3 ความร้ายกาจของนงพะงา
ความร้ายกาจของน้องสาวเพื่อนเริ่มปรากฏทันที ด้วยการเรียกร้องให้วายุรับผิดชอบที่เธอเสียตัวให้แก่เขา
“ตายแล้วคุณพร แม่นี่ร้ายไม่ใช่เล่นนะคะ เป็นคนอกตัญญูยังไม่พอ แล้วยังจะเรียกร้องอีก ไล่ออกไปจากบ้านเลยค่ะ”
ตวงได้ยินดังนั้นเดือดแทนเจ้านาย ซึ่งก็ทำให้นงพะงาตวาดแว้ดใส่อย่างไม่ไว้หน้า
“นี่ ยายคนใช้ เข้าตำรานายว่า ขี้ข้าพลอย เพราะปากกับนิสัยเป็นอย่างนี้ไงล่ะ ถึงดักดานเป็นคนใช้อยู่อย่างนี้น่ะ”
นี่คือความร้ายกาจของนงพะงาที่ทุกคนได้เห็น แม้แต่วายุยังสะอึก ไม่คิดว่าปากเธอจะจัดขนาดนี้
“ว้าย ! ตายแล้ว มันว่าพี่ตวงค่ะ คุณพรขา”
“พี่ตวงอยู่เฉย ๆ เรื่องนี้ฉันจัดการเอง นงใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วออกมาคุยกันข้างนอก คุณด้วยวายุ อย่าคิดว่าฉันจะเพิกเฉยกับเรื่องแบบนี้นะ”
พรระวีหันไปตวาดใส่สามีตัวแสบที่ยังคงยืนนิ่ง ทำหน้าเศร้า เหมือนจะเป็นจะตายเสียให้ได้ เขาคงจะรู้อนาคตตัวเองดีว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น ในเมื่อเขาทำผิดขนาดนี้ ไม่มีภรรยาคนไหนให้อภัย คงต้องรอให้เธอตัดสินว่าจะเอาอย่างไร
คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดี ๆ อย่างแน่นอน แม้ว่าจะร้ายสักแค่ไหน สำหรับเขาแล้วคงต้องยอมรับต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ความอึดอัดเกิดขึ้น เมื่อนงพะงาไม่ยอมออกมาจากห้อง ทุกคนรออยู่ที่ห้องรับแขก พรระวีหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง รู้ว่าผู้หญิงที่เป็นมารหัวใจกำลังหาเรื่องกลั่นแกล้ง
“แค่หยิบเสื้อผ้าใส่ มันจะยากอะไรนักหนา”
พรระวีโพล่งขึ้นอย่างเหลืออด
“นั่นสิคะคุณพร สงสัยหาเรื่องแกล้งคุณพรแน่ ๆ เลยค่ะ ผู้หญิงคนนี้ร้ายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแล้ว พี่เตือนคุณพรแล้วนะคะ ว่าตาแม่นี่ไม่น่าไว้ใจ มันล่อกแล่ก ๆ คุณพรก็หาว่าพี่คิดมาก”
ตวงกล่าวด้วยความชิงชังผู้หญิงแสนร้ายที่เข้ามาแย่งสามีของพรระวี แต่ตวงไม่ยอมที่จะให้มาอยู่เหนือเธอ และแย่งชิงวายุจากไป เธอจะช่วยนายสาวเต็มที่
“คนจิตใจชั่วช้า มันก็เลวไปหมดนั่นแหละ”
“ใครเลว ใครจิตใจชั่วช้าคะพี่พร”
นงพะงาถามขึ้น ซึ่งเสียงมาก่อนตัว แต่ก็รู้ว่าไม่พอใจต่อคำพูดของพรระวี
“นี่เธอ ยังมีหน้ามาพูดกับฉันอย่างนี้อีกหรือ ทำเลวขนาดนี้ ไม่ควรมีปาก มีเสียงแล้ว”
“ให้นงเป็นนังใบ้หรือไงคะ ไม่แฟร์เลยนะ”
“นง อยู่เฉย ๆ เถอะน่า รู้จักเจียมตัว สงบปาก สงบคำบ้าง ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งเป็นคนเลว”
วายุปรามด้วยเสียงเครียดพอ ๆ กับใบหน้า
“โอ๊ย ! ในสายตาของทุกคน นงก็แลวอยู่แล้วค่ะ ไม่มีความดีกับเขาหรอก”
นงพะงายังคงส่งเสียงกรี๊ดลั่น ไม่มีความยำเกรงพรระวีผู้เป็นเจ้าของบ้าน และเป็นผู้มีพระคุณแต่อย่างใด ต่างจากวายุ บัดนี้รู้สึกเกรงใจภรรยาที่สุด กลัวว่าถ้าเธอตัดสินใจที่จะแยกกันอยู่ เขาจะต้องสูญเสียเธอไป
เกลียดต่อความมักง่ายของตัวเองที่ทำให้เกิดเรื่องอัปยศแบบนี้ เขามองไปที่นงพะงา จากที่คิดว่าเป็นผู้หญิงน่าสงสาร กลับไม่ใช่เสียแล้ว
เมื่อพรระวีรู้เรื่องเขากับเธอเท่านั้น ความอ่อนหวานน่ารัก น่าสงสารได้หายไป เปลี่ยนเป็นไปในทางตรงกันข้าม ก้าวร้าว น่ากลัว หยาบคาย ไม่มีมารยาท
ประพฤติตัวเหมือนผู้หญิงชั้นต่ำจริงๆ
“ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความกันแล้ว ฉันจะเล่าเรื่องนี้ให้พี่เธอรู้ถึงความเลวของน้องตัวเอง กล้าทำร้ายผู้มีพระคุณได้อย่างเลือดเย็น”
คราวนี้พรระวีเล่นงานมารหัวใจด้วยการจะบอกเรื่องนี้แก่พี่สาวของนงพะงา แต่ผู้หญิงคนนี้หาได้กลัวไม่ กลับสวนกลับด้วยเสียงกร้าว
“พระคุณอะไรคะ อ๋อ ที่ให้ห้องนอนเล็ก ๆ เป็นที่ซุกกะลาหัว กับอาหารการกินประทังความหิวอย่างเสียไม่ได้งั้นหรือคะ”
“นง ทำไมพูดกับคุณพรอย่างนั้นล่ะ ห้องที่เธออยู่ไม่ได้เล็กมาก อยู่สบาย มีแอร์ มีทีวี เครื่องเสียง ส่วนอาหารการกิน เธอบอกว่าจะหาซื้อเอง แต่ไม่เคยซื้อ ค้นหาของในครัวกิน โดยที่คุณพรทำงานตลอด ไม่ค่อยได้กินข้าวที่บ้าน ฉันก็ทำไว้ให้แค่คุณผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เธอก็แย่งกินซะเกือบหมด”
ตวงอดไม่ได้ที่จะตำหนิผู้หญิงปากร้ายคนนี้
“ยายคนใช้ นี่แกจะขยันพูดอะไรนักหนา ไม่เบื่อบ้างหรือไง ถ้าปากว่างมากนักก็ไปคาบชามข้าวหมาข้างถนนโน่น”
นงพะงาแว้ดใส่ตวงโดยไร้ความยำเกรง ทุกคนที่ได้ยินต่างผงะ ไม่คิดว่าเธอจะร้ายกาจและหยาบคายขนาดนี้
“นง พี่เพิ่งรู้นะ ว่าผู้หญิงที่พี่เคยสงสาร ความจริงแล้วเป็นแค่เพียงหน้าฉาก หลอกลวงคนอื่นให้เวทนาเท่านั้น แต่นี่คือความจริง เธอร้ายกาจมากที่สุด”