บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

เวลาผ่านไป

ตุบ!

กระเป๋าจาคอปที่แบนเหมือนสิบล้อทับอีกอัน ลอยละลิ่วผ่านกำแพงโรงเรียน แล้วตกลงบนพื้นหญ้าตรงหน้าน้ำค้าง ก่อนที่เจ้าของมันจะปีนกำแพงข้ามตามมา

น้ำค้างเงยหน้ามองผู้มาใหม่ มันช่างขัดขวางความฟินของเขาให้หยุดกลางคันซะจริงๆ

“ไอ้ค้างมึงไม่เข้าเรียนเหรอวะ” ชินทักน้ำค้างขึ้นพลางก้มหยิบกระเป๋าของตนเองขึ้นมา

“ถ้ากูเข้าเรียนแล้วกูจะมานั่งหัวโด่อยู่แบบนี้มั้ย” น้ำค้างพูดออกไปอย่างกวนๆ พร้อมกับยักคิ้วข้างหนึ่ง

“กูว่าไม่ใช่หัวมึงหรอกที่โด่ น่าจะเป็น...อวัยวะเพศสืบพันธ์มึงมากกว่า” ชินมองไปที่เป้ากางเกงนักเรียนของน้ำค้างที่กำลังตุงนูนออกมา น้ำค้างเองก็รู้ตัวดี ทำไงได้ก็คนมันค้าง

“มึงไม่ต้องพูดให้เกรียติอะไรกูขนาดนั้นก็ได้” น้ำค้างไม่เข้าใจว่าอะไรดลใจให้ชินเรียกจุดๆๆ ว่าแบบนั้น

“แม่กูสอนมาดีเว้ย เป็นเด็กเป็นเล็กต้องพูดเพราะๆ” นี่แหละคือนิสัยที่เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย

“แล้วนี่มึงจะเข้าเรียนป่ะ” ชินถามต่อ น้ำค้างก้มมองเป้ากางเกงตนเองก่อนจะเงยหน้าสบตาเพื่อน

“กูจะไปห้องน้ำ ไปทำให้โลกสวยด้วยมือเรา” ชินพยักหน้าอย่างรับรู้ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันแยกย้ายไปตามทางเดินของชีวิตตนเอง (?)

-ในห้องเรียน-

“วันนี้ไปกินข้าวขาหมากัน” ริวพูดชวนขึ้นหลังจากที่อาจารย์เดินออกจากห้องไป

“มึงพูดซะกูไม่อยากจะไปแดกกับมึงเลย” ชินพูดขึ้นมา

“แล้วจะไปมั้ย ถ้าไม่ไปมึงกับกูขาดกัน!!” สิ่งที่ริวพูดมันไม่เคยมีอะไรจริงจัง ถ้าหากเขาตัดเพื่อนกับชินและน้ำค้างไป ก็คงไม่มีใครอยากจะคบกับเขาอีกหรอก เหี้ยมันก็ต้องอยู่กับเหี้ยถึงจะถูก

“เออๆ ไปก็ไป น้ำค้างมึงจะไปมั้ย” ชินตอบรับเหมือนไม่เต็มใจ พร้อมกับหันไปถามน้ำค้างที่นอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะตั้งแต่เริ่มเรียนยันจบคาบ

“ไปๆ ไปเลยไป ชิ่วๆ” เสียงยานครางดังออกมาจากคนที่นอนอยู่ ริวกับชินหันมามองหน้ากัน

“มันละเมอหรือเปล่าวะ” ริวถาม

“ไม่ละเมอมั้งไอ้เหี้ย นอนน้ำลายยืดไม่รู้เรื่องซะขนาดนี้” ชินตอบพร้อมกับจับหัวน้ำค้างให้เงยหน้าขึ้นมาทางเขา

“อะไรๆ เป็นอาราย แจ่บๆ” น้ำค้างยังคงละเมอออกมา บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขานั้นหลับลึกจริงๆ

“ยังๆ มึงยังไม่หยุดอีก”

ร้านข้าวขาหมู

หลังจากที่เลิกเรียนแล้ว กลุ่มของน้ำค้างก็พากันเดินมาที่ร้านข้าวขาหมูที่ตั้งอยู่ซอยด้านข้างโรงเรียน

เมื่อเข้ามาในร้านพวกเขาก็พากันเดินเข้าไปนั่งที่ประจำ

“เจ้ยๆ สั่งข้าวขาหมาหน่อย” ริวเรียกหญิงสาวลูกเจ้าของร้านที่อยู่โรงเรียนเดียวกับพวกเขา และชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง เธอหันหน้ามามองทางริวตาขวาง

“กูชื่อแจนไม่ได้ชื่อเจ้ย แล้วร้านกูก็ขายขาวขาหมูไม่ใช่ข้าวขาหมา” แจนบอกกับริวเสียงดังฟังชัด เธอรู้สึกเบื่อขี้หน้าริวมากๆ เวลาแม่งมาทีไรก็เอาแต่กวนตีนเธอแบบนี้ ถ้าไม่ได้กวนเหมือนจะแดกข้าวไม่อร่อยยังไงยังงั้น

“อ้าวเหรอวะ แล้วถ้ากูอยากกินข้าวขาหมาอ่ะมึงทำให้กูหน่อยได้ป่ะ” ริวยังคงพูดจากวนๆ ขณะที่น้ำค้างและชินได้แต่มองทั้งสองอย่างลุ้นระทึก ว่าวันนี้สงครามจะเกิดขึ้นหรือไม่ พวกเขาจะได้หลบทัน

“แดกข้าวคลุกส้นตีนกูก่อนมั้ยล่ะ!” เหมือนแจนจะเริ่มหัวร้อนขึ้นมา หรือเอาจริงๆ เธอน่าจะหัวร้อนตั้งแต่ที่กลุ่มน้ำค้างย่างเท้าก้าวเข้ามาในร้านแล้ว

“เจ้ย เอ้ย! แจนใจเย็นๆ ลูก” พ่อของแจนที่เห็นว่าลูกตนเองเริ่มอารมณ์ไม่ดีก็พูดปรามออกมา

“พ่อไม่เห็นมันกวนตีนหนูหรือไง” แจนพูดกับพ่อตนเองอย่างหงุดหงิด

“เดี๋ยวพ่อจัดการเอง ไปทำการบ้านไปลูก” พ่อของแจนยังไม่อยากจะให้ร้านตนเองมาพังในวันนี้ จึงให้ลูกตนเองอยู่ห่างๆ พวกนี้เข้าไว้

“มึงโดนแน่” แจนยกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะขณะเดินผ่านริว

พ่อของแจนเองก็เดินมาที่โต๊ะของน้ำค้างด้วยสีหน้าเรียบเฉย แจนจึงหลบมุมแอบดูอยู่ข้างประตู ยิ่งพ่อของแจนเดินเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งเสียวสันหลังวาบ จากนั้นพ่อของแจนก็ได้ทำอะไรที่คาดไม่ถึงขึ้นมา

“รับอะไรดีครับ” ใบหน้าเรียบเฉยแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่ง

“พ่อ!!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel