บท
ตั้งค่า

บทที่๒...พระพรหมเล่นกล (๑)

บทที่๒...พระพรหมเล่นกล

ยามเช้าที่แสนเงียบสงบทำให้เขาได้รับอากาศแสนบริสุทธิ์ที่สวนข้างบ้านของตนเอง ซึ่งตนลงทุนจัดแต่งทุกอย่างตามความชอบ ทั้งต้นไม้ใหญ่และ

ต้นไม้เล็กที่ลงกระถางรอวันงอกงามบนพื้นดิน

ร่างสูงถือแก้วกาแฟเดินผ่านโถงบันไดเพื่อไปยังสวนที่ให้ความร่มรื่น เขาทำเป็นซุ้มระแนงไม้ มีต้นหนวดฤๅษีห้อยไว้ด้านข้าง พื้นปูด้วยหินฟรีฟอร์มปลูกต้นหนวดปลาดุกแคระสีเขียวสดแทรกระหว่างแผ่น ด้านข้างมีอ่างเลี้ยงปลาไว้สำหรับดูเล่นด้วยความเพลิดเพลิน โดยเขาเลือกเลี้ยงปลากัดแฟนซีสองตัว ได้มาจากเพื่อนสนิทสำหรับของขวัญขึ้นบ้านใหม่

วางถ้วยกาแฟไว้บนโต๊ะกลมขนาดเล็ก แล้วเดินมาให้อาหารปลาพลางยกริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย ค่อยผละมานั่งลงที่เก้าอี้เอนหลัง รับแดดที่ลอดผ่านระแนงไม้ยามเช้าที่ไม่ได้ร้อนจัด กลับให้ความรู้สึกอุ่นจากอากาศที่เริ่มหนาวของท้ายปี

ยกแก้วขึ้นจิบพลางฟังเพลงซึ่งเปิดโดยแผ่นเสียงของคนยุคก่อนที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ทว่าสำหรับข้ามภพนั้นเขาชอบความคลาสสิคแบบนี้อยู่แล้ว เก็บสะสมแผ่นเสียงเอาไว้มากมายตั้งแต่ราคาเพียงหลักร้อยจนตอนนี้กระโดดขึ้นไปสูงพอสมควรเพราะหลายคนเริ่มกลับมาฟังแผ่นเสียง

บ้านหลังนี้ที่เขาอาศัยซื้อต่อจากคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นที่จะกลับประเทศตัวเอง อาจเพราะรีบขายราคาจึงไม่สูงมากนัก แถมมีพื้นที่กว้างขวางจนเขาสามารถสร้างสตูดิโอไว้ด้านข้างได้ ค่อนข้างพึงพอใจกับบ้านหลังนี้พอสมควร

ก่อนกลับมาอยู่ไทยก็มีความคิดอยากรีโนเวท จึงให้น้องสาวอย่างนารีรัตน์เป็นธุระให้เกือบทุกอย่าง ส่วนตนเองได้ส่งรายละเอียดความต้องการ พร้อมคุยกับทีมสถาปนิกเองทุกขั้นตอน ถึงไม่ได้มาดูหรือกำกับเพราะติดงาน แต่เขาก็ติดตามการทำงานตลอด

จนได้บ้านที่พึงพอใจอย่างนี้ หลังใหญ่แต่ไม่อ้างว้างกลับให้ความรู้สึกอบอุ่น...

“ฮัลโหล” เสียงโทรศัพท์ที่วางไว้ในบ้านดังขึ้น เขาจึงลุกจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปรับพลางกรอกเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก ยามเช้าที่อยากพักผ่อนโดยไร้คนรบกวนดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เพื่อนสนิททำให้ความสุนทรีหายไป

‘น้ำเสียงมึงดูคิดถึงกูมากเลย’ ยังคงหยอกล้อด้วยความสนุก การเห็นข้ามภพโมโหเหมือนจะเป็นความสุขของเพื่อนคนนี้ไปเสียแล้ว

“มึงมีอะไรก็รีบพูดมา กูไม่ว่าง” ตัดบทรวดเร็ว

‘จะเข้าไปหานะ น่าจะช่วงสายๆ เนี่ยแหละ พอดีมีงานให้ช่วยว่ะ’ เมื่อเพื่อนสนิทพูดมาแบบนี้เขาคงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากตอบรับ

“เออ” อีกฝ่ายรู้ว่าโทรมากวนเพื่อนและถ้าคุยยาวกว่านี้มีสิทธิ์เจอหน้าแล้วโดนเตะ เพราะฉะนั้นต้องรีบตัดจบโดยไว

“เปิดประตูต้อนรับผมด้วยนะครับ” ข้ามภพกดตัดสายพลางส่ายศีรษะ กำลังจะเดินไปนั่งที่สวนแต่ได้ยินออดดังขึ้นเสียก่อน คิดในใจว่าใครมาเช้าขนาดนี้แต่ก็เดินไปเปิดอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อรั้วสีขาวเลื่อนออกก็ต้องถอนหายใจเสียงดัง

เป็นเพื่อนสนิทที่เพิ่งโทรมาเมื่อสักครู่นี่เอง ปิยะ ศตาศรณ์...

“เป็นไง กูมาเร็วไหม” คนตัวสูงหุ่นผอมส่งยิ้มให้หนุ่มหน้าหล่อ ก่อนจะเข้าข้างในบ้านโดยถือถุงอาหารมาด้วย

“มึงกวนกูเหรอ ไหนบอกว่าจะมาสาย” เจ้าของบ้านปิดรั้วแล้วเดินตามเข้าไปข้างใน ซึ่งปิยะทำทุกอย่างราวกับเป็นบ้านของตัวเอง นำถุงอาหารวางไว้บนโต๊ะกับข้าวแล้วเข้าครัวยกหม้อต้มชาบูออกมา จัดแจงทุกอย่างรู้เครื่องใช้ครัวทุกมุมจนคนมองเริ่มขมวดคิ้ว

“ฟังนะเพื่อนข้าม ตอนนี้กูเป็นคนตรงต่อเวลามาก นัดมึงสายกูมาเช้า อาหารทุกอย่างพร้อมขึ้นโต๊ะเหมาะกับการเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน เชื่อฟังเมียทุกสิ่งอย่าง” ช่างภาพชื่อดังกอดอกฟังเพื่อนสาธยายความดีความชอบของตนเองแล้วก็ต้องส่ายศีรษะ

“เพราะฉะนั้นให้น้องมึงแต่งงานกับกูเถอะนะ การขัดขวางความรักของคนอื่นมันเป็นเรื่องบาปนะเว้ย” ตอนนี้ปิยะกำลังคบหาดูใจกับนารีรัตน์น้องสาวของเขา ไม่รู้ว่าน้องไปหลงเสน่ห์มันตรงไหน เพราะนอกจากนิสัยกวนประสาทแล้วยังหาอะไรดีไม่เจอเลย

“ไม่ต้องมาโทษกู ขิงไม่อยากแต่งเอง” ช่วงนี้นารีรัตน์กำลังสนุกกับงานของตนเอง เป็นเจ้าของธุรกิจครีมที่ส่งออกในภูมิภาคเอเชียและกำลังไปตีตลาดยุโรป หุ้นกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ รีโนเวทบ้านใหม่ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง

“ที่ขิงไม่อยากแต่งเพราะกูไม่ค่อยมีเวลาให้ และการที่กูไม่มีเวลาให้ขิงก็เพราะว่ากูยุ่งมาก ที่กูยุ่งมากก็คืองานเยอะจนหาเวลาพักไม่ได้ เพราะฉะนั้นมึงต้องช่วยกูนะ” อาหารเช้าที่วางตรงหน้าคือชาบูร้านดัง เล่นเอากาแฟที่จิบไปได้ครึ่งแก้วเป็นหมัน

ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้ไม่ได้ตอบอะไร ปิยะที่ลุ้นก็เริ่มคิดหนักแล้วไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะช่วยหรือไม่ ทั้งที่ฝีมือการถ่ายภาพของเพื่อนสนิทอยู่ในขั้นยอดเยี่ยมแต่เหมือนข้ามภพจะไม่อยากทำงานในวงการบันเทิงสักเท่าไหร่ ซึ่งงานที่ปิยะทำส่วนมากก็เป็นการถ่ายโฆษณาให้ลูกค้า กำกับภาพยนตร์ และมันคืองานในวงการบันเทิงที่ได้เงินดี

“ไม่สงสารเพื่อนก็ถือว่าสงสารน้องมึงเถอะนะ เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะเว้ย เฮ้อ คิดถึงขิงจะแย่” นั่งลงตรงข้ามพลางถอนหายใจ ขณะที่ข้ามภพเทน้ำซุปลงหม้อรอจนน้ำเดือดค่อยเอาเนื้อลงลวกอย่างใจเย็น ต่างจากอีกคนที่ร้อนใจจนนั่งแทบไม่ติด

พวกเขาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันคณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ สนิทตั้งแต่วันรับน้องจนกลายเป็นติดต่อมาเรื่อยจนจะอายุสามสิบ พร้อมกับเพื่อนอีกคนของกลุ่มอย่างพิชนะ อลงกฤตที่ตอนนี้สานต่อธุรกิจของครอบครัว

ตอนที่จบใหม่ก็ทำงานในวงการด้วยกันเพื่อลองฝีมือ แต่เป็นข้ามภพที่ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ พอเริ่มมีเงินเก็บก็ออกมาถ่ายภาพทำโฟโต้บุ๊ค ได้รับการตีพิมพ์กว่าสิบสองครั้ง และเมื่อออกเล่มใหม่ก็มีคนซื้อตลอดจนกลายเป็นช่างภาพที่มีแฟนคลับราวกับดารา

ฝีมือของเขาไม่เคยเป็นที่กังขาเพราะนอกจากจะถ่ายภาพสวยแล้วยังมีรางวัลการันตีอีกมากมาย จากต่างประเทศและในประเทศ มีหลายคนติดต่อมาให้ไปร่วมงานแต่ชายหนุ่มไม่ชอบอยู่ภายใต้การบังคับของใคร จึงตัดสินใจรับงานตามความน่าสนใจ

และส่วนมากคือการออกไปผจญภัยในโลกกว้าง

“ไอ้ข้ามอย่าเงียบสิวะ” ไม่เห็นปฏิกิริยาตอบรับจึงพูดขึ้นพลางสังเกตใบหน้าคมไปด้วย

“เนื้ออร่อยดี ซื้อจากไหน” เงยหน้ามองคนตรงข้ามก่อนก้มลงกินอย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่ใช่สิวะ กูหมายถึงเรื่องที่ให้มึงช่วยงานน่ะ มึงตกลงไหม เป็นงานถ่ายภาพนิตยสารHigh-end หนังสือแถวหน้าของเมืองไทยเลยนะเว้ย เขาบอกถ้าได้มึงมาร่วมงานจะให้มึงถ่ายภาพตามความต้องการเลย จะเสกป่าเสกเขาเสกทะเลในฉากก็ได้หมด ไม่มีปัญหา” ร่ายยาวพลางยิ้มปิดท้าย

“กูอยากทำอะไรก็ได้ใช่ไหม ไม่มีการมาแทรกแซงความคิดเห็นกูนะ” ผู้กำกับชื่อดังเริ่มกลืนน้ำลายไม่ลงแล้ว กลัวว่าข้ามภพจะบ้าจี้สั่งให้เซตฉากทะเลจริง

“เออ แต่ฉากกูขออยู่ในขอบเขตหน่อยนะมึง อย่าเล่นใหญ่” หนุ่มหล่อยกยิ้มมุมปากไม่พูดอะไร กินชาบูเงียบๆ ต่างจากปิยะที่เริ่มร้อนรน

“ตกลง กูจะทำงานนี้” ดวงตาคมฉายแววมุ่งมั่นจนเพื่อนเริ่มหวั่นใจ เป็นการหวนคืนวงการบันเทิงอีกครั้งของช่างภาพมือทอง เชื่อว่ารูปที่ได้ออกมาจะต้องดีแน่

การเจรจาครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี และคงมีอีกหลายงานมาให้ข้ามภพช่วยเหลือ

“ดาดาไปทำงานก่อนนะ” ย่อตัวลงมาหาเด็กน้อยที่กำลังนั่งเล่นบนพื้นพรมตรงห้องรับแขกที่แปรสภาพเป็นห้องนั่งเล่น หล่อนไม่เคยเชิญเพื่อนหรือคนรู้จักมาห้องสักครั้ง แน่นอนว่าเรื่องของน้องลัดฟ้าก็ยังเป็นความลับ ไม่มีใครรู้ว่าดาราสาวมีลูกน้อย

พวกเขาไม่ค่อยได้ออกไปไหนด้วยกัน หรือหากไปก็เป็นห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน มีคนไม่ค่อยเยอะกลัวจะเป็นข่าว หล่อนมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง และมีกลุ่มที่จิ้นให้รักกับพระเอกคู่ขวัญอย่างนิรวิทย์ แสงชัยศรี ซึ่งเล่นละครเรื่องรักสุดท้ายคือเธอด้วยกันจนดังเป็นพลุแตก

“รักดาดา บ๊ายบาย” ปากเล็กจุ๊บแก้มสองข้างของมารดา พลางยิ้มให้จนเห็นฟันซี่เล็ก หล่อนพยักหน้ารับแล้วหอมแก้มลูกสาวบ้าง

“ดาดารักน้องฟ้านะ” มองใบหน้ากลมก็รักใคร่เอ็นดูยิ่งนัก อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แบเบาะจนจะเข้าเนอสเซอรี่ ลูกคือคนที่ทำให้เธอมีความฝันอยากโด่งดังมากกว่านี้ อยากมีบ้านสักหลังไว้ให้เด็กน้อยวิ่งเล่น ได้บอกคนทั่วไปว่าเด็กคนนี้คือลูกของเธออย่างเต็มภาคภูมิ

รออีกหน่อยนะลูก แล้วแม่จะบอกทุกคนว่ามีลูกสาวแสนน่ารัก...

“หนูก็รักดาดา รักมากที่สุดในโลกเลย รักมากที่สุดนอกโลกด้วย” เอ็นดูจนต้องยีศีรษะเล็ก แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงไปยังโต๊ะอาหารที่วางแซนวิชพร้อมน้ำผลไม้ปั่นเอาไว้

“กินก่อนไปไหม หรือว่าต้องรีบไปทำงาน” น้าประนอมที่กำลังทำอาหารเช้าให้ลัดฟ้าหันมาถาม หล่อนมองนาฬิกาแล้วคำนวณเวลาคิดว่าถ้านั่งกินอยู่ห้องคงไม่ทันแน่

“เดี๋ยวดาวเอาไปกินบนรถก็ได้น้านอม” เดินไปหยิบกล่องทัพเพอร์แวร์แล้วนำแซนวิชใส่ลงไปอย่างเป็นระเบียบ ใส่ทั้งน้ำและอาหารลงไปในถุงผ้าค่อยยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ทั้งสอง พร้อมทั้งโบกมือให้ลูกสาวที่นั่งเล่นตุ๊กตาอย่างมีความสุข ไหนจะดูการ์ตูนบนจอกว้างแล้วร้องเพลงตามเสียงดังอีก

อยากให้ถึงวันหยุดเร็วๆ จะได้อยู่ห้องเล่นกับบุตรสาวสักที ไม่ใช่ออกไปทำงานทุกวันจนแทบไม่ได้พักผ่อน

“ค่ะพี่แก้ว ดาวกำลังไปกองนะคะ” ระหว่างเดินไปลานจอดรถก็โทรคอนเฟิร์มกับบก.นิตยสารอีกครั้ง หล่อนรู้จักกับทีมบรรณาธิการของนิตยสารหลายเล่ม อาจเพราะตอนยังไม่โด่งดังต้องวิ่งหางานเอง หรือบางครั้งก็ไปถ่ายเล่มที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ ได้เงินมาก็เก็บเอาไว้หวังว่าสักวันจะซื้อบ้านอยู่กับแม่ ไม่ต้องทนให้แม่ใหญ่โขกสับ

และฝันก็เป็นจริง ได้ออกจากบ้านหลังนั้นสักที แต่ตัดสินใจซื้อคอนโดแทนเนื่องจากอยู่ใจกลางเมือง ง่ายต่อการเดินทางไปทำงาน ทั้งยังหาบ้านที่ถูกใจในงบจำกัดไม่ได้ คงต้องเก็บเงินไปก่อนถึงซื้อบ้านสำหรับครอบครัวที่มีกันสี่คน

ส่วนความรักก็ต้องพักอีกยาว หล่อนไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาจะรับได้ไหมหากมีลูกติด และจะรักลัดฟ้าด้วยใจจริงหรือเปล่า เพราะสำหรับเธอลูกต้องมาเป็นอันดับแรก

ถ้าเข้ากับลูกไม่ได้ ก็ตัดทิ้งทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel