บทที่ 3
พาทิศยักไหล่เล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับ “ก็ไม่รู้สินะ หวังว่าสองคนนั้นจะเข้ากันได้ดี”
“ที่ผ่านมาน้องพิมพ์กับตาคุณเขาก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันนี่คะ แถมยังเคยเจอกันมาตั้งหลายครั้งแล้ว แค่ไม่ค่อยได้คุยกันจริงๆ จังๆ เท่านั้นเอง”
“นั่นมันก็จริง ผมไม่ได้อะไรกับนายคุณเขาหรอกนะ แต่น้องสาวผมนี่สิแก้ว รายนั้นน่ะมีเรื่องให้บ่นไม่จบไม่สิ้น จะไม่บ่นก็แต่เจ้าแพนคนเดียวเท่านั้นแหละ” ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือมระอา เพราะนี่เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้น้องสาวของเขาครองตัวเป็นโสดมาได้เนิ่นนานขนาดนี้
…ก็ผู้ชายที่ไหนจะทนฟังไหว แม่คุณเล่นบ่นได้ทั้งวี่ทั้งวันไม่หยุดไม่หย่อน!
กาบแก้วหัวเราะรวน เมื่อเห็นสีหน้าคิดไม่ตกของสามี ทั้งที่เขาเป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นมาเองแท้ๆ
“ไม่ลองก็ไม่รู้นะคะ”
“อือ ผมก็ว่าอย่างนั้น”
พิมพ์ดาวฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเธอสามารถพาตัวเองมาถึงหน้าบริษัทได้ก่อนเวลางานอย่างหวุดหวิด ถึงแม้ว่าเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นพี่รหัสสมัยมหาวิทยาลัยของเธอจะไม่ได้เขี้ยว และเคร่งครัดอะไรมากนัก แต่เธอถือว่าเวลางานก็คือเวลางาน ไม่ควรละเลยคุณค่าของเวลา จนคนทั้งบริษัทยกตำแหน่ง ‘พนักงานดีเด่น’ ให้เธอด้วยความเต็มใจ
“สวัสดีค่ะพี่พิมพ์” พลอยรุ้งที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองพูดขึ้น เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา
“พี่เพชรยังไม่มาเหรอ”
“ยังค่ะ สงสัยอยู่ร้านคุณน่าน”
น้องเล็กสุดของแก๊งพูดถึงร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ด้วยสีหน้ารู้กัน เพราะเพชรพราวมักจะแวะไปดื่มลาเต้กับเค้กวานิลาของโปรดก่อนเข้าบริษัทเสมอ
“แล้วยัยพัดล่ะ”
“ไม่รู้สิคะ แต่ปกติพี่พัดก็มาสายตลอดอยู่แล้วนี่”
“เออ… ก็จริง”
พิมพ์ดาวรับคำกลั้วหัวเราะ และเริ่มลงมือเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอ เพื่อเขียนแบบต่อให้เสร็จ เพราะต้องแบบงานไปนำเสนอลูกค้าในบ่ายวันนี้
ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือทำงานอย่างที่ใจคิด คู่สนทนาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้เธอ แล้วกระซิบกระซาบถามถึงความลับของทั้งคู่ราวกับกลัวว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า
“วันนี้พี่พิมพ์ใส่บาตรให้เจ้ากรรมนายเวรครบสามเดือนแล้วใช่ไหมคะ”
“ครบแล้วสิ แต่ยังไม่เห็นเจอเนื้อคู่อย่างที่อาจารย์ท่านว่าเลย พลอยแน่ใจนะว่าหมอดูคนนี้แม่นจริงๆ น่ะ ไม่ใช่หลอกให้พี่ไปเสียเงินดูดวงตั้งห้าร้อยนะยะ ไม่งั้นจะโดนมะเหงก” พิมพ์ดาวคาดโทษติดตลก พร้อมกับยกมือขึ้นมาทำท่าทางประกอบใส่รุ่นน้องคนสนิท
แล้วหยุดไว้กลางอากาศ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านั่งหลับหูหลับตาเตรียมตัวรออยู่ก่อนแล้ว
“แล้วเรื่องของพลอยกับหมอวินล่ะ เป็นยังไงบ้าง มีอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่า มัวแต่โอ้เอ้ระวังจะ ‘นก’ นะ”
เธอถามกลับบ้าง โดยไม่ลืมที่จะเน้นคำว่า ‘นก’ ในประโยคสุดท้ายๆ เพื่อแกล้งให้อีกฝ่ายหงุดหงิด
“โถ่… ให้ศีลให้พรกันแต่เช้าเลยนะคะ”
พลอยรุ้งลืมตาขึ้นมาค้อนประหลับประเหลือกใส่คนตรงหน้าที่เธอนับถือราวกับพี่สาวแท้ๆ ที่คลานตามกันมาอย่างงอนๆ ทำเอาคนขี้แกล้งหัวเราะอีกคิกคัก แล้วส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอ่ยปฏิเสธ