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้น เธอกำลังจะทำให้ลูกในท้องพลอยตกที่นั่งลำบาก ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากความอ่อนแอของเธอเอง

ฝนแก้วหยิบคำแนะนำของผู้ช่วยพยาบาลมาตรึกตรองใหม่ ซึ่งดูเหมือนว่าคราวนี้มันจะมีน้ำหนักที่สูงมาก

‘ถ้าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายจนเกินไป พี่แนะนำให้น้องโทร.ไปบอกเขา’

มือบางเกิดอาการสั่นเทาเมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถือไว้ ฝนแก้วกลั้นลมหายใจ ความลังเลแวะเวียนเข้ามา แต่เมื่อเธอก้มมองท้องที่นูนน้อยๆ ของตัวเอง มันก็ทำให้เธอฮึดสู้...เป็นการกลับมาสู้ครั้งใหม่หลังจากเธอปล่อยให้ตัวเองพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า

ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...

เสียงสัญญาณว่าง แต่ไม่มีคนรับ ฝนแก้วปลอบตัวเองว่าเขาคงกำลังเข้าห้องน้ำหรือกำลังพูดคุยติดพันกับใครสักคน

ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...

เธอโทร.ไปหาเขาครั้งที่สองหลังจากเว้นช่วงครบสิบนาที หากเรียวคิ้วสวยต้องขมวดมุ่นเมื่อผลยังเป็นเหมือนเดิม กระนั้นเธอยังตัดสินใจจะให้โอกาสตัวเองอีกสักครั้ง

ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...

ผลของการโทร.ไปหาเขาในครั้งที่สามยังไม่ต่างจากเดิม เรียวปากสวยเม้มแน่น เขาคงไม่รับสายของเธอแล้ว...

น้ำตาร่วงผล็อย ความน้อยใจพวยพุ่งขึ้นมา ฝนแก้วยังรักเขา เธอยังคงแคร์เขา ถึงแม้บางขณะเธอยังมีทิฐิเกิดขึ้นในใจ แต่ทุกความรู้สึกที่เธอมี มันบ่งบอกว่าผู้ชายที่เป็นรักแรกและเป็นพ่อของลูกนั้นยังมีอิทธิพลกับเธอแทบไม่ลดน้อยลงเลย

หากเธอวางโทรศัพท์ได้ไม่กี่นาที เสียงสายเรียกเข้าก็ดังขึ้น เธอหยิบมาดูอย่างไว มันเป็นสายจากเขาเอง

ความโกรธบินหายไป ความน้อยใจเจือจางลงแล้ว

“สวัสดีค่ะ พี่ก่อ”

เสียงสั่นเครือเจืออารมณ์ดีใจ...ทว่าปลายสายกลับเงียบกริบ ไม่ตอบกลับมาสักคำ ถ้าหากเป็นยามปกติ ฝนแก้วคงรอให้เขาตอบกลับมาก่อน หรือถ้ารอนานเกินไป เธอก็คงตัดสายไปเสีย แต่เมื่อสถานการณ์ของเธอไม่เหมือนเดิม เงื่อนไขเดียวที่เธอมีในเวลานี้ก็คือเธอกับลูกจะต้องรอด เธอจะหลบหนีและล่าถอยไม่ได้อีก

“ฝนกำลังทะ...ท้องค่ะ”

เมื่อบอกเขาไปแล้ว ฝนแก้วก็กลั้นใจรอฟังคำตอบ เธอได้ยินเสียงคนปลายสายเคลื่อนไหว คล้ายกับว่าเขาขยับตัวหรือเดินไปทำอะไรสักอย่าง

เธอรอสายเกือบนาที ก่อนจะได้ยินเสียงตอบกลับมา...เขาตอบกลับมาเป็นคำถามอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกงุนงงปนหวาดหวั่นใจ

“ฝนไหนครับ”

“ฝนแก้วค่ะ ฝนคบกับพี่ก่อ พี่ก่อเพิ่งบอกเลิกฝนเมื่อสามเดือนก่อน”

แทบร้องไห้โฮเมื่อต้องทวนถึงอดีตที่ไม่อยากจดจำ เธอยังจำฝังใจ แต่เขากลับลืมเธอเสียสิ้น ลืมแม้กระทั่งชื่อของเธอ ไม่เหลือเศษเสี้ยวของความทรงจำให้รกสมอง

“ผมขอโทษนะครับที่ต้องถามคำถามที่อาจทำให้คุณต้องเสียใจ คุณคบกับก่อช่วงไหนและคบกับเขานานไหมครับ”

“คุณไม่ใช่พี่ก่อหรือคะ?”

