บท
ตั้งค่า

บทที่ ๕ หมัดหนัก

“บังเอิญล้มลงไปจูบปากพ่ออเล็กซ์พอดีเหมือนในบทละครแบบนั้นเหรอลูก” ทองขาวเอ่ยแทรกความลูกสาวโดยไม่สนใจว่าสมปองจะพูดจบประโยคหรือไม่

“ครับ” อเล็กซ์ยืนยันอีกคน เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าก่อนหน้านี้สมปองพยายามฉุดดึงเขาให้ลุกขึ้นนั่งและปลุกให้ตื่น เขารู้สึกตัวตลอดเวลา เพียงแต่เขาไม่อยากลุกขึ้นเพราะเขาปวดร้าวไปทั้งตัวตอนนี้ ปวดทั้งแขนทั้งตัวจนอยากจะนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงเฉยๆ

“ใช่จ้ะพ่อ แบบในบทละครเลยจ้ะ”

“งั้นรีบให้พ่ออเล็กซ์กินข้าวกินยาแล้วรอดูอาการ หากว่าสายๆ ไม่ดีขึ้นพ่อกับแม่จะได้พาพ่อหนุ่มเขาไปโรงพยาบาล” ทองขาวบอกลูกสาว

“จ้ะพ่อ แล้วเรื่องนี้อย่าไปพูดที่ไหนนะจ๊ะพ่อทองขาว ลูกแค่ล้มลงไปจูบเขาเอง แค่ปากแตะปากแบบไม่ตั้งใจเอง” เธอบอกกำชับพ่อเพื่อไม่ให้ไปพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง ก็เธออายที่ต้องให้คนอื่นรู้ มีอย่างที่ไหนมาล้มลงไปจูบคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน

ทองขาวพยักหน้ารับคำลูกสาวอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักของอเล็กซ์และปิดประตูห้องให้เรียบร้อย และเมื่อในห้องเหลือเพียงเจ้าของห้องกับเจ้าของโฮมสเตย์สาวเพียงลำพัง อเล็กซ์จ้องมองริมฝีปากนุ่มที่ประกบกับริมฝีปากหนาของตนแล้วก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” เขาเอ่ยขอบคุณคนตัวเล็กพร้อมขยับตัวนั่งให้สบายกว่าเดิม

“ไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอกค่ะ มันจำเป็น ก็ในเมื่อคุณมาอยู่กับเรา เราก็ต้องดูแลคุณ กินข้าวกินยาก่อนนะคะ แล้วตอนนี้ตัวร้อนอยู่ไหมคะ” มือเล็กยกขึ้นอังหน้าผากของชายหนุ่มพร้อมมืออีกข้างอังหน้าผากของตัวเอง

“ไข้คุณลดแล้ว สงสัยลดเพราะฉันเช็ดตัวให้เมื่อเช้านี้แน่เลยค่ะ”

เธอทำไปโดยอัตโนมัติจนลืมไปว่ามันไม่เหมาะสม ก็เธอเป็นผู้หญิง แถมมาอยู่ในห้องกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันสองต่อสองในห้องที่ลับตาคนด้วย แต่เรื่องอะไรสมปองจะสนใจ ก็เธอนั้นเป็นผู้หญิงห้าวออกแนวแมนๆ เสียด้วยซ้ำ

“ยิ้มอะไรคุณ” เธอถามเขาทั้งๆ ที่ยังเอามือแตะหน้าผากของชายหนุ่ม แล้วก็ต้องชักสีหน้าไม่พอใจเมื่ออเล็กซ์เอาแต่ยิ้มจ้องหน้าตนไม่ยอมพูดตอบอะไร

อเล็กซ์ไม่ตอบ แต่เขาดึงมือเล็กที่แตะอังหน้าผากของตัวเองออกมากุมไว้แน่น นั่นแหละสมปองถึงรู้ว่าเขายิ้มอะไร แล้วใบหน้าของสาวห้าวก็แดงซ่าน สองแก้มเปล่งปลั่งชมพูระเรื่อ

“บ้า! ปล่อยนะ” เธอชักมือดึงกลับมาไว้กับตัวเองแล้วบิดตัวม้วนเขินไปมา สำหรับคนมองแล้วช่างเป็นภาพที่น่าเอ็นดูเหลือเกิน

หึหึ

เขาขำในลำคอก่อนจะเอ่ย

“ว่าแต่ผมกินข้าวได้รึยังครับ” เขาถามคนเขินอาย ยิ่งมองยิ่งน่าเอ็นดู

“ก็กินสิคุณ กินแล้วก็กินยาด้วยนะ ฉันจะกลับไปช่วยแม่ดูแลแขกคนอื่นแล้ว เดี๋ยวช่วยแม่สมศรีเสร็จจะมาดูว่าไข้ลดหรือไม่ลด” เธอสลัดความอายบอกเขาและลุกขึ้นพร้อมยกถาดอาหารที่เตรียมมาและมียาในถาดอาหารส่งยื่นให้คนป่วย

“ขอบคุณครับ”

“มันเป็นหน้าที่ค่ะ” เธอบอกแล้วก็รีบเปิดประตูห้องออกไปทันที หากอยู่นานกว่านี้ได้ทำตัวไม่ถูกแน่เลย

อเล็กซ์มองคนตัวเล็กออกจากห้องไปจนลับตาแล้วก็มองถาดอาหารที่วางบนตักของตัวเอง มีถ้วยข้าวต้มกับยาข้างๆ ถ้วย และมีแก้วน้ำดื่มมาด้วย เขายิ้มให้กับสิ่งที่วางอยู่บนตักก่อนจะเริ่มลงมือทานทีละคำสองคำ แต่ด้วยที่ป่วยทำให้ทานอะไรก็ไม่อร่อย เขาทานได้ไม่เยอะก่อนจะอิ่มแล้วทานยาที่สมปองเตรียมมาให้ นำถาดอาหารไปวางไว้ที่โต๊ะทานข้าวที่ยังมีถาดอาหารของเมื่อวานวางไว้อยู่ เขายิ้มให้ถาดอาหารทั้งสองถาดแล้วเดินกลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยสภาพไม่เต็มร้อย

กว่าจะหายป่วยเป็นไข้ก็กินเวลาไปหนึ่งอาทิตย์ ร่างกายของอเล็กซ์ปรับตัวไม่ทันทำให้ร่างกายอ่อนแอ หายป่วยแต่ก็ยังมีอาการหน้ามืดไม่หาย ทำให้การซ้อมมวยเรียนมวยไทยของเขาต้องหยุดชะงักไป และวันนี้ร่างกายของเขาก็กลับมาแข็งแรงดี ครูทองขาวให้อเล็กซ์ซ้อมออกหมัด โดยมีคู่ซ้อมเป็นสมปองคนเดิม ก็ได้เป็นคู่หูกันแต่แรกแล้วทองขาวเลยให้สมปองมาเป็นคู่ซ้อมอเล็กซ์

สมปองเป็นคนหลบเมื่ออเล็กซ์ออกหมัดตรง หมัดตัด หมัดตวัดเข้าใส่ เธอหูตารวดเร็วหลบหลีกได้ทุกครั้งเมื่อคนตัวโตออกหมัด ทองขาวร้องเชียร์ทุกครั้งเมื่ออเล็กซ์ทำตาม เมื่อเห็นว่าการออกหมัดเหวี่ยงหมัดของหนุ่มต่างชาตินั้นไปได้ดีจึงให้ฝึกซ้อมกับลูกสาวตัวเองตามลำพัง ส่วนตัวเขาจะพานักมวยในค่ายไปคัดตัวเข้าแข่งขันชกมวยในงานของจังหวัดที่จะจัดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า

“พักก่อนดีกว่าคุณ ฉันไม่ไหวแล้ว” สมปองยกมือห้ามก่อนที่คนตัวโตจะออกหมัดมายังตน แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อการออกหมัดอย่างรวดเร็วของอเล็กซ์นั้นรวดเร็วเหลือเกิน ทำให้หมัดหนักๆ ของคนตัวโตกระแทกเข้าแก้มนวลทันที

โอ๊ย!

ร่างเล็กร่วงลงกับพื้นทันทีเมื่อหมัดหนักๆ กระแทกเข้าแก้มนวล อเล็กซ์ชักมือกลับแล้วถลาเข้าไปหาคนที่ร่วงเพราะหมัดของตนทันที

“ผมขอโทษ ผมห้ามมือไม่ทัน” เขาบอกพร้อมประคองสมปองให้ลุกขึ้นแล้วก็ถอดนวมออกจับแก้มนวลอย่างปลอบโยน

“อ่า! หมัดหนักเป็นบ้าเลยคุณ ปากแตกไหมเนี่ย” เธอพึมพำเสียงแผ่ว แล้วก็ลุกขึ้นยืนพร้อมปัดคนตัวโตที่ประคองตนออกห่าง และมือใหญ่ก็ถูกปัดออกจากข้างแก้มเช่นกันด้วยกลัวว่าจะมีคนในค่ายมวยมาเห็นเข้า

“ผมขอโทษ” อเล็กซ์เอ่ยอย่างสำนึกผิด

“อ่า! ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไม่ได้ตั้งใจ อีกอย่างฉันบอกคุณช้ากว่าหมัดไปนิดเดียวเอง” เธอพูดพลางลูบข้างแก้มตัวเองไปมาแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ห่างจากตรงนี้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก

“วันนี้พักก่อนนะครับ ดูท่าแล้วคุณคงไม่ไหว แก้มบวมช้ำเลย” เขาบอกและดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆ คนตัวเล็กและหมายจะจับแก้มนวล แต่ถูกมือเล็กปัดออกก่อน

“ไม่ต้องค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้”

“ให้ผมดูดีกว่านะครับ แก้มคุณช้ำเลย เดี๋ยวผมไปหาอะไรนะ เขาเรียกประคบรึเปล่า” เขาถามอย่างไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ว่าตนเองเรียกถูกไหม

“ฉันจัดการดูแลตัวเองได้ค่ะ คุณไปพักผ่อนเถอะ เพิ่งหายป่วยมาฝึกแค่นี้แหละวันนี้” สมปองยืนยันคำเดิม

“แต่ผมว่าให้ผม...”

“ไม่ต้องค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้” พูดจบก็ลุกเดินหนีทันที อเล็กซ์ไม่ตื๊อไม่ตาม เขาทำแค่เพียงนั่งมองคนตัวเล็กหายเข้าไปหลังค่ายมวยก่อนจะถอนหายใจแรงออกมาแล้วลุกเดินไปยังโฮมสเตย์ที่พักของตน เพื่อจะได้อาบน้ำชำระคราบไคลที่เหม็นออก และที่สำคัญจะได้สบายตัวด้วย

สมศรีเห็นลูกสาวเดิมกุมแก้มมาหาก็แปลกใจ พอเดินมาใกล้ก็ได้เห็นว่าแก้มนวลของลูกบวมช้ำ และที่สำคัญหน้าของเจ้าของแก้มนั้นบึ้งบอกเดาอารมณ์ตอนนี้ไม่ถูกกันเลยทีเดียว แต่ที่แน่ๆ สมปองกำลังโกรธอยู่ตอนนี้

“เป็นอะไรสมปองลูก” นางถามพลางเดินไปนั่งข้างๆ ลูกตรงโซฟารับแขกของบ้านตน

สมปองเดินขึ้นมาบนบ้านแล้วก็เดินไปทิ้งตัวลงโซฟาทันที แล้วก็ทุบขอบโซฟาด้วยความหงุดหงิด ส่วนสมศรีไม่ได้ตกใจอะไรมาก เพราะเห็นแบบนี้ประจำ สมปองมักเจ็บตัวจากการซ้อมมวยตลอด อีกอย่างการซ้อมมวยก็ผิดพลาดกันได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel