3. มาเฟียหลงยุค
หลงจวิ้นตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันเสียงดังอยู่ข้างเตียงนอนไม่หยุดเสียที หลงจวิ้นเลยแกล้งนอนฟังจนเสียงเงียบไป แต่พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่ามีเด็กสาวหน้าตาน่ารักนั่งมองอยู่
" เธอเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหนกัน ทำไมฉันถึงใส่เสื้อผ้าแบบนี้ "
" คุณชายเจ้าค่ะ ที่นี่ก็เรือนของคุณชายอย่างไรล่ะเจ้าค่ะ จะเป็นที่ใดได้กัน ตกน้ำจนจำอะไรไม่ได้เลยหรือเจ้าค่ะ "
ฮุ่ยหรานเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นเคย หลงจวิ้นที่อยู่ในร่างของคุณชายเหยียนจวิ้น จ้องมองหน้าคนตัวเล็กที่กำลังจะป้อนยาตัวเองอย่างพอใจ
" เธอเป็นใคร ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ "
แม้จะรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของอีกคนอยู่บ้าง แต่ฮุ่ยหรานก็ยังพยายามทำหน้าที่ของตนต่อไป
" คุณชายดื่มยาก่อนเถอะเจ้าค่ะ หลังจากนั้นท่านสงสัยอันใดข้าน้อยจะบอกทุกอย่าง "
" ฉันจำได้ว่าอยู่บนเรือแล้วถูกเรือเหวี่ยงตกน้ำ แต่ที่นี่ที่ไหนกันมีคนช่วยฉันขึ้นมาอย่างนั้นใช่ไหม แล้วตำรวจล่ะ"
หลงจวิ้นพูดกับตัวเองแล้วหันไปถามคนตัวเล็กตรงหน้า
" ข้าน้อยจะเล่าเรื่องราวให้คุณชายฟัง แต่คุณชายดื่มยาก่อนนะเจ้าค่ะ "
ฮุ่ยหรานเป่ายาก่อนที่จะตักยาป้อนคนตัวโตที่นั่งอยู่บนเตียง หลงจวิ้นมองเสื้อผ้าที่ตนใส่อยู่เช่นนั้น เมื่อเห็นมือของตนก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
" ทำไมมือฉันถึงดูแห้งเหี่ยวแบบนี้ล่ะ ทำไมถึงไม่ค่อยมีแรงดูเหมือนคนป่วยแบบนี้ หรือเป็นเพราะอยู่ในน้ำนาน "
หลงจวิ้นลูบแก้มของตัวเองก็ยิ่งตกใจกว่าเดิม
" นี่เธอมีกระจกไหม ฉันขอกระจกหน่อยสิ "
ฮุ่ยหรานเดินไปหยิบกระจกให้คนตัวโต หลงจวิ้นรับกระจกมาส่อง ก็ตกใจทิ้งกระจกลงทันที
" นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับฉันไอเด็กหนุ่มนี้เป็นใคร ทำไมฉันถึงมาอยู่ในร่างนี้ มันเรื่องบ้าอะไรกัน"
หลงจวิ้นเอะอะโว้ยวายขึ้นทันทีตามนิสัย ทำให้จงฟานที่อยู่ด้านนอกรีบเข้ามา
" คุณชายฟื้นแล้วดีจริงๆ "
" ไอนี่ใครอีก มันอะไรกันว่ะเนี้ยะ หรือว่ากองถ่ายช่วยเราขึ้นมาก็เลยแต่งหน้าให้เราเข้าฉาก แต่แต่งเก่งชิ..หาย ถึงจะดูป่วยแต่ก็ยังดูวัยรุ่นอยู่ ใช่ต้องใช่แน่ๆ ต้องหาทางหนีจากที่นี่ ก่อนที่คนพวกนี้จะรู้ว่าเราเป็นใครแล้วแจ้งตำรวจ"
ในขณะที่กำลังคิดหาวิธีหนีอยู่ก็ถูกคนตัวเล็กฝังเข็มที่คอก่อนที่จะหลับไปอีกครั้ง จงฟานตกใจที่จู่ๆนายน้อยของตนก็หลับไป
" ฮุ่ยหรานเจ้าทำอะไรคุณชาย "
" ข้าแค่ฝังเข็มให้คุณชายเท่านั้น ไม่เช่นนั้นคงจะทำร้ายตัวเองอีกเป็นแน่ ให้คุณชายพักผ่อนให้มาก คุณชายจะได้หายเร็วขึ้น พี่ก็ดูแลคุณชายด้วยก็แล้วกัน ตอนเช้าข้าจะเอายามาให้คุณชายใหม่ ข้าไปล่ะ "
ฮุ่ยหรานเดินออกจากห้องของคุณชายไปพร้อมกับปิดประตูลง ฮุ่ยหรานกลับห้องของตนไป ก็พบกับผู้เป็นตาที่นั่งอยู่ที่ห้องรอฮุ่ยหรานกลับมา
" ท่านตามีอะไรกับฮุ่ยหรานหรือเจ้าค่ะ "
" เจ้าก็รู้อยู่แล้วยังจะมาถามตาอีก "
" ข้าก็อยากให้ท่านตาถามนี่เจ้าค่ะ จะได้รู้ว่าเป็นอย่างที่หลานคิดหรือไม่ "
" เจ้านี่นะ ก็ได้ตาถามเจ้าก็ได้ เจ้าอยากจะแต่งงานกับคุณชายหรือไม่ "
" ข้าจะแต่งเจ้าค่ะ แต่ข้าจะขออยู่ในฐานะภรรยาของคุณชายเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นจะขอให้คุณชายเขียนจดหมายหย่าให้ข้า ท่านตาช่วยบอกกับท่านแม่ทัพด้วยนะเจ้าค่ะ "
" ได้เจ้าคิดว่าสามเดือนนี้คุณชายจะดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่ ตาจะบอกท่านแม่ทัพให้เจ้าเอง เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่ที่จะยอมเป็นหม้าย หากคุณชายเขียนจดหมายหย่าให้เจ้าแล้ว "
" เจ้าค่ะ ท่านตาอย่าได้กังวลเลยเจ้าค่ะ "
เมื่อตาหลานพูดคุยกันเข้าใจแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ฮุ่ยหรานเดินมานั่งที่เตียง คิดถึงเรื่องราวและคำพูดประหลาด ของคนที่ตนกำลังจะแต่งงานด้วย
" ชีวิตหลังจากนี้มันไม่ง่ายหรอกนะฮุ่ยหราน "
ฮุ่ยหรานเอ่ยจบก็เดินไปอาบน้ำ ก่อนที่จะกลับออกมาหลังจากนั้นด้วยชุดนอน ฮุ่ยหรานดับเทียนก่อนที่จะเอนตัวลงนอน
เช้าของอีกวันหลงจวิ้นตื่นขึ้นมาในร่างของเหยียนจวิ้นเช่นเคย แต่เพราะได้พักอย่างเต็มที่จึงทำให้มีแรงขึ้นมาบ้าง จึงเดินไปหยิบกระจกขึ้นมาดูอีกครั้ง
" อะไรกันว่ะ ทำไมถึงยังเป็นเด็กคนนี้อยู่อีก แล้วที่นี่มันที่ไหนกันแน่ ถ้าเป็นกองถ่ายจริงจะปล่อยให้เรานอนที่นี่ถึงเช้าเลยเหรอ หรือว่าจะรอตำรวจมาจับเรา ใช่ว่าจะไม่มีใครรู้จักเราเสียเมื่อไหร่ ออกจะเป็นคนดังคนหล่อขนาดนี้ "
หลงจวิ้นพูดเบาๆกับตัวเอง ก่อนที่จะค่อยๆแง้มประตูออกมา ภาพด้านนอกที่มาเฟียหนุ่มเห็นก็คือ หญิงสาวที่แต่งตัวเหมือนกันเดินไปมาถือพานอาหารบ้าง เช็ดทำความสะอาดตามที่ต่างๆบ้าง พร้อมทั้งชายหนุ่มและวัยกลางคนที่อยู่ในสวน
" หื้อ คนพวกนี้ทำไมแต่งตัวแบบนี้กัน แล้วไม่เห็นมีกล้องสักตัว ถ่ายกันยังไง หรือว่าใช้โดรน "
เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็แหงนหน้ามองฟ้าทันที เพื่อหาสิ่งที่ตนคิด ทำให้บ่าวในจวนแม่ทัพ ต่างก็แหงนหน้ามองตาม
" ข้างบนมีอะไรหรือขอรับคุณชาย "
จงฟานเอ่ยถามผู้เป็นนายที่ตนดูแลมาแต่เด็กทันที หลงจวิ้นตกใจที่จู่ๆก็มีคนชะโงกหน้ามาพูดอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะทำทีเป็นนิ่ง
" ฉันก็แค่อยากดูให้แน่ว่าใช้โดรนแบบไหนถ่ายซีรีย์ "
" ดะ โดน โดนอะไรหรือขอรับ แล้วอะไร ซีรีย์ คุณชายจะถ่ายหนักหรือขอรับ ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยจะพาไปขอรับ "
จงฟานถามออกไปเพราะความไม่รู้ จนคนที่พูดออกมาเมื่อกี้ถึงกับเกาหัว ก่อนที่จะตั้งท่าเดินออกไปทางประตู
" คุณชายจะไปไหนขอรับ นายท่านไม่ให้คุณชายออกไปไหนขอรับ "
" หมายความว่าไงไม่ให้ฉันออกไปไหน ถ้าอยู่ตำรวจก็มาจับฉันนะสิ ใครจะอยู่ให้โง่ "
หลงจวิ้นคิดว่าตนนั้นคงจะถูกจับแต่งหน้า จนกลายเป็นเด็กหนุ่มแต่ดูป่วยแบบนี้ ถ้าไม่รีบอาศัยช่วงนี้หนีไปก็อาจจะถูกจับได้ก่อน แต่จงฟานก็ตามติดและไม่ยอมให้ออกไปข้างนอก จนฮุ่ยหรานเดินมาแล้วเอ่ยบอกกับจงฟาน
" พี่จงฟานปล่อยให้คุณชายออกไปเถอะ ข้าจะไปด้วยคุณชายไม่ไปไหนหรอก คุณชายคงอยากออกไปเดินเล่นบ้าง "
ฮุ่ยหรายเดินมาหยุดข้างคนตัวโต ก่อนที่จะจูงมืออีกคนเดินออกจากประตูจวน ภาพที่หลงจวิ้นเห็นก็คือบ้านเรือนที่มีลักษณะเดียวกัน นั้นก็คือบ้านเรือนในแบบสมัยโบราณ ไม่มีตึกไม่มีรถ มีเพียงรถม้าที่มีคนบังคับและคนที่ขี่ม้าเท่านั้น
" คุณชายอยากออกไปไกลแค่ไหนเจ้าค่ะ จะได้ให้คนเตรียมรถม้าหากอยากออกไปไกลกว่านี้ "
" รถม้าเหรอ เธออำฉันเล่นใช่ไหม ฉันอยากได้รถฉันมีเงินจากธนาคารสวิส ฉันสั่งลูกน้องโอนเงินให้เธอได้ แค่เธอพาฉันหนีก็พอ "
หลงจวิ้นหันมายิ้มให้กับเด็กสาวที่ยืนข้างๆ ฮุ่ยหรานยิ้มให้กับคนตัวโตก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
" มีเพียงรถม้าเจ้าค่ะ ถ้าคุณชายอยากไปนอกเมืองข้าน้อยจะพาไปเจ้าค่ะ คุณชายจะได้เห็นว่าเมืองหลวงเป็นเช่นใด "
" หึ รถม้าก็รถม้าว่ะ เด็กนี้ก็พูดง่ายดีแฮะ ถ้าไม่ติดว่าต้องหนีอยู่ละก็ พ่อจะจับกดสักที "
หลงจวิ้นพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับสายตาร้ายมองเด็กสาวที่เดินไปสั่งคนให้เตรียมรถม้า
เมื่อรถม้าเคลื่อนออกจากจวนพร้อมกับจงฟานและคนติดตามอีก 2 คนที่ขี่ม้าขนาบข้าง หลงจวิ้นไม่ได้กังวลกับคนติดตามเพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่เริ่มกังวลก็คือ
" อะไรว่ะ ตั้งแต่ออกจากบ้านหลังนั้นมา ยังไม่เห็นอะไรที่มันสื่อถึงเทคโนโลยีอะไรเลยสักอย่าง การแต่งตัวการใช้ชีวิต ทำไมถึงดูสมจริงขนาดนี้ ไม่มีใครพกโทรศัพท์เลยหรือไง "
หลงจวิ้นพูดสิ่งที่ตนคิดออกมาเสียงดัง พอให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ได้ยินเช่นกัน แต่ฮุ่ยหรานกลับนั่งนิ่งไม่พูดตอบกลับอะไรออกไป
" นี่เธอนั้นคือกำแพงเมืองที่ว่าใช่ไหม "