ตอน 3
“ว่าไงนะ ! ” เป็นคำตอบที่เสียดแทงหัวใจสิ้นดี มาเฟียหนุ่มมาดเข้มแกร่ง ดุเดือด อังเดร คอมมานอฟ นักธุรกิจไฟแรงด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่บินตรงจากรัสเซียเมืองมอสโก เพื่อมาทำธุรกิจในไทย นับได้ร่วมสิบปีแล้วที่เขาก้าวขาเหยียบย่างบนพื้นดินเมืองไทย อาศัยถิ่นพำนักอยู่ในภูเก็ต ไปๆ มาๆ ระหว่างมอสโกกับภูเก็ตอยู่ประจำ
อังเดรประสบความสำเร็จด้วยดีเสมอมาในธุรกิจด้านนี้ ไม่ว่าย่างก้าวเข้าไปร่วมประมูลซื้อที่ดินโครงการไหนไม่เคยพลาด แม้กระทั่งเล็งที่ทางผืนสวยของใครไว้ย่อมไม่มีคำว่าผิดหวังทุกครั้งไป แล้วนี่อะไร ลูกน้องคนสนิทที่ไว้ใจในฝีมือการเจรจาหน้าด้านกลับมารายงานด้วยประโยค ‘ไม่ขาย’ นี่นะ บัดซบสิ้นดี แก้วบรั่นดีในมือถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะกระจกหน้าเก้าอี้ตัวที่นั่งเสียงดังกึก พร้อมกับน้ำสีชากระเซ็นออกจากปากแก้ว
สองบอดี้การ์ด คิริล กรามาลา หรือ ริล หนุ่มมอสโกขนานแท้ คนสนิทตามติดมารับใช้อังเดร เพราะความรู้ใจและเข้าขากันดีเรื่องงานและการดูแลความปลอดภัย ส่วน กิตติภพ นามเมือง หรือ ภพ หนุ่มเมืองภูเก็ตหน้าเหี้ยม ใจนักเลง มีความเป็นผู้นำในส่วนชุมชนและฝูงชนย่อมๆ เกิดและโตในภูเก็ต รู้ตื้นลึกหนาบางของเมืองภูเก็ตดี ซอกไหนมุมไหนใครเป็นใครเขารู้จักหมด เพราะเคยคุมวินรถแท็กซี่ในสนามบินมาก่อน ก่อนที่จะก้าวเข้าสู้เส้นทางมาเฟียเต็มตัวด้วยการตบเท้าตามคำชวนของเพื่อนที่ได้ทำงานร่วมกับอังเดร
“ใจเย็นๆ ครับเจ้านาย” คิริลหน้าเสียไปส่วนหนึ่ง แต่ยังใจกล้ากล่าวกับเจ้านาย ให้ลองฟังเหตุผลต่างๆ ดูสักนิด
“เย็นงั้นหรือ ไม่เคยมีสักครั้งที่ฉันจะต้องได้ยินคำว่าไม่ขาย เข้ามาในรูหู” อังเดรตวาดลั่น ลูกน้องมากหน้าร่วมสิบที่อยู่ในบริเวณบ้าน ต่างแตกกระเจิงไม่กล้าเข้าใกล้เวลาที่มาเฟียหนุ่มไม่สบอารมณ์ และตอนนี้คำว่าไม่สบอารมณ์ก็มาเยือนอังเดรเรียบร้อย
“เจ้านายต้องเข้าใจนะครับ” กิตติภพเอ่ยด้วยเสียงตะกุกตะกักบ้าง ปกติเขากับคิริลไม่เคยทำอะไรพลาด มาตรการที่ได้วางไว้สี่สเต็ปไม่เคยใช้ครบ เพียงแค่ขั้นแรกเจ้าของที่ก็ยอมขายให้ตามราคาที่ตกลงทุกราย ยกเว้นรายนี้คงเพราะคำว่าหวงแหนมรดกบรรพบุรุษจึงไม่ยอมขาย แต่หากเจรจาต่อลองอีกสักหน่อย ขี้คร้านอาแปะแก่ๆ จะกระโดดตะครุบเงินก้อนโตอย่างไม่ต้องกังวล
“เข้าใจอะไร ภพนายว่ามาซิ” อังเดรพยายามสงบอารมณ์ขุ่น ตวัดสายตาไปทางบอดี้การ์ดมือซ้าย ที่เป็นหูเป็นตาให้เขากับเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ นายคนนี้กว้างขวางในพื้นที่ ใจนักเลงยอดเยี่ยม เขาจึงรับเข้าทำงานให้เป็นคู่หูกับคิริล
“รอยตะวันเป็นโรงแรมเก่าแก่ คู่เมืองภูเก็ตมาชั่วลูกชั่วหลาน คนเป็นเจ้าของย่อมหวงเป็นธรรมดา” กิตติภพเห็นโรงแรมนี้ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เมื่อก่อนโรงแรมนี้สร้างงานสร้างรายได้ แก่ครอบครัวเขามาหลายรุ่น แม่เขายังเคยทำงานในโรงแรมนี้ แต่ปัจจุบันลาออกไปทำงานที่โรงแรมใหญ่นรายได้ดีกว่า
“หวงไว้ทำซากอะไร โรงแรมเน่าเก่าผุพังแบบนั้น สู้ขายแล้วเอาเงินไปซื้อความสุขให้ตัวเองไม่ดีกว่ากอดสมบัติเก่าๆ ไม่สร้างกำไร ไม่ดีกว่าหรือ” ภาษาไทยแปร่งๆ สำหรับคนต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยฟังพอได้ศัพท์
“ผมจะลองสืบให้อีกทีนะครับเจ้านาย”
“ไม่ต้องสืบ ไปคุยเลย ทางนั้นต้องการเงินเท่าไหร่ บอกมาฉันยินดีจ่าย” พ่อบุญทุ่มจ่ายไม่อั้น ที่สวยขนาดนั้น ใครได้ไปมีแต่กำไรงาม
“เจ้านายต้องการที่ตรงนั้นแน่นะ” คิริลเอ่ยถาม
“ที่สวยทำเลดีขนาดนั้น มีไว้ในมือนายคิดว่าจะสร้างกำไรให้ฉันขนาดไหนริล” อังเดรเล็งที่ตรงนั้นมาหลายปี หากแต่ไม่สบโอกาสเข้าไปเจรจาสักที เพราะยุ่งกับการบริหารโรงแรม และการกว้านซื้อที่ยังจังหวัดอื่น ดังนั้นจึงเพิกเฉยและปล่อยโอกาสมาเนิ่นนานเกินไป กระทั่งวันหนึ่งที่เขาเดินทางไปประชุมผู้ประกอบการโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยว ได้ยินหนาหูว่านักธุรกิจอสังหาฯ หลายรายต้องการที่ของโรงแรมรอยตะวันและพร้อมสู้ราคา ดังนั้นเขาต้องเป็นรายแรกและเพียงรายเดียวทีได้ครอบครองที่ผืนทองแห่งนั้น
“ครับ...เจ้านาย น่านับถือเป็นคนที่มองการณ์ไกล” คิริลทึ่งในความคิดอ่านด้านธุรกิจของอังเดร จนรู้สึกนับถือในความเฉลียวฉลาด อังเดรมักฉกกำไรมาอยู่ในกระเป๋า ในธุรกิจของเขาไม่เคยพลาด หากให้คิริลมองที่แปลงนั้นเขาก็มองว่ามันธรรมดาหากแต่ถ้าให้อังเดรมอง เขามองมันเป็นเม็ดเงินมหาศาลเสมอ
อังเดรประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จนร่ำรวยประสบความสำเร็จ ทั้งในไทยและต่างประเทศภายใต้ กลุ่มบริษัท คอมมานอฟ เรียลเอสเตท กรุ๊ป (CRG) Commanof Realestate Group ดำเนินธุรกิจครบวงจร ทั้งขายที่ดินเปล่า บ้าน คอนโด รวมไปถึงบริษัท รับสร้างบ้านที่ดีที่สุดในภาคพื้นเอเชียและยุโรป
ในขณะที่สามหนุ่มกำลังปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด เจ้าซีเห่าเสียงกังวาน ปกติซีไม่เคยเห่าใครเสียงดังขนาดนี้ เพราะซีคือสุนัขสุดโปรดของอังเดร ซึ่งเลี้ยงไว้อยู่ข้างกายตลอดเวลา ไม่ว่ากินนอน เดินเที่ยว ซี (Sea) อยู่ในสายตาเสมอ ยกเว้นเวลาที่เขาต้องปรึกษางานต้องใช้สมาธิในการทำงาน จึงปล่อยให้ซีออกไปวิ่งเล่นตามสบาย ซีไม่ใช่สุนัขดุร้ายเพราะมันคือ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) สีน้ำตาลขนฟูหน้าตาหล่อเหลา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซุกซน ประจบประแจง น้อยนักที่ซีจะเห่าอย่างไร้มารยาท
“ภพไปดูซิใครมา” ความจริงอังเดรไม่ต้องสั่งให้บอดี้การ์ดออกไปดูด้วยซ้ำ เพราะเสียงกรีดร้องแสบแก้วหู ไล่เจ้าซีชิ่วๆ ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากขาประจำที่เจ้าซีไม่เคยเป็นมิตรด้วย
กิตติภพย้ายก้นเดินออกไปหน้าบ้าน จึงได้พบผู้มาเยือนที่ซีเดินวนรอบยื่นจมูกสูดดมเจ้าหล่อนวนไปวนมา
“สวัสดีครับคุณนิกกี้” กิตติภพเอ่ยทักทายหญิงสาวในชุดรัดรูปเน้นสัดส่วนสีแดงร้อนแรงเจิดจ้า ซึ่งหดตัวแนบแขนขาเพราะกลัวซีจะงับ ซึ่งปกติซีไม่เคยงับหรือกัดใครจากสายพันธุ์ของมันเอง
“นายภพเอาไอ้หมาเวรนี่ออกไปให้พ้นๆ ฉันที” นิกิต้า อีวานเกเยฟ สาวลูกครึ่งไทย รัสเซีย มารดาเป็นสาวไทย นามนิมล วราลักษณ์ ส่วนบิดาคือ มารัต อีวานเกเยฟ ชายรัสเซียเช่นเดียวกับอังเดร มารัต มีหุ้นเท่าหยิบมือใน คอมมานอฟ เรียลเอสเตท กรุ๊ป
นิกิต้าได้เจอกับอังเดรที่งานเปิดตัวโครงการใหม่ของ ซีอาร์จี CRG โดยการชักนำให้รู้จักกันของมารัต จากนั้นบิดาของเธอพร้อมยัดนิกิต้าเข้าปากอังเดรอย่างจริงจัง ไม่ว่าชายหนุ่มไปไหนหรืออยู่บ้านในวันว่างสบายๆ เธอมักกรีดกรายเข้ามาเดินเฉิดฉายในคฤหาสน์หลังงามทรงยุโรป เป็นเวลาสามเวลาหลังอาหาร ทำตัวเป็นเจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของตัวอังเดร จนชายหนุ่มรู้สึกอึดอัด ราวกับกระดุมเม็ดบนสุดของเสื้อเชิ้ตบีบรัดคอหอย
หลังจากปลีกตัวจากสัตว์หน้าขน ที่ไม่ชอบรู้สึกขยะแขยง ไม่คิดอยากข้องแวะถ้าไม่ใช่ต้องมาเจอเจ้าของหมา ไม่อยากจะมาด้วยซ้ำ นิกิต้าปรี่เข้าไปในบ้าน กวาดสายตามองหาอังเดร เธออยากมาบ้านนี้สามเวลาหลังซะด้วยซ้ำ หากแต่รังเกียจสัตว์หน้าขนที่เธอไม่ชอบนักหนา พยายามทำใจให้ชอบอย่างที่ชอบเจ้าของ ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดีที่จะเข้าใกล้ โดยเฉพาะลิ้นและน้ำลายเยิ้มเวลามันเลียแขนขาเธอ นึกถึงทีไรขยะแขยงทุกที ตอนอยู่ต่อหน้าอังเดรเธอพยายามทำใจให้ชอบ เพื่อทำคะแนนกับเขา พอกลับบ้านต้องรีบเข้าห้องน้ำล้างตัวอย่างไว พูดง่ายๆ เธอไม่ใช่คนรักสัตว์ ไม่ว่าสัตว์ประเภทไหนก็ตาม
“อังเดรขา นิกกี้เข้าไปนะคะ” เธอปรี่เข้าไปถึงตัวอังเดรที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ แม้ยังมีคิริลนั่งอยู่ในห้องเธอก็ไม่สน นั่งลงบนตักชายหนุ่มอย่างถือสิทธิ์