บท
ตั้งค่า

4.แผนลวง

ตอนที่ 04.แผนลวง

บ่ายคล้อยของวันถัดมาเขมนราเพิ่งออกมาจากคาบเรียนเพื่อตรงดิ่งไปยังห้างหรูที่ถูกนาเดียร์นัดไว้ ทั้งสามคนเพื่อนพ้องเลือกเรียนคนละคณะกัน ตัวจึงไม่ได้ติดกันตลอดเวลา เขมนราเดินลงรถเมย์เมื่อเดินทางมาถึงหน้าห้างดังที่ตนกับเพื่อนนัดว่าจะมาดูหนังกันหลังจากเรียนเสร็จ

"อยู่ไหนนะ แล้วห้องน้ำมันอยู่ตรงไหนล่ะนี่"

ปากจิ้มลิ้มเอ่ยยุกยิกๆอยู่คนเดียวเมื่อหาจุดนัดหมายไม่พบ มือบางจึงล้วงลงไปในกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา                                              

"อะไรคือโทรไม่ติด นี่อย่าบอกน่ะว่ายกเลิกนัดน่ะ"

เขมนราคิ้วยุ่งเหยิงเมื่อไม่สามารถติดต่อเพื่อนรักทั้งสองได้ โดยที่เจ้าตัวหารู้ไม่ว่านี่คือ'แผน'ของคนตัวโตที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ                               

"ว้ายยย!"                                  

ร่างเล็กหวีดร้องออกมาเสียงดังเมื่อแขนของหล่อนถูกกระตุกด้วยมือของใครบางคน ก่อนที่คนๆนั้นจะพาเธอมาหลบอยู่ที่มุมมืดๆของโรงหนัง

"นี่! แกเป็นใคร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า" เขมนราพยายามสะบัดมืออกจากแรงบีบนั่น โดยที่เธอไม่ได้สนใจมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด

"เฟย์! คุณเงียบๆหน่อยสิ" เรย์วาติจำเป็นต้องดึงสติคนตรงหน้าที่กำลังทุบเขาอย่างบ้าคลั่งด้วยน้ำเสียงดุๆ เมื่อได้ยินเสียงอันแสนจะคุ้นหูใบหน้านวลจึงเงยหน้าขึ้นมองบุคคลคนนี้ให้เต็มตา

"คุณ!"

เขมนราอ้าปากเหวอใช้นิ้วชี้เรย์วาติค้างอยู่ประมาณสิบวินาที เธออุส่าห์ทำใจเรื่องคืนนั้นได้แล้วเชียว แล้วนี่เขาจะโผล่มาทำไมกัน!                        

"ใจเย็นๆก่อนนะ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุ .....โอ้ยย"

ยังไม่ทันได้พูดให้จบประโยคท่อนขาเรียวงามของเขมนราก็ฟาดไปยังกลางเป้าของชายหนุ่มเสียแล้ว

"สมน้ำหน้า อย่ามายุ่งกับฉันอีกนะ"                       

เธเว่าพร้อมรีบเดินออกไปให้พ้นจากตรงนั้น ส่วนเรย์วาติที่กำลังกุมเป้าตัวเองอยู่นั้นก็รีบลืมความเจ็บปวดแล้ววิ่งตามคนต้วเล็กไปติดๆ ชายหนุ่มรีบคว้าแขนของเธอเอาไว้อีกครา ก่อนที่น้ำเสียงหงุดหงิดจะพูดขึ้น

"นี่คุณ ฟังผมก่อน! เรามีเรื่องต้องคุยกัน"

เรย์วาติว่าก่อนที่จะโดนคนตรงหน้าใช้เท้ากระทืบเท้าของเขาจนต้องร้องเจ็บแล้วเผลอปล่อยแขนคนตรงหน้าออกอัตโนมัติ แต่มีหรือว่าคนอย่างเรย์วาติจะยอมแพ้ง่ายๆ ช่ายหนุ่มกลั้นหายใจพร้อมคว้าร่างบางมากดประทับริมฝีปากเพื่อเป็นการลงโทษ ผู้คนแถวนั้นยืนมองทั้งสองคนจูบกันหน้าเอ๋อ โดยเฉพาะเขมนราที่กำลังใช้กำปั้นปะทุร้ายชายหนุ่มอย่างไม่รามือ                                  

"กรี๊ดดดด คนบ้า"                           

เมือปากน้อยๆถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็ส่งเสียงกรีดร้องจนผู้คนต้องทันมามองเป็นตาเดียว                             

"เอ้า กรี๊ดมันเข้าไป อยากตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งหรือไงคู้น"

เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กสติแตก เรย์ว่าติจึงใช้มือกอดอกมองหล่อนด้วยเสียงหัวเราะ ซึ่งมันใช้ได้ผล หล่อนยอมปิดปากเงียบหันหน้ามามองเขาตาเขียวปัด!

"อ้าว ทำไมไม่กรี๊ดล่ะ กรี๊ดสิ ผมยืนรอฟังอยู่เนี่ย"

สีหน้ายียวนกับคำพูดอันแสนกวนประสาทของเรย์ว่าติทำให้เขมนราเลือดขึ้นหน้า แต่หญิงสาวก็จำต้องระงับอารมณ์นันเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้มีผู้คนเดินผ่านไปมาเต็มไปหมด                            

"คุณต้องการอะไร"

เมื่อปรับสีหน้าได้แล้วเขมนราจึงถามเขาออกไปเสียงเรียบ แต่เขากลับไม่ตอบ เรย์ว่าติยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนเขาจะเปรยออกมา                          

"อีกสิบนาทีหนังจะฉายแล้ว ไปดูหนังกันก่อนเถอะ"

ไม่รอให้คนตรงหน้าได้ตอบชายหนุ่มก็ฉวยดึงข้อมือบางให้เดินตามหลังเขาไปทันที                          

"นี่ เดี๋ยวสิ ทำไมฉันต้องไปดูหนังกับผู้ชายเฮงซวยอย่างคุณฮะ"                                      

"อยากโดนจูบอีกไหมล่ะ"                          

คนตัวโตหันมาขู่คนตัวเล็กจนหญิงสาวต้องจำต้องยอมอย่างไม่เต็มใจ ก็แหง๋ล่ะ! เธอเกลียดจูบของเขาจะตายไป ใครมันจะอยากโดนเขาจูบกันล่ะ

สองชั่วโมงผ่านไป

หนังโรแมนติกสุดซึ้งจบลงไปได้ด้วยดี เขมนราที่ทำท่าขืนใจตอนแรกกำลังปริ่มกับความหล่อของพระเอกเรื่องนี้อยู่จนลืมไปเลยว่าคนที่ตนเองเดินเคียงคู่อยู่นั้นหล่อยิ่งกว่าพระเอกเสียอีก

"ไปกินข้าวกันเถอะ ผมหิว!"                      

ร่างแน่งน้อยของเขมนราถูกลากมายังร้านอาหารปิ้งย่างขื่อดังด้วยฝีมือของเรย์วาติ                      

"นั่งจ้องหน้าผมทำไมล่ะ กินสิ ผมเลี้ยง"                       

เขมนรานั่งดูชายหนุ่มทานอาหารตาค้าง เธอกำลังอ่านใจเขาอยู่ต่างหาก และที่สำคัญเธอไม่ค่อยอยากจะเสวนากับเขาสักเท่าไร ประเดี๋ยวพูดไม่เข้าหูก็จับเธอไปจูบอีก                           

"ฉันไม่หิว อยากกลับห้อง" หล่อนว่าพร้อมนั่งกอดอกเหมือนเด็กเอาแต่ใจ

"อยากกลับห้องหรือกลัวไปทำงานไม่ทัน"                  

"คุณรู้ได้ไงว่าฉันต้องทำงาน"เขมนราหันไปจ้องตาเรย์วาติด้วยสายตาพิฆาต เขาชักจะวุ่นวายกับชีวิตเธอมากไปแล้วน่ะ แต่ดูเหมือนอิตานี่มันจะไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับสายตาของเธอเลยสักนิด

"ผมรู้เรื่องของคุณหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องน้องชายคุณ"

ชายหนุ่มจ้องตาคนตรงหน้าพร้อมพูดความจริงออกมาเช่นกัน                                          

"อย่าบอกนะว่าเพื่อนฉันเล่าทุกอย่างให้คุณฟัง ยัยเดียร์นะยัยเดียร์!"                           

หญิงสาวกำมือตัวเองไว้แน่น ในใจนึกแค้นเพื่อนไม่น้อยที่เอาเรื่องส่วนตัวของหล่อนไปเล่าให้คนอื่นฟัง อุส่าห์ไว้ใจ น่าผิดหวังจริงๆ!                                

"นี่ อย่าไปโกรธเพื่อนคุณเลย ผมเป็นคนขอให้เธอเล่าเองเเหละ ผมอยากช่วยคุณน่ะ"                        

เรย์วาติหยุดกินก่อน แล้วหันมาเกลี้ยกล่อมคนตรงหน้า เขารู้ว่าแม่ของเขมนราไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถและไม่มีเงินส่งให้เธอเรียนเพราะมีน้องชายจอมผลาญที่ติดยางอมแงมเอาเงินไปหมด ชายหนุ่มจึงอยากจะเสนอข้อตกลงบางอย่างให้คนตรงหน้าได้นำไปคิด

"ช่วยฉัน ช่วยเพื่อ?"                         

หญิงสาวหรี่ตาลงเพื่อจับผิดคนตรงหน้า ของฟรีไม่มีในโลกเธอรู้ดีและเธอคงเดาไม่ผิดเป็นแน่                        

"ถ้าหากคุณยอมรับข้อตกลงของผม ผมสามารถทำให้แม่คุณมีเงิยจ่ายงวดรถได้ และผมก็สามารถทำให้น้อยชายคุณเลิกเล่นยาได้ด้วย"                    

เขมนราจำต้องชะงักกับข้อเสนอนั้น หัวใจดวงน้อยๆเริ่มเกิดความลังเล ถ้าหากเธอยอมทำตามที่เขาบอกแม่กับน้องเธอจะมีชีวิตทีดีขึ้นใช่ไหม

"คุณจะให้ฉันทำอะไร บอกมาก่อน ฉันยังไม่รับปากนะว่าจะทำหรือเปล่า"                          

คำพูดนั้นส่องถึงความระแวง ถ้าหากเขาให้เธอไปเป็นเมียเก็บหรือนางบำเรออย่างในนิยายเธอคงรับไม่ได้แน่

"ผมเข้าใจ แต่ผมเชื่อน่ะว่าคุณทำได้แน่"

คฤหาสน์หลังใหญ่

"ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย โอ้ย! ใครนินทาฉันอีกล่ะนี่" คุณหญิงวารุณีเอ่ยปะทุร้ายคนที่ทำให้นางจามด้วยน้ำเสียปนรำคานจนทำให้'เรย์วาดร'ทีเพิ่งเดินเข้ามาส่งยิ้มเบาๆไปให้มารดา                           

"ใครจะกล้านินทาคุณแม่ของผมล่ะครับ"          

"อ้าวตารอน กลับมาทำไมไม่โทรบอกแม่" วารุณีหันไปคุยกับลูกชายคนเล็กที่ยืดกอดแม่มาจากด้านหลัง เรย์วาดรเป็นบุตรชายคนเล็กแต่ความรับผิดชอบนั้นมีมากกว่าเรย์วาติยิ่งนัก เพราะเหตุนี้แหละนางถึงอยากให้เรย์วาติรีบๆแต่งงานมีครอบครัวสักที มันจะได้มีความรับผิดชอบขึ้นมาบ้าง ไม่ใช้ทำตัวไรสาระไปวันๆแบบทุกวันนี้

"จะโทรบอกทำไมล่ะครับ ก็ผมตั้งใจจะกลับมาเซอร์ไพรส์คุณแม่นี่นา" เรย์วาดรว่าพร้อมนั่งลงข้างๆมารดา                      

"แล้วเป็นยังไงบ้าง ทางนั้นเขาเรียบร้อยดีไหมล่ะ"

"เรียบร้อยครับแม่ เดือนหน้าโปรเจ็กต์ใหม่ก็เปิดอย่างเป็นทางการครับ แล้วนี่...พี่เรย์ไปไหนล่ะครับ" ชายหนุ่มถามหาพี่ชายของตน ทำเอามารดาทำหน้าเซ็งโลกทันที                        

"เฮ้อ! อย่าไปพูดถึงไอ้ลูกชายบ้าๆนั่นเลย นี่ลูกรู้มั้ยแม่อุส่าห์พาหนูนิตมาให้พี่แกดูตัวแต่สิ่งที่แม่ได้กลับมาคือพี่ชายแกบอกหนูนิตกับแม่ว่ามันมีเมียแล้ว"

ยิ่งพูดวารุณีก็ยิ่งของขึ้น คอยดูน่ะ ถ้าหากไอ้ลูกชายตัวดีมันไปพาเมียมาอยู่ที่นี่เมื่อไหร่แม่จะไล่ตะเพิดจนไม่กล้ากลับมาเลยแหละ                        

"ห๊ะ! อะไรน่ะครับ พี่เรย์มีเมีย แม่พูดจริงเหรอครับ"

ในขณะเดียวกันนั้น

"ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย" เรย์วาติจามติดต่อกันสองครั่งจนคนที่กำลังล่องลอยอยู่ในภวังค์หันมาสนใจ                         

"จอดตรงนี้แหละเดี๋ยวฉันเดินเข้าไปเอง" หญิงสาวบอกชายหนุ่มเมื่อเขาขับรถมาส่งถึงหน้าซอยทางเข้าหอพักของเธอแล้ว                         

"โอเค งั้นผมส่งแค่นี้นะ"                              

"เดี๋ยว" เมื่อขาเล็กกำลังจะก้าวลงรถแต่กลับถูกแขนแกร่งดึงเอาไว้ก่อน

"พรุ่งนี้ตอนเย็นผมจะมารับนะ" เขาว่าพร้อมขยิบตาใส่หล่อน ทำให้เขมนราอยากจะจับเขามาชกหน้าเสียให้เข็ด                         

"ค่ะ"

หล่อนว่าพร้อมเดินลงรถมาด้วยจิตใจอันแสนล่องลอยกับข้อเสนอที่ชายหนุ่มบอกมา แม่ของเขาจะปากร้ายใจดำขนาดไหนกันเชียว หนึ่งเดือนแลกกับเงินสามแสน เงินสามแสนเท่ากับความสุขของแม่ ทำไงดีเขมนรา! เธอมีเวลาคิดแค่คืนเดียว คือคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้เขาจะมาเอาคำตอบนี่นะ! บ้าไปแล้ว....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel