บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

“อาจารย์จะมาล้วงไข่ผมแบบนี้มันไม่ได้นะ!!” น้ำค้างพูดขึ้นมาเสียงดังเพื่อให้นักเรียนที่กำลังเดินเข้าโรงเรียนหันมาสนใจ เผื่ออาจารย์เมฆจะอาย นักเรียนหลายคนก็มองมา แต่ก็หันกลับไปแบบไม่สนใจ

“ยาม จารย์ล้วงไข่ผม! ช่วยผมด้วย!” เมื่อเห็นว่านักเรียนด้วยกันไม่สนใจ น้ำค้างจึงขอความช่วยเหลือจากยามแทน

“ไข่ก็เล็กแค่นั้น ให้อาจารย์เขาจับๆไปเถอะ” นี่คือคำพูดของยามที่เป็นความหวังสุดท้ายของน้ำค้าง

(ไม่ช่วยกูแล้วยังพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจอีก) น้ำค้างคิดในใจ

เมื่อไม่มีใครช่วย น้ำค้างก็คงต้องช่วยเหลือตัวเอง น้ำค้างโยนหนังสือและกระเป๋าที่ถือลงพื้น ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือของอาจารย์เมฆเอาไว้ และพยายามที่จะดึงออก แล้วมีเหรอที่อาจารย์เมฆจะยอม ทั้งสองจึงฉุดกระชากลากถูกันอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใครเข้ามาห้าม

แต่สักพักสายตาของน้ำค้างก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงมาทางนี้ คนนี้มีออร่าเปล่งปลั่งที่ สามารถช่วยเขาได้

“ผอ.ครับ อาจารย์เมฆล้วงไข่ผมครับ!!!”

หลังจากที่น้ำค้างได้ตะโกนประโยคนั้นออกไป ทุกอย่างก็หยุดชะงักลง อาจารย์เมฆเงยหน้าขึ้นมองน้ำค้าง ก่อนจะมองตามสายตาของน้ำค้างไป ซึ่งมันก็หยุดที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาแห่งนี้ ที่กำลังย่างเท้าเดินก้าวมายังจุดที่พวกเขายืนกันอยู่

“สวัสดีครับผอ.” อาจารย์เมฆหมุนตัวพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

“นี่กำลังทำอะไรกันอยู่” ผอ.ถามเสียงนิ่ง พลางมองน้ำค้างกับอาจารย์เมฆสลับไปมา

“อ๋อ อาจารย์เมฆล้วงไข่ผมครับผอ.” เป็นน้ำค้างที่ตอบออกมา

เพี้ยะ!

อาจารย์เมฆหันขวับแล้วใช้ไม้เรียวฟาดไปที่ก้นของน้ำค้างเพื่อให้หยุดพูด ผอ.ยืนมองการกระทำของทั้งสองนิ่งๆ โดยยังไม่ปริปากพูดอะไร

“แล้วอาจารย์เมฆก็ตีผมด้วยครับ นี่ไงผอ.ก็เห็นจะๆ นี่ผมไม่ได้ขี้ฟ้องนะครับ แค่อยากให้ผอ.รู้เฉยๆ ว่าผมโดนอาจารย์เมฆกระทำเยี่ยงไรบ้าง” น้ำค้างยังคงพูดออกมาต่อ อาจารย์เมฆล่ะอยากเอาขี้หมาแถวนี้อุดปากน้ำค้างซะจริงๆ

“ไปเข้าแถวได้แล้วไปน้ำค้าง” ผอ.บอกเสียงนิ่ง ที่ผอ.ดูเรียกน้ำค้างแบบสนิทสนมนั้น ก็เพราะว่าน้ำค้างเข้าห้องปกครองเป็นว่าเล่น จนแทบจะสนิทกับอาจารย์ทุกฝ่ายรวมถึงรองและผอ.ด้วย เอาง่ายๆ คือสนิทกับทุกคนในโรงเรียน แต่ถ้าถามว่าคนอื่นอยากจะสนิทกับน้ำค้างมั้ย ทุกคนก็จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่

ถ้าไม่อยากไมเกรนขึ้นหรือหัวใจวายตายก็อย่ามาสนิทกับน้ำค้างเลยเถอะ

“ขอรับ” น้ำค้างก้มหัวรับคำ แล้วก้มลงเก็บกระเป๋าและหนังสือที่โยนลงพื้นขึ้นมา ก่อนจะเดินจากไปโดยมีสายตาของอาจารย์เมฆมองตามอย่างคาดโทษ

“ไปคุยกับฉันหน่อยนะอาจารย์เมฆ” ผอ.พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“หาเรื่องให้กูอีกแล้วไง” อาจารย์เมฆพึมพำเบาๆ กับตัวเอง

“อะไรนะ” ผอ.ถามเมื่อได้ยินไม่ชัด

“อ๋อ ผมบอกว่าไปกันเถอะครับ” อาจารย์เมฆสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะพูดออกไปอย่างรวดเร็ว

ทางด้านฝั่งของน้ำค้างเองตอนนี้เขาก็กำลังเดินไปที่หลังโรงเรียนตรงที่นั่งประจำที่เขาและเพื่อนๆ ชอบมานั่งสุมหัวเล่นปั่นแปะกัน เขาไม่ค่อยชอบเข้าแถวเท่าไหร่ เพราะแดดของประเทศไทยที่หลายคนคงรู้ฤทธิ์กันดี ไม่ไหม้ก็เกรียมมีอยู่สองอย่างนี้

น้ำค้างนั่งลงบนพื้นหญ้าใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศเย็นสบายและสงบแบบนี้มันน่าอ่านหนังสือมากๆ สำหรับเขา

คิดได้ดังนั้นน้ำค้างจึงเปิดกระเป๋าจาคอปแบนเรียบเหมือนโดนสิบล้อทับออกมาเปิด ก่อนจะหยิบหนังสือออกมาอ่าน

“แจ่มจริงๆ” น้ำค้างมองรูปหน้าปกหนังสือก่อนจะพูดออกมา แต่มันจะน่าภูมิใจมากถ้าหากภาพบนหน้าปกหนังสือที่เขาต้องการอ่านนั้นมันไม่ได้เป็นภาพเปลือยเปล่าของหญิง

คนอย่างน้ำค้างไม่มีวันหยิบหนังสือเรียนมาเปิดอ่านแน่นอน ไม่บอกก็รู้ว่าตอนนี้น้ำค้างกำลังอ่านหนังสืออะไร

“อะไรเอ่ยโลกสวยด้วยมือเรา” หลายคนอาจจะคิดว่าน้ำค้างบ้า ซึ่งมันก็บ้าจริงๆ นั่นแหละ คงไม่มีใครมานั่งพูดคนเดียวแบบน้ำค้างหรอก

เมื่อยลโฉมภาพหน้าปกจนพอใจน้ำค้างก็เปิดอ่านทันที

อาการชักกระตุกคงจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel