ตอนที่ : 6 เริ่มแล้ว 2
“คุณรัญญ์มีอะไรให้ป้าทำหรือเปล่าคะ”
“ผมพาคนงานใหม่มาแนะนำตัวครับป้าบุ๋ม เอาไว้ให้ป้าบุ๋มเรียกใช้งานครับ”
“คนงานใหม่ใครคะ”
เป็นคำถามที่ทำให้นาราภัทรต้องไหวตัวแล้วหันไปมองบริเวณรอบ ๆ แต่ก็ไม่มีใครยืนอยู่ตรงนี้เลยนอกจากเจ้าของสวนแล้วก็ตัวเธอ ครั้นหันหน้าไปมองสบสายตากับเขาเข้า
“หมายความว่ายังไงคะพี่รัญญ์”
“ก็งานที่นาราจะต้องทำไง เป็นลูกจ้างพี่ตามข้อตกลง”
“ค่ะนารารู้แต่งานที่ว่าต้องไม่ใช่แบบนี้สิ”
“นาราจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ พี่พร้อมจะกลับไปบอกให้บริษัทฟ้องร้องต่อได้ นี่แค่ตกลงกันปากเปล่าเฉย ๆ นะ ยังไม่ได้ทำเป็นเอกสารเลย” เขาท้าอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า
นาราภัทรกัดปากตัวเองจนเจ็บ นี่หรืองานที่เขาอยากให้เธอมาทำ เป็นคนงานในสวนแห่งนี้ หญิงสาวหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างขัดใจ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธออกมาได้เหมือนกัน หรัญญ์ยิ้มเยาะตรงมุมปากอย่างสะใจ
“อย่าบอกนะคะว่าคุณคนนี้จะมาเป็นคนงานใหม่ของเรา” เสียงของป้าบุ๋มถามขึ้นอย่างเกรงใจ
“ใช่ครับป้าบุ๋ม คุณนาราภัทรจะมาเป็นคนงานใหม่ของเราครับ ป้าบุ๋มเรียกใช้งานได้ตามสบายนะครับ ยกกระถางต้นไม้พรวนดินปลูกต้นไม้อะไรที่ป้าบุ๋มทำอยู่ สอนงานให้คุณนาราภัทรทุกอย่างเลยนะครับ”
“เอ่อ คือ จริงเหรอคะ” ป้าบุ๋มยังไม่แน่ใจเพราะคนงานใหม่หน้าหงิกหน้างอเหลือเกินในตอนนี้
“จริงครับป้าบุ๋ม พรุ่งนี้คงได้เริ่มงานจริง ๆ วันนี้ผมแค่พามาแนะนำตัวให้รู้จักเฉย ๆ ครับ ป้าบุ๋มไปทำงานของตัวเองได้แล้วครับ”
“ค่ะคุณรัญญ์” ป้าบุ๋มเดินกลับเข้าไปทำงานของตัวเองต่อ หรัญญ์ถึงได้หันมามองคนด้านข้าง ซึ่งตอนนี้ก็หน้าตาบูดบึ้งจนเขาอยากหัวเราะดัง ๆ ออกมา
“สัญญากันแล้วนะนาราต้องทำให้ได้สิ”
“พี่รัญญ์เกลียดนาราขนาดนี้เลยเหรอคะ แล้วทำแบบนี้มันจะทำให้พี่เกลียดนาราน้อยลงหรือเปล่า”
“ก็ไม่นะ แต่พี่ก็อยากเห็นเธอทุรนทุรายดูบ้าง”
“ฮึ นาราไม่ตายหรือทุรนทุรายกับการทำงานหรอกค่ะ” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นสู้เขาบ้าง ขืนมาทำหน้าเหงาหงอยให้เขาเห็นก็คงเข้าทางเขาพอดี
“พี่จะคอยดูนะ ไปขึ้นรถเดี๋ยวพาไปดูที่อื่นบ้าง”
เขาขับรถพาเธอไปดูบริเวณที่มีการจำหน่ายพันธุ์ต้นไม้กัน ดูวิธีการขนย้ายขึ้นรถและสำนักงานเล็ก ๆ ที่มีไว้สำหรับต้อนรับลูกค้า มีพนักงานอยู่ในสวนแห่งนี้ราว ๆ สิบกว่าคนเห็นจะได้ ซึ่งก็ดูไม่สมดุลกับอาณาเขตที่กว้างขวางสักเท่าไรนัก
“คนงานน้อยจะทำงานทันเหรอคะ” นาราภัทรอดที่จะถามเขาไม่ได้
“ต้นไม้ขายได้เป็นครั้งคราว เราจึงไม่จำเป็นต้องมีคนงานเยอะ เอาไว้แค่ดูแลกับขนย้ายแค่นั้นเอง” เขาบอกระหว่างขับรถดูบริเวณสวนไปเรื่อย ๆ
“แล้วถ้าได้ขายจำนวนเยอะ ๆ ล่ะคะ”
“เราก็จ้างคนขนย้ายเพิ่ม ก็ญาติ ๆ ของคนงานนี่แหละ เขาไปเกณฑ์กันมา เพราะเราจะจ้างเอาไว้ทั้งหมดก็ไม่ไหวไม่ได้มีงานให้ทำทุกวัน พี่เลยจ้างเธอมาช่วยงานป้าบุ๋มอีกแรงไง”
นาราภัทรหัวเราะออกมาเบา ๆ กับเหตุผลไม่จริงของเขา ที่ให้เธอทำงานนั่นเพราะต้องการเอาคืนเรื่องในอดีต เหมือนเด็กกำลังโกรธและอยากลงโทษเธอเท่านั้นเอง หรัญญ์ทำตัวไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
“พี่รัญญ์มาทำงานที่นี่บ่อยไหมคะ”
“พี่อยู่ที่นี่ตลอด”
“ไม่จริงหรอกค่ะ พี่รัญญ์ทำงานที่กรุงเทพฯ นี่คะ มีคอนโดอยู่ที่นั่นด้วย”
“พี่ลาออกแล้ว”
นาราภัทรนิ่วหน้าหลังได้ยิน เขาจะลาออกทันทีที่เธอตอบตกลงมาทำงานให้เขาเลยเหรอ ไม่น่าใช่
“อะไรไม่เชื่อเหรอว่าพี่ลาออกแล้ว พี่ลาออกแล้วจริง ๆ เพราะพี่ได้สิ่งที่พี่อยากได้แล้ว” เขาบอกแล้วหยุดรถตรงลำธารหลังบ้าน เสียงน้ำไหลผ่านทำให้นาราภัทรก้าวขาลงจากรถและเดินตามหลังเขาไป ในใจยังนึกถึงคำพูดก่อนหน้าอยู่ตลอดเวลา
‘สิ่งที่พี่รัญญ์อยากได้คืออะไรหวังว่าคงไม่ใช่...ไม่ใช่หรอก’
เขาคงอยากแค่แก้แค้นเรื่องราวในอดีต ทำไมเรื่องครั้งนั้นถึงได้ฝังใจเขานักนะ
“ลำธารที่นี่เย็นสบายเล่นน้ำได้ ว่าง ๆ ก็มาเล่นดู”
นาราภัทรมองลำธารที่มีสายน้ำไหลผ่านค่อนข้างเชี่ยวเอาเรื่องอยู่ ถ้ามีเวลาว่างจริง ๆ เธอจะไม่พลาดเลยทีเดียว
“พี่ลืมบอกว่าที่บ้านไม่มีแม่บ้านนะ ไปทำกับข้าวให้พี่ด้วย”
“แต่นาราไม่ได้มาทำงานเป็นแม่บ้านพี่รัญญ์นะ”
“เป็นคนงานมันก็รวมงานแม่บ้านไปด้วยนั่นแหละ ไปขึ้นรถเดี๋ยวพาออกไปซื้อของมาทำกิน ลืมแวะขามา” เขาบอกแล้วเดินนำหน้าหญิงสาวไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน
‘จะใช้งานกันเกินคุ้มไปแล้วนะพี่รัญญ์ ชิ่งเลยดีไหมเนี่ย ไม่ ๆ เราต้องรักษาสัญญาสิ’
มีความสับสนเต็มไปหมดในความคิดของตัวเอง นาราภัทรเดินตามหลังเขาไปขึ้นรถอย่างเงียบ ๆ รถแล่นออกจากสวนหรัญญ์ไปอย่างช้า ๆ ก่อนจะเร่งความเร็วเมื่อเข้าสู่ถนนใหญ่ สักพักหนึ่งก็มาถึงห้างสรรพสินค้าที่เน้นสินค้าขายส่งเป็นหลัก
“ซื้อที่นี่แหละของเยอะดี” เขาบอกหลังดับเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว
“นาราหยิบถุงผ้าที่อยู่ในเก๊ะตรงหน้ามาด้วย”
“ถุงผ้า ?” นาราภัทรทำหน้างงเล็กน้อย แต่ก็เปิดเก๊ะใส่ของตรงหน้าออกมา เห็นมีถุงผ้าสีขาวใบใหญ่ ๆ อยู่สองอัน
“เอามาทั้งสองนั่นแหละ”
“เอาไปทำไมคะ”
“นี่เธอไม่เคยเข้าห้างนี้มาก่อนเหรอ”
“ไม่เคยค่ะ แถว ๆ บ้านไม่มีห้างนี้”
“ที่นี่เขาไม่มีถุงพลาสติกให้ลูกค้า ถ้าอยากใส่ถุงก็ต้องหามาเองหรือไม่ก็ซื้อถุงจากเขา ลดโลกร้อนน่ะรู้จักไหม”
“เหรอคะนาราก็เพิ่งรู้ แสดงว่าพี่รัญญ์ก็มาซื้อของที่นี่บ่อยใช่ไหมคะ ถึงได้มีถุงผ้าเตรียมพร้อมขนาดนี้”
“ก็มาทุกครั้งที่มาที่นี่นั่นแหละ ไปลงไปได้แล้ว”
ทั้งคู่เดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า หรัญญ์หยุดเดินแล้วมองไปยังรถเข็นของ ก่อนจะหันกลับมามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขาเอียงหน้าให้รู้ว่าเป็นหน้าที่ของนาราภัทรที่ต้องไปนำรถเข็นมา มีสายตามองค้อนจากหญิงสาวเล็กน้อย แต่ก็ยอมเดินไปดึงรถเข็นออกจากแถวและเข็นตามหลังเขาไป
“เห็นเราเป็นคนใช้รึไง” เสียงบ่นอุบอิบดังตามหลังเบา ๆ
“บ่นอะไร”
“เปล่าไม่ได้บ่นค่ะ แค่เอ่ยลอย ๆ”
หรัญญ์หันมามองแบบไม่เชื่อ เขาเดินนำหน้าไปยังโซนจำหน่ายของใช้ภายในบ้าน แล้วหยิบใส่รถเป็นว่าเล่นจนคนเข็นแทบเข็นตามไม่ทัน ก่อนจะมาหยุดที่โซนอาหารสด
“นาราอยากทำอะไรให้พี่กินก็เลือกเลย” เขาโยนหน้าที่แม่ครัวให้นาราภัทร ทั้งที่ปกติก็ทำกินเองทุกครั้งอยู่แล้ว
“วันนี้ไม่ทำได้ไหมคะ นารานั่งรถนาน ๆ ทีไรปวดเนื้อปวดตัวทุกที อยากนอนพักค่ะพี่รัญญ์”
“คนงานที่ไหนจะได้สิทธิ์สบายแบบนั้น”
“แต่พี่รัญญ์บอกเองนะคะว่าเริ่มงานพรุ่งนี้”
“แต่พี่ต้องกินข้าววันนี้ ตัวเธอก็ด้วยนะนาราถ้าไม่ทำเธอก็ไม่มีข้าวกินเหมือนกัน”