แรดๆ แบบนี้...รักจริงนะครับ

62.0K · จบแล้ว
JAMBENZ
48
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"พี่ครับๆ ผมขอเบิร์น เอ้ย!! ขอเบอร์หน่อยสิครับ" ประโยคที่หลุดปากไป ทำให้เขาได้สามีกลับมา เรน ............................................................................................................ "น้องนี่ทำตัวน่าถีบจังเลยนะ" น้ำค้าง "ถึงผมจะน่าถีบ แต่ถ้าได้จีบแล้วจะติดใจนะครับพี่" ............................................................................................................ น้ำค้าง "เขาว่ากันว่ากินเด็กแล้วเป็นอมตะ พี่ไม่อยากกินผมบ้างเหรอ จะได้เป็นอมตะไง" เรน "พอเห็นน้องแล้ว พี่อยากจะตายมากกว่า" ............................................................................................................ น้ำค้าง "เห็นหน้าพี่แล้ว ลูกในท้องผมนี่ดิ้นเลยครับ" เรน "พี่ว่าน้องคงจะเข้าใจผิด นั่นมันพยาธิต่างหากที่ดิ้นอยู่" ............................................................................................................

นิยายรักโรแมนติกนิยายYaoiนิยายปัจจุบันตลกหมอรักหวานๆดราม่าโรงแรม/มหาลัยพระเอกเก่ง

ตอนที่ 1

น้ำค้าง

นายเอก: ชื่อเล่นน้ำค้าง เป็นผู้ชายเฮฮาบ้าบอ ร่าเริง

เล่นไม่รู้เวล่ำเวลา ปากหมากวนตีน เหี้ย แต่ยังไงก็รักใครรักจริงไม่ติงนัง

“ถึงปากผมจะไม่แดง แต่ก็ไซร้คอแรงนะพี่”

เรน

พระเอก: ชื่อเล่นเรน เป็นผู้ชายที่สุขุม มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่

ดูเป็นคนนิ่งๆแต่ก็ไม่ได้เย็นชา ตอนนี้กำลังเรียนแพทย์ อนาคตได้เป็นหมอแน่ๆ ใครอยากโดนฉีดยาก็ติดต่อได้ (?)

“ขอยาพาราสักกระปุกหน่อยสิ”

“ป้าครับๆ ขอกระเพรารวมมิตร ไม่ใส่หมู ไม่ใส่กุ้ง ไม่ใส่กระเพรา ไม่ใส่อะไรเลย แล้วก็ไม่แดกแล้วครับ ป่ะ! พวกมึงไปกินเตี๋ยวไก่เล็บขบกันดีกว่า ร้านนี้ไม่อร่อย” น้ำค้างเด็กหนุ่มวัยรุ่น ที่อยู่ในชุดนักเรียนม.ปลาย ชายเสื้อหลุดลุ่ยออกนอกกางเกงสีน้ำเงิน กำลังสั่งอาหารตามสั่งเสียงดังเจื้อยแจ้ว ก่อนที่เจ้าของเสียงจะกวนตีนเล็กน้อยเพื่อเรียกความสนใจจากเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง

ปั้ง!

เจ้าของร้านหันมามองที่เด็กหนุ่มตาขวางพลางหยิบมีดอีโต้สับหมูมาสับบนเขียงเสียงดัง จนพวกเพื่อนๆของเด็กหนุ่มพากันสะดุ้งโหยง แต่ก็ยกเว้นแค่เขาเอง เพราะดูเหมือนน้ำค้างจะชินกับเหตุการณ์นี้มานานแล้ว น้ำค้างยังคงยืนอยู่ที่เดิม ส่วนเพื่อนๆของเขานั้นถอยทัพกลับไปยืนอยู่หน้าร้าน ซึ่งก็พอพ้นรัศมีที่มีดอีโต้จะบินมาเฉาะกระบาล

“โหยป้า แค่เล่นแค่นี้ทำไมต้องทำให้พวกผมตกใจด้วย คนยิ่งเป็นโรคกระเพาะอยู่ เดี๋ยวกระเพาะวายตายจะทำยังไง” น้ำค้างจับไปที่ท้องของตัวเองเพื่อปลอบประโลมกระเพาะของเขา ซึ่งความจริงเขาควรจะจับที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเองมากกว่า

“ไอ้ค้าง มึงจะแดกอะไรมึงก็บอกมาดีๆ เดี๋ยวกูก็ฟ้องพ่อมึงซะเลย” ป้านิ่ม หรือเจ้าของร้านอาหารตามสั่งแห่งนี้ใช้มีดชีหน้าเด็กหนุ่มเรียงตัว

“กลัวจังเลย อุ้ย! ตื่นเต้นๆ” น้ำค้างใช้มือกอดตัวเองเอาไว้ แล้วส่ายตัวไปมา ที่เขาไม่กลัวป้านิ่มก็เพราะเธอคนนี้คือแม่เลี้ยงของเขาเองแหละ ป้านิ่มเป็นคนที่จิตใจดีงดงามดั่งสายน้ำที่ร้อนระอุ(?) ป้านิ่มเป็นคนที่เลี้ยงน้ำค้างมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้เธอจะไม่ใช่แม่แท้ๆของเด็กหนุ่มแต่เธอก็เลี้ยงน้ำค้างมาอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากพ่อของเขา ที่ไม่ค่อยสนใจดูแลน้ำค้างสักเท่าไหร่ บางทีน้ำค้างก็คิด ว่าไม่รู้จะสงสารพ่อที่ถูกแม่ทิ้งไป หรือจะสงสารป้านิ่มที่มีหน้าที่ส่งควายอย่างน้ำค้างไปเรียนดี แต่เห็นกวนๆสร้างแต่เรื่องแบบนี้ น้ำค้างก็รักป้านิ่มเหมือนแม่แท้ๆเลยนะ

“ไอ้ค้าง!!” ป้านิ่มตะโกนเรียกน้ำค้างเสียงดัง จนลูกค้าภายในร้านพากันสะดุ้งโหยงจนแทบจะพากันยกโต๊ะยกเก้าอี้ไปนั่งกินนอกร้าน เพราะกลัวจะโดนลูกหลง

“พวกมึง ยักษ์จะอาระวาดแล้วว่ะ ทำตัวกันดีๆหน่อยสิวะ” น้ำค้างพูดออกมา ก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนที่อยู่ข้างหลัง

“เหี้ย ไปทำอะไรกันตรงนั้น มานี่” น้ำค้างอุทานออกมาเมื่อไม่เห็นเพื่อน ก่อนที่สายตาจะพลันเหลือบไปเห็นว่าเพื่อนของตนกำลังนั่งหลบอยู่ข้างถังขยะ เขาจึงกวักมือเรียกให้เพื่อนเข้ามาในร้าน เมื่อเพื่อนๆของเด็กหนุ่มเห็นว่าสงครามสงบลงจึงได้พากันออกมาจากเกาะกำบังอันมีกลิ่นเฉพาะตัว

“มองหน้าอ่ะ อยากมีเรื่องหรืออยากมีลูกครับพี่สาว” น้ำค้างพูดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามีกลุ่มนักศึกษานุ่งสั้นที่นั่งอยู่ในร้านกำลังมองมาที่พวกเขา

“ไอ้ค้าง!!” ถึงแม้ว่าป้านิ่มจะมัวแต่ทำอาหารให้ลูกค้าอยู่แต่เธอก็คอยปรามน้ำค้างตลอด เด็กหนุ่มจึงรีบพาเพื่อนๆไปนั่งที่โต๊ะกันอย่างรวดเร็ว ถ้าเล่นมากมันก็อาจจะไม่ปลอดภัย เพราะน้ำค้างเองก็ยังไม่ได้ทำประกันชีวิตเอาไว้

เด็กหนุ่มและเพื่อนๆสั่งอาหารที่จะทานกับป้านิ่ม ขณะที่ก็พากันช่วยเสิร์ฟ และทำอะไรเล็กๆน้อยที่พอจะทำได้ไปด้วย เพราะอาหารมื้อนี้ยังไงพวกเขาก็ได้กินฟรีกันอยู่แล้ว พากันมากินทุกวันจนร้านแทบจะเจ๊งอยู่แล้ว เมื่อได้อาหารที่ตัวเองสั่งกันไป พวกเขาก็กลับมานั่งที่เดิม และเริ่มลงมือทาน

เพล้ง!

เสียงช้อนหล่นกระทบกับจานข้าวดังขึ้นด้วยฝีมือของน้ำค้างทำให้เพื่อนที่อยู่รอบกายหันมามอง

“เป็นไรวะน้ำเน่า” ริว เพื่อนสนิทของน้ำค้างถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหนุ่ม ที่ตอนนี้ไม่ได้สนใจคนรอบข้างแล้ว สายตาของน้ำค้างกำลังจดจ้องไปที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูแข็งแกร่ง และดูสุขุมที่กำลังจะเดินข้ามถนนเพื่อตรงมายังร้านอาหารตามสั่งแห่งนี้ น้ำค้างอ้าปากหว๋อ ดวงตาก็เบิกกว้าง

“พี่เรน” น้ำค้างพึมพำออกมาคนเดียวเสียงแผ่ว เมื่อเขามั่นใจแล้วว่าคนๆนั้นคือใคร ชายหนุ่มที่น้ำค้างหมายถึงกำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

พรึบ!

“มึงลงไปทำอะไรเนี่ยน้ำค้าง” ชิน เพื่อนสนิทอีกคนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของน้ำค้าง ที่กำลังมุดอยู่ใต้โต๊ะที่พวกเขากำลังนั่งทานข้าวกันอยู่

“อย่าพึ่งถาม พวกมึงช่วยเอาขาบังกูไว้หน่อย” น้ำค้างพูดออกมาด้วยเสียงที่ลุกลน ขณะที่กำลังนั่งย่องๆหลบอยู่ใต้โต๊ะ

ปึ่ก!

“โอ๊ย! ไอ้เหี้ยชิน กูบอกให้เอาขาบังตัวกูไว้ ไม่ใช่ให้มึงเอาเข่ามากระแทกปากกู” น้ำค้างโวยออกมาเมื่อถูกเข่าของชินกระแทกเข้าที่ปาก มือบางนั้นก็เอื้อมขึ้นมาลูบปากของตัวเองเบาๆไปด้วย

“กูกลัวมันจะบังไม่มิด” ชินพูดออกมาอย่างขำๆ ความจริงเขาแค่อยากน้ำค้างเฉยๆ แต่มันดันกะน้ำหนักแรงไปหน่อย

“พอเถอะ เอาแบบพอดีๆ ขืนมึงทำซะขนาดนี้ อีกหน่อยหัวกูคงแตกกันพอดี” น้ำค้างบนอุบ ขณะใช้มือจับขาของเพื่อนมาบังตัวเองที่นั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะเอาไว้ หลังจากนั้นน้ำค้างก็หันไปสนใจผู้ชายคนนั้นต่อ

“สวัสดีครับป้านิ่ม” เรนยกมือขึ้นไหว้ป้านิ่มเจ้าของร้านอาหารตามสั่งแห่งนี้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