ฝนแก้วทวีความงุนงง เธอดึงโทรศัพท์มือถือมาดูหน้าจอ เธอเมมเบอร์นี้ไว้ เบอร์นี้ก่อฤกษ์ให้เธอมาเอง ในช่วงที่คบกัน เธอก็ติดต่อเขาผ่านเบอร์นี้

“ผมชื่อธีทัต ผมเป็นพี่ชายของก่อฤกษ์ครับ”

“แต่เสียงของคุณ…”

“เราเป็นฝาแฝดกัน เสียงเหมือนกัน มันเป็นปัญหาตอนคุยโทรศัพท์ทุกทีครับ แต่คุณไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนหน้าตาเหมือนเขาอีกคน เพราะผมกับเขาเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาของเราไม่เหมือนกัน อาจมีส่วนคล้ายคลึงบ้างตามประสาพี่น้อง”

“แต่พี่ก่อบอกว่าเขาไม่มีพี่น้อง”

ก่อฤกษ์บอกว่าเขาอยู่ตัวคนเดียวเหมือนเธอ เขาไม่มีพี่น้องและไม่มีครอบครัว เขาเคยพาเธอไปพบกับญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่บ้านตึกแถวเก่าๆ ย่านเจริญกรุง พวกเขาพูดคุยสนุกสนานจนทำให้ฝนแก้วนึกถึงผู้เป็นป้าที่เลี้ยงดูและอุปการะตัวเองมา

ก่อฤกษ์ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาและเธอมีหลายอย่างคล้ายกัน ถึงแม้คบกันในเวลาไม่นาน แต่เขากลับเข้าใจเธอไปเสียทุกอย่าง ในเวลานั้นเธอไม่สงสัยอะไร ด้วยคิดว่าเป็นเพราะทั้งสองคนมีพื้นฐานชีวิตไม่ต่างกัน

เธอเป็นเด็กกำพร้า ป้าที่เลี้ยงดูเธอตั้งแต่อายุแปดขวบจนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่ญาติทางสายเลือด หากป้าเป็นเพื่อนร่วมงานของแม่ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุพลัดตกจากเรือในขณะที่ทำหน้าที่เป็นไกด์พานักท่องเที่ยวไปชมปะการังในทะเล

“นิสัยนายก่อเป็นอย่างนี้เองครับ นอกคอกไปสักหน่อย มันไม่ค่อยยินดีที่จะมีพวกผมเป็นพี่น้องของมัน สงสัยมันจะอาย”

น้ำเสียงของคนปลายสายติดอารมณ์ดีเมื่อพูดถึงก่อฤกษ์ มันจึงทำให้ฝนแก้วรู้ว่าถ้อยคำนั้นเป็นคำเย้ามากกว่าคำพูดจริงจัง

“เขามีพี่น้องและครอบครัวหรือคะ”

“ถ้าคุณฝนหมายถึงนายก่อฤกษ์ที่เป็นเจ้าของเบอร์โทร.นี้ แน่นอนครับ มันมีพี่น้องและมีครอบครัว พี่น้องทั้งสามคนของมันยังอยู่สบายดี ส่วนพ่อกับแม่ของพวกผมก็ยังแข็งแรง เพียงแต่พวกท่านไม่ได้เลี้ยงดูนายก่อแล้ว เพราะมันโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ตอนนี้ผมเองก็อยากตัดหางมันปล่อยวัดแล้วเหมือนกัน”

ตัวชาไปทั้งร่าง...ฝนแก้วไม่รู้ว่าสิ่งไหนเป็นความจริงหรือสิ่งไหนเป็นเรื่องหลอกลวง ระหว่างเรื่องที่ก่อฤกษ์บอกเธอมาตลอดช่วงที่คบกัน หรือคนที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายของเขาและกำลังใช้โทรศัพท์ของเขาพูดคุยกับเธอ

ฝนแก้วเงียบไปนาน เงียบจนลืมไปว่าเธอยังถือโทรศัพท์มือถือแนบหูและเธอยังไม่ได้ตัดสาย

"คุณฝนแก้วบอกว่ากำลังตั้งท้องลูกของนายก่อ ผมคิดว่าเรื่องนี้เราควรคุยกัน"

“ฝนอยากคุยกับพี่ก่อค่ะ”

“ผมจะบอกนายก่อให้ครับ ผมต้องบอกให้มันรู้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ผมคงต้องจัดการอะไรแทนมันไปก่อน ปกติผมไม่ได้เชื่ออะไรง่ายๆ หรอกนะ แต่เป็นเพราะคุณฝนแก้วโทร.มาหามันที่เบอร์นี้ มันเป็นเบอร์ส่วนตัวของนายก่อที่เอาไว้ใช้เฉพาะคนในครอบครัว ผมเลยคิดว่าคงไม่มีสาวที่ไหนมาเล่นตลกกับพวกผมโดยการโทร.เข้ามาที่เบอร์นี้ได้”

คนปลายสายพูดอีกหลายคำ ฝนแก้วได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง เพราะสมองของเธอกำลังอื้ออึง มือเท้าเย็นเฉียบ...

ปีนี้เธออายุยี่สิบสามปี ยังไม่ถึงวัยเบญจเพส แต่ทำไมถึงมีเรื่องโถมซัดเข้ามาหลายเรื่อง มันทำให้เธอรู้สึกช็อกอย่างไม่หยุดหย่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel