ตอน 4
“คุณควรรอผมอนุญาต” เขาพูดเสียงเข้มเป็นการปรามสาวเปรี้ยวร้อนแรง
“นิกกี้ใจร้อนค่ะ อีกอย่างก็คนกันเองทั้งนั้น ไม่เห็นต้องเกรงใจใครนี่คะ” ว่าพลางปรายตาไปทางคิริลที่นั่งเป็นก้างชิ้นโตไม่พึงประสงค์อยู่ตรงข้าม
คิริลขยับนิดหนึ่ง ก่อนจะรู้ตัวไม่ควรอยู่ในนี้ ให้รำคาญลูกตาลูกสาวหุ้นส่วนน้อยนิดของเจ้านาย
“ผมคงต้องขอตัวพาซีไปว่ายน้ำเล่นนะครับเจ้านาย”
“นายไปพักเถอะริล ส่วนซีพามาหาฉันที่นี่” อังเดรที่มีนิกิต้านั่งอยู่บนตักบอกบอดี้การ์ดโดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้หญิงไร้มารยาทคนนี้ บางทีเขาก็กระหายในตัวหล่อน บางทีรู้สึกเบื่อหน่ายความไร้มารยาทของเธอนักหนา ซีนี่ล่ะเป็นตัวช่วยในการกำจัดเธอทางอ้อม “ซี” อังเดรตะโกนเรียกสุนัขสุดรัก โดยไม่ยอมยกนิกิต้าลงจากตัก ประเดี๋ยวซีมาเธอก็ตะกายลงไปเอง
อย่างไม่ทันได้ตั้งตัวซีสุนัขโกลเด้น รีทริฟเวอร์วิ่งมาหาเจ้านายด้วยอารามดีใจ มาถึงกระโจนเข้าหาอังเดรทันที นิกิต้ากระโดดลงจากตักอังเดรแทบไม่ทัน
“ว้าย !! ไอ้หมาบ้า” เผลอลืมตัวด่าสุนัขสุดรักของชายหนุ่มอย่างสุดเสียง ขณะแทบล้มก้นกระแทก เพราะต้องกระโดดลงจากตักชายหนุ่ม ทั้งที่ใส่ส้นสูงห้านิ้ว แต่เมื่อตั้งสติได้เงยหน้ามองชายหนุ่ม “อุ้ย...คือเอ่อนิกกี้...” ถึงกับหน้าเสียที่เห็นแววตาขุ่นจากชายหนุ่ม ละล่ำละลักพูดอะไรไม่ออก
“คุณเรียกซีว่ายังไงนะ” เขาได้ยินชัดแต่แกล้งเอ่ยถามไปงั้นๆ ดูซิเธอแก้ตัวว่ายังไง รักสัตว์รักเด็ก ทำอาหารเก่ง เป็นแม่บ้านจะจริงอย่างพูดไหม เท่าที่สังเกตทุกครั้งที่เธอมาหาเขา แม้แต่เข้าใกล้ซีเธอยังไม่กล้า ทำเป็นแสร้งสนิทกับซีต่อหน้าเขาเท่านั้น คนรักสัตว์จริงกับคนแกล้งเล่นละครต่างกันมาก
“คือเอ่อ...” นิกิต้าพูดไม่ออกก็ในเมื่อความจริงในใจคิดอะไรเธอรู้อยู่แก่ใจ ครั้นให้ยอมรับว่าเกลียดเจ้าหมาตัวโตตัวนี้เรื่องอะไรจะยอมรับง่ายๆ ล่ะ
“อย่าให้ผมได้ยินอีกเด็ดขาด ว่าคุณเรียกหมาผมแบบนี้” อังเดรเตือนแม่สาวสังคมเสียงขุ่น เขาไม่ชอบที่คนอื่นมาเรียกหมาเขาน่ารังเกียจอย่างนี้
“พอดีนิกกี้ตกใจไปหน่อยนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะเรียกซีแบบนั้น ยกโทษให้นิกกี้นะคะอังเดรขา” เธอสวมบทอ้อนเพราะรู้จักนิสัยชายหนุ่มดี เวลาโกรธไม่พอใจอะไรใครเขาน่ากลัวมาก เธอไม่อยากโดนเขาเกลียด จนไล่ออกจากบ้าน
“ผมไม่ชอบจำไว้ซะด้วย...ปะ...ซีไปเดินเล่นกัน” อังเดรตบหลังซีเบาๆ พร้อมเดินนำซีไป เขาไม่จำเป็นต้องใช้เชือกจูงซีเวลาที่เขาอยู่กับนิกิต้า หากเธอรักสัตว์จริงซีย่อมเป็นมิตรกับเธอ เพราะนิสัยของซีรักเด็กรักทุกคนไม่ใช่สุนัขดุร้ายถึงจะตัวใหญ่ก็เถอะ
นิกิต้ากำหมัดแน่นข้างตัว โกรธจนอยากฆ่าสุนัขตัวโปรดของชายหนุ่มให้ตายเลย สักวันเถอะจะเอายาเบื่อยัดปาก เธออาฆาตสุนัขแต่รักคนอยากได้ใคร่เป็นเจ้าของ แม้ระหว่างเธอกับอังเดรไปถึงไหนต่อไหน ทว่าวี่แววการเป็นผู้หญิงคนสำคัญของชายหนุ่มยังคงไม่ปรากฏ เธอสาวเท้าวิ่งเก้ๆ กังๆ ตามคนกับสุนัขไปยังชายหาด
บ้านหลังใหญ่ของอังเดรติดกับชายหาด หากแต่โรงแรมในเมืองภูเก็ตและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ภายใต้ปีก ซีอาร์จี มีอยู่หลายจังหวัดใหญ่ๆ ดังนั้นในความคิดของนิกิต้าการได้เป็นผู้หญิงคนสำคัญของอังเดร ก็เท่ากับว่ามีส่วนในผลประโยชน์มหาศาลของมาเฟียหนุ่ม ทว่าการก้าวขึ้นไปยืนตรงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อังเดรเข้าถึงยากที่สุดเท่าที่เธอเคยรู้จักผู้ชายมานับจำนวนไม่ถ้วน
นิชาขออนุญาตบิดาขับรถเต่าเก่าแก่ ของท่านมาชมวิวทิวทัศน์หาดทราย เพราะหลังจากฟังทุกอย่างจากปากท่านเธอไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไรก่อนหน้าหลัง จากที่คิดว่ากิจการไม่ได้แย่มากแต่กลับแย่จนดิ่งลงเหว ในเดือนๆ หนึ่งแทบไม่มีรายได้เข้ามาในบัญชี เงินเดือนคนทำความสะอาดโรงแรมน้าจรี และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในส่วนของโรงแรมแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง แล้วยังรายจ่ายในส่วนของบ้านอีกล่ะ บิดาของเธอกระเบียดกระเสียรจนสุดกำลัง ท่านเจียดเงินทุกบาทที่มีเพื่อส่งเสียเธอเรียนจนจบ แล้วเธอควรทำอย่างไรกับกิจการที่กำลังดิ่งลงเหวอย่างโรงแรมเล็กๆ กลางเมืองแห่งนี้ เพราะทุกวันนี้แขกหรือนักท่องเที่ยวก็มักเข้าพักในโรงแรมหรูริมหาดกันทั้งสิ้น
สุนัขตัวหนึ่งขนสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาหล่อเหลา เส้นขนมีสุขภาพ ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีปลอกคอหนังติดอยู่ที่คอบ่งบอกถึงการมีเจ้าของและปอกนั้นแบรนด์เนมซะด้วย ตัวสีน้ำตาลสุดหล่อยืนแหงนมองเธอ กระดิกหางอย่างเป็นมิตร แลบลิ้นยาวคล้ายจะยิ้มหวานให้กับเธอ
“ไง มากับใครจ๊ะรูปหล่อ” นิชาก้มหน้าลงไปคุยกับเพื่อนสี่ขาน่าชัง พร้อมกับยื่นฝ่ามือไปตรงหน้าสุนัขตัวโตแต่น่ารัก มันยกมือวางบนฝ่ามือหญิงสาว เป็นการทักทายพร้อมกับเห่าเสียงกังวาน “หลงทางเหรอ” เอ่ยถามอย่างเป็นมิตรแล้วมันก็เห่าตอบอย่างเป็นมิตรเช่นกัน อาการเครียดขึงในสมองของนิชา ค่อยบางเบาลงเมื่อได้คุยกับสุนัขตัวนี้ รู้สึกถูกชะตากันอย่างประหลาด
“อยากเล่นน้ำเหรอ” สุนัขวิ่งนำลงไปยังชายหาด แล้ววิ่งกลับมาเรียกนิชา คล้ายกับว่าอยากให้ไปเล่นน้ำทะเลด้วยกัน เธอพยายามเข้าใจภาษาสุนัข ต่อให้ที่บ้านไม่ได้เลี้ยงสุนัข บิดาชราดูแลไม่ไหว ตอนเด็กๆ เธอเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่ง เป็นพันธ์พื้นบ้าน ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงแต่เพราะสงสารจึงเก็บจากข้างทางมาเลี้ยง เวลาผ่านไปมันก็ชราไปตามวัย ตายอย่างสงบก่อนเธอไปเรียนอังกฤษแค่สองปี จากนั้นนิชาไม่ได้เลี้ยงสุนัขอีกเลย
ถ้าเจ้าตัวโตน่าชังตัวนี้พลัดหลงไม่มีเจ้าของ เธอคิดว่าจะพามันกลับไปเลี้ยงที่บ้าน จนกว่าเจ้าของของมันจะตามมาเอาคืน เธอคิดไปไกลขณะวิ่งตามมันลงไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าที่คลื่นสาดซัด สุนัขตัวนั้นกระโดดลงน้ำอย่างกับเคยชินว่ายไปว่ายมา แล้วก็วิ่งขึ้นมาหยอกล้อกับเธอ งับกระโปรงตัวยาวของเธอดึงตามมันลงไป
“รูปหล่อฉันไม่ได้มีชุดมาเปลี่ยนแกเล่นคนเดียวนะ” นิชาบอกกับสุนัขเป็นมิตรตัวนั้น รู้สึกเธอกับมันสนิทกันเร็วน่าดู มันเห่าตอบคล้ายกับชวนลงไปเล่นน้ำด้วยกัน “ฉันขอดูแกเล่นดีกว่า” หญิงสาวกล่าวกับสัตว์ที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่องด้วยภาษาสุภาพราวกับคุยกันคนด้วยกัน
แต่สุนัขที่เนื้อตัวเปียกปอนไม่ยอม มันกระโจนโอบกอดหญิงสาว แรงกระโจนที่ถาโถมเข้าใส่เธอมหาศาลส่งผลให้คนตัวเล็กรูปร่างบอบบางล้มลงไปก้นกระแทกกับพื้นทราย ทั้งคนทั้งสุนัขล้มกลิ้งไปด้วยกัน นิชาได้แต่หัวเราะชอบใจไม่โกรธสัตว์สี่ขา เนื้อตัวของเธอมอมแมมไม่ต่างกัน
“พอแล้วฉันยอมแล้ว ไปเล่นน้ำกับแกก็ได้” คนสวยตัดสินใจตามใจสุนัขตัวช่างตื๊อ หยัดกายลุกขึ้นวิ่งลงทะเลไปพร้อมกับเพื่อนร่วมโลกสี่ขา
อังเดรเดินอยู่กับนิกิต้าตามทางทอดยาวมาตามชายหาด เธอคล้องแขนเขาไว้ไม่ยอมให้ตามซีไป ชวนคุยนั่นนี่ตลอดทางจนซีหายจากสายตาเขาไป ทว่าด้วยนิสัยรักเจ้านายของซีชายหนุ่มจึงไม่ห่วง ต่อให้ซีวิ่งเล่นไกลจากบ้านแค่ไหนย่อมกลับมาที่บ้านเช่นเดิม อีกอย่างให้เขาวิ่งไล่กับมันคงไม่ไหว ซีแรงเยอะ บางครั้งเล่นงานเขาเหนื่อยหอบทั้งที่มาเฟียหนุ่มมาดนิ่ง ออกกำลังกายรักษาสุขภาพดีสม่ำเสมอแข็งแรงดี แต่เมื่อเล่นกับซีทีไรเขากลายเป็นคนแก่หอบแฮกๆ ทุกที
“คุณไม่มีอะไรทำหรือไงนิกกี้”
“ถามนิกกี้แบบนี้อังเดรเบื่อนิกกี้หรือคะ”
“ไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ทั้งที่ในใจหมายความตามนั้น เธอเกาะติดเขายิ่งกว่าตังเม ว่างไม่ได้เป็นแจ้นมาหาเขาทุกที เข้าไปจุ้นจ้านในบ้าน ในที่ทำงาน บางทีลามปามไปถึงห้องนอนซึ่งพื้นที่ตรงนั้นส่วนตัว ดังนั้นต่อให้นิกิต้าพยายามแค่ไหน เขาไม่เคยอนุญาตเธอเลย ที่ของเธอกับเขาคือในโรงแรมไม่ใช่ที่บ้าน