2.คุณชายเหยียนจวิ้น
ก่อนที่จะก้มลงเปาลมเข้าไปที่ปากของคุณชาย จนผู้คนที่ยืนดูอยู่ต่างก็ตกใจกับการกระทำนี้ ฮุ่ยหรานทำอยู่เช่นนั้นหลายครั้ง
" นี่ดูสิ ท่านพี่ทำไมถึงปล่อยให้เด็กนั้นทำเช่นนี้กับคุณชายได้เจ้าค่ะน่าอายจริงๆ "
" ถ้าทำแล้วเหยียนจวิ้นฟื้นคืนมาได้ ข้าก็ไม่เห็นว่ามันจะน่าอายอะไรเลย หรือเจ้าอยากให้เหยียนจวิ้นตาย "
มารดาคุณชายเหยียนเอ่ยขึ้น ทำให้ฮูหยินรองจำต้องเงียบไป ไม่นานคุณชายที่หมดลมหายใจไปแล้วก็สำลักน้ำออกมา ทุกคนในจวนต่างก็ทั้งดีใจและบางคนก็ไม่ได้ยินดีที่เห็นเช่นนั้น
" เกิดอะไรขึ้นกัน พวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่ไม่มีสิ่งใดต้องทำกันหรือยังไง "
เสียงของผู้นำจวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ที่มีรูปร่างองอาจ สง่างามสมเป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้น ที่มาพร้อมกับบุตรชายอีกสองคนที่ยืนขนาบข้าง และมีความสง่างามและใบหน้าที่รูปงามไม่ต่างจากบิดา
" ท่านพี่เหยียนจวิ้นตกน้ำเจ้าค่ะ พึ่งช่วยขึ้นมาได้ ลูกไม่หายใจแล้วแต่ฮุ่ยหรานช่วยไว้ เลยฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง "
" ท่านพี่ข้ารู้สึกว่าฮูหยินจะเอ่ยไม่หมดนะเจ้าค่ะ เพราะอันที่จริงคุณชายกระโดดน้ำเพื่อจบชีวิตของตนต่างหาก "
ฮูหยินรองรีบเอ่ยขึ้นทันที ทำให้แม่ทัพหันไปหาฮูหยินตนอีกคนทันที ฮูหยินหลิวมองหน้าผู้เป็นสามี ภายในใจก็อดกังวลไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าสามีตนนั้นมิได้ใส่ใจบุตรชายคนนี้มากนัก
" ท่านพี่ เหยียนจวิ้นแค่คิดมากเรื่องที่เจ็บป่วยเท่านั้น เลยทำให้ลูกคิดทำเช่นนี้ไป เป็นข้าที่อบรมลูกไม่ดีพอ "
" หึ คงจะเป็นเช่นนั้นจริงนั้นแหละ หากเพียงแค่นี้ก็คิดอยากจะตาย ก็อย่าเกิดมาในสกุลซื่อเลย "
แม่ทัพซื่อหม่าอันเดินหนีกลับห้องไปเมื่อเห็นว่าบุตรชายคนเล็กถูกคนพากลับห้องไปแล้ว ฮูหยินหลิวรีบเดินตามร่างที่ยังไม่ได้สติของบุตรชายไป
" ฮุ่ยหรานขอบใจเจ้ามากนะที่ช่วยให้คุณชายฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่วิธีของเจ้าคงทำให้เจ้าต้องกลายเป็นหญิงที่ไร้ยางอาย แต่ข้าจะหาทางไม่ให้เจ้าต้องเป็นเช่นนั้นเจ้าอย่าได้กังวลไป "
ฮูหยินหลิวเอ่ยกับเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างผู้เป็นตา ที่กำลังตรวจชีพจรคนที่ไม่ได้สติบนเตียง
" ฮูหยินอย่าได้กังวลเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยกับท่านตายินดีเจ้าค่ะ แค่เพียงคุณชายกลับมาหายใจได้อีกครั้งก็ดีแล้วเจ้าค่ะ "
ฮุ่ยหรานเอ่ยขึ้นพร้อมใบหน้าที่มีรอยยิ้มตามนิสัยของตน ที่มักยิ้มเสมอยามที่พูดคุยกับคนที่โตกว่า จนเป็นที่เอ็นดูของผู้พบเห็น ด้วยรอยยิ้มที่สดใสและร่าเริง
" ท่านแม่เหยียนจวิ้นเป็นอย่างไรบ้าง "
รองแม่ทัพซื่อหยางจวิ้นเอ่ยถามมารดาถึงอาการของผู้เป็นน้องตน
" ท่านหมอบอกว่าอีกไม่นานก็คงฟื้น วันนี้เจ้าคงเหนื่อยมากสินะ เห็นว่ามีฝึกใหญ่ที่ค่ายด้วย "
" ไม่หรอกท่านแม่ ท่านก็ควรจะดูแลตัวเองให้มาก "
หยางจวิ้นเอ่ยกับมารดา ก่อนจะหันไปมองเด็กสาวที่นั่งอยู่ไม่ไกล
" เจ้าหรือที่ช่วยเหยียนจวิ้นให้ฟื้นขึ้นมาได้ ขอบใจเจ้ามากนะ แต่นั้นคงเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าต้องติดอยู่กับเหยียนจวิ้ตลอดไปแล้วล่ะ "
" เหตุใดเจ้าถึงพูดเช่นนี้หยางจวิ้น "
ฮูหยินหันไปเอ่ยกับบุตรชายคนโตของตน
" ท่านพ่อมีคำสั่งว่าหากเหยียนจวิ้นหายดีก็ให้แต่งงานกับเด็กสาวผู้นี้ พร้อมกับย้ายไปอยู่ที่เรือนนอกเมืองขอรับท่านแม่ "
" อะ อะไรนะเหตุใดท่านพี่ถึงใจร้ายกับเหยียนจวิ้นเช่นนี้ "
ฮูหยินทรุดลงกับพื้นทันที อาการป่วยเรื้อรังของบุตรชายคนเล็กก็ไม่หายเสียที ซ้ำยังถูกไล่ให้ออกไปอยู่นอกเมืองอีก
" พ่อเจ้าคงอยากเห็นเหยียนจวิ้นตายไปจริงๆสินะ "
" ท่านแม่อย่าได้เอ่ยเช่นนั้นเลย ท่านพ่อเองก็เป็นห่วงน้องไม่น้อยเช่นกัน แต่ก็ต้องนึกถึงสกุลของเรามากกว่า ตอนนี้อำนาจในราชสำนักก็อยู่ทางฝั่งสกุลหวังส่วนมาก ฝ่าบาททรงแคลงใจในตัวท่านพ่อ เพราะคำยั่วยุของเสนาซ้าย หากผู้คนกล่าวขานถึงเรื่องนี้อีก สกุลของเราคงจะลำบากเป็นแน่ "
" หมายความว่ายังไงกัน ท่านพ่อเจ้าเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของแคว้น เหตุใดเจ้าถึงกล่าวเช่นนั้นกัน ฝ่าบาทแคลงใจอันใดในตัวพ่อเจ้า "
ฮูหยินหลิวเอ่ยถามบุตรชาย ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง
" เพราะตอนนี้สกุลหวังกำลังหาทางกำจัดข้าอยู่นะสิ หากเรื่องของบุตรชายคนเล็กคิดฆ่าตัวตายเผยแพร่ออกไป เจ้าคิดว่าคนภายนอกจะมองว่าอย่างไรกัน แค่ล้มป่วยเช่นนี้ก็คิดว่าเป็นเพศภัยต่อคนในจวนแล้ว เจ้าคิดว่าข้าอยากให้ลูกออกไปอยู่ไกลหูไกลตาเช่นนั้นหรือ "
" แต่ท่านพี่ก็สั่งให้ลูกออกไปอยู่นอกเมืองแล้วนี่เจ้าค่ะ "
ฮูหยินเอ่ยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย
" ข้าคิดว่าท่านหมอคงจะทำให้เหยียนจวิ้นหายและแข็งแรงขึ้น ท่านว่ายังไงท่านหมอ "
" ข้าน้อยจะทำให้เต็มที่ขอรับ โรคที่คุณชายเป็นไม่ได้ร้ายแรงอะไร เพียงแต่คุณชายเองที่ไม่ยอมรักษาปล่อยให้ตนมีชีวิตเช่นนี้ขอรับ "
" เช่นนั้นข้าก็ฝากเจ้าด้วย แล้วก็เจ้าขอบใจที่ช่วยบุตรชายข้า แต่การช่วยของเจ้ามันผิดจารีตประเพณีเจ้าเองก็คงรู้ดีใช่หรือไม่ "
คนที่ทรงอำนาจเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แต่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่กลับไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวแม้แต่น้อย ก่อนที่จะเอ่ยตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่ส่งให้แม่ทัพใหญ่
" เจ้าค่ะ แต่สิ่งที่ข้าน้อยทำก็เพียงหวังให้คุณชายฟื้นขึ้นมาเท่านั้นเจ้าค่ะ ไม่ได้คิดเป็นอื่นเลยแม้แต่น้อย "
แม่ทัพซื่อมองเด็กสาวที่นั่งนิ่ง โดยไม่หลบสายตาตนเลยแม้แต่น้อย มีเพียงรอยยิ้มที่บ่งบอกความใสซื่อของเด็กคนนี้ ว่าสิ่งที่พูดออกมาคือความจริง
" ถึงเจ้าจะพูดเช่นนั้นเจ้าก็ต้องแต่งงานกับบุตรชายข้า รอให้บุตรชายข้าฟื้นและดีขึ้น ข้าจะให้จัดงานหลังจากนั้น ท่านหมอท่านว่าอย่างไร "
หมอเทวดาที่ผู้คนเรียกขาน เป็นหมอสมุนไพรที่เก่งเรื่องรักษาและฝังเข็มเอ่ยตอบออกไป
" ข้าน้อยก็คงแล้วแต่หลานสาวข้าน้อยขอรับ ข้าน้อยไม่อยากบังคับ เพราะมีกันแค่ตาหลานเท่านั้น "
หมอเทวดาเอ่ยบอกออกไปพร้อมกับหันไปมองหลานสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
" ข้าน้อยคิดว่ารอถามคุณชายก่อนเถอะนะเจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา หากจะเข้ามาอยู่ในสกุลที่ใหญ่โตเช่นนี้อาจจะทำให้สกุลท่านแม่ทัพขายหน้าเอาได้ "
" เจ้านี่ชั่งเป็นเด็กที่ชั่งพูดชั่งคิดดีจริงๆ นี่ยังไม่ร่วมถึงการช่วยเหลือบุตรชายข้า ที่ผิดวิสัยของคนทั่วไปจะทำอีกต่างหาก เช่นนี้แล้วเจ้ายังบอกว่าไม่คู่ควรกับบุตรชายขี้โรคของข้าอีกหรือ หากเจ้านี่ไม่ยอมรักษาตัวให้หายอีก ก็คงไม่พ้นความตายเป็นแน่ ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะได้ทรัพย์สินจากข้า ที่จะยกให้เจ้าไปตั้งตัว มีแต่จะได้กับได้เจ้าไม่ต้องการหรือ "
แม่ทัพซื่อเอ่ยออกไป จนทำให้ฮูหยินรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของผู้เป็นสามี
" ท่านพี่เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้กับลูกเจ้าค่ะ "
" เจ้าก็ต้องหัดยอมรับความจริงเสียบ้างนะฮูหยิน บุตรชายเจ้าอยู่มาจนถึงป่านนี้ได้ก็นับว่าดีนักหนาแล้ว นี่ยังมาคิดฆ่าตัวตายอีก เช่นนี้แล้วเจ้ายังคิดว่าบุตรชายเจ้าจะอยู่ได้อีกนานเพียงใดกัน "
ฮูหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เงียบไป ฮุ่ยหรานเมื่อได้ยินเช่นนั้น จึงหันไปมองคนที่หลับอยูบนเตียง
เมื่อพูดคุยกันเข้าใจแล้วทุกคนก็ออกจากห้องไป เหลือเพียงฮุ่ยหรานที่นั่งอยู่คนเดียว
" คุณชายตื่นแล้วก็ดื่มยาเสียหน่อยเถอะเจ้าค่ะ "
" เธอเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหนกัน ทำไมฉันถึงใส่เสื้อผ้าแบบนี้ "