บท
ตั้งค่า

บทที่8 จับจุดสำคัญ

ชายชราร่างผอมคนนั้นเป็นหมอในหมู่บ้าน หมอสู

“ฮือ ฮือ……แม่……พี่ชายเสียเลือดมาก พี่ชายจะตายไหม?”เล่อเล่อโผล่เข้าอ้อมกอดของลั่วเสี่ยวปิง และร้องไห้อย่างเสียใจ

“มีหมออยู่ พี่ชายเจ้าไม่เป็นไรหรอก”ลั่วเสี่ยวปิงปลอบอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็มองแม่หม้ายหลี่ และถามเล่อเล่อ “เล่อเล่อเด็กดี บอกแม่สิว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ชายเจ้าถึงเป็นลม?”

เมื่อเล่อเล่อได้ยินเช่นนี้ ก็หันมองแม่หม้ายหลี่ทันที จากนั้นก็หลบเข้าอ้อมกอดของลั่วเสี่ยวปิงด้วยความกลัว แต่ก็ไม่ลืมตอบคำถามที่ลั่วเสี่ยวปิงถาม

“ท่านย่าหลี่ด่าแม่ พี่ชายไม่ให้นางด่า นางก็ผลักพี่ชาย พี่ชายก็ไปชนโดนก้อนหิน เสียเลือดไปเยอะมาก ฮือ ฮือ ฮือ……”

คำพูดของเล่อเล่อนั้น สำหรับแม่หม้ายหลี่แล้วมันคือการตบหน้า เพราะเมื่อกี้แม่หม้ายหลี่ยังบอกว่าอานอานเป็นคนล้มลงไปเอง

แม่หม้ายหลี่กำลังเถียงต่อ และในเวลานี้ชาวบ้านที่ตามแม่หม้ายหลี่มานั้นก็ทนกับการกระทำของนางไม่ไหวแล้ว

“หลี่ซื่อ เจ้าเป็นคนผลักลูกคนอื่นพวกข้าเห็นกันหมดเลย เจ้าบอกว่าเป็นลูกของนางไปชนโดนเอง คิดว่าพวกข้าตาบอดหรือไง?”

คนที่พูดนั้นเป็นคนที่จัดจ้านอีกคนในหมู่บ้าน เฉินซื่อของสกุลจาง

เฉินซื่อคนนี้ถึงจะเป็นคนที่จัดจ้าน แต่ก็ค่อยดูแลเจ้าของร่างเดิมสามแม่ลูกอยู่ เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนปากร้ายใจดี

บอกได้ว่าหากไม่มีเฉินซื่อล่ะก็ เจ้าของร่างเดิมสามแม่ลูกคงหิวตายไปนานแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ส่งสายตาที่ซาบซึ้งใจให้เฉินซื่อ

ส่วนแม่หม้ายหลี่ถูกเฉินซื่อทำให้เสียหน้า สีหน้าของนางก็ดูไม่ค่อยดีมาก กำลังจะโต้เถียง ลั่วเสี่ยวปิงกลับเอ่ยปากในขณะนี้พอดี

“ถึงข้า ลั่วเสี่ยวปิงจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ลูกทั้งสองกลับเป็นชีวิตของข้า วันนี้ข้าพูดไว้ก่อนเลยว่า หากลูกชายข้าเป็นอะไรไปล่ะก็ ข้าจะเข้าไปในเมืองไปฟ้องศาลแน่ ข้าจะดูว่าแม่ของซิ่วฉายตีเด็กบาดเจ็บจะได้รับโทษอะไร ซิ่วฉายมีแม่ที่อาชญากรรม จะยังสามารถไปสอบเข้ารับราชการหรือไม่”

คำพูดของลั่วเสี่ยวปิงนั้นแข็งแกร่งมีแรง และยังพูดไปถึงจุดอ่อนของแม่หม้ายหลี่ด้วย

แม่หม้ายหลี่เลี้ยงลูกเติบโตมาคนเดียว มีแค่ลูกชายคนเดียว นางหวังว่าลูกชายของนางจะได้รับชื่อเสียงเกียรติยศ

นางไม่สนอย่างอื่นได้ แต่จะไม่สนอนาคตของลูกชายตัวเองไม่ได้

“เจ้า……ลูกชายเจ้าก็แค่เสียเลือดไปนิดเดียว จะเป็นไรไปได้?เด็กในหมู่บ้านนี้เด็กบ้านไหนไม่เคยหกล้ม ชนโดนอะไรบ้าง?” เห็นได้ชัดเจนว่าแม่หม้ายหลี่ขาดความมั่นใจ

ลั่วเสี่ยวปิงสำลัก “ในเมื่อเสียเลือดหน่อยก็ไม่เป็นไร ทำไมเจ้าไม่ติดหัวลูกชายเจ้าแตกก่อนแล้วค่อยพูดคำเหล่านี้?”

พูดเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดอีกว่า “ต่อให้อานอานลูกข้าไม่เป็นไร เจ้ามาเหยียบหยามศักดิ์ศรีของข้าบังคับให้ข้าไปตาย ข้าก็สามารถไปฟ้องที่ขุนนางปกครองเมืองและให้เขาตัดสินความเป็นธรรมให้กับข้าได้”

ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าอานอานไม่เป็นไร จึงกล้าพูดคำเหล่านี้ออกมา เพื่อทำให้แม่หม้ายหลี่รู้สึกกดดัน และให้แม่หม้ายหลี่รู้ว่านางลั่วเสี่ยวปิงไม่ใช่คนที่รังแกได้ง่าย ถ้าไม่ตกลง นางก็ไปฟ้องที่ศาล และเหยียนขวนก็อย่าคิดที่จะไปสอบเข้ารับราชการ

เพราะสิ่งที่แม่หม้ายหลี่ใส่ใจมากที่สุดก็คือเกียรติยศของลูกชาย ดังคำกล่าวที่ว่าตีงูตีแขก ไม่งั้นก็ไก่อุ้มไข่เป็ด

และคำพูดเหล่านี้ของลั่วเสี่ยวปิงนั้น ไม่เพียงแต่ไม่ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าลั่วเสี่ยวปิงทำเกินไป แถมยังทำให้ผู้คนคิดในใจว่า เมื่อคนเป็นแม่แล้วก็แข็งแกร่งและกล้าหาญจริงๆเลย

นี่ลั่วเสี่ยวปิงทนทานเช่นนี้แต่เมื่อไหร่กัน?ก็เป็นเพราะว่าลูกโดนตี ไร้หนทางแล้วไง?

ชั่วขณะหนึ่ง ชาวบ้านก็ยิ่งเห็นใจลั่วเสี่ยวปิงแม่ลูกสามคนนี้มากยิ่งขึ้น

หลังจากลั่วเสี่ยวปิงขู่ขวัญแม่หม้ายหลี่ให้เสร็จ ก็หันมองหมอสู ความดุร้ายบนใบหน้าหายไป เหลือแต่ความเกรงใจ “หมอสู ต้องลำบากท่านหน่อยนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel