บทย่อ
“โอ๊ย! ตั้งใจขับรถไปเถอะคุณน่ะ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดทำตัวปีนเกลียวกับผู้ใหญ่”สาวเจ้าบ่นกระปอดกระแปดขึ้นมาอย่างสุดทน ทว่าคนถูกบ่นกลับส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างไม่สะทกสะท้าน“ปีนเกลียวอะไรกันครับ อีกไม่กี่ปีผมก็จะสามสิบอยู่แล้ว พูดอย่างกับคุณพิมพ์อายุเท่าพี่แก้วอย่างนั้นแหละ อยากแก่ก็ไม่บอก” ชายหนุ่มบอกกลั้วหัวเราะ ทว่าคนฟังกลับส่งค้อนไปให้เขาอีกยกอย่างมีน้ำโห“ก็เอาเป็นว่า ‘ฉัน’ อายุมากกว่าคุณก็แล้วกัน” พิมพ์ดาวแหวใส่ โดยพยายามหลีกเลี่ยงคำว่า ‘แก่’ อย่างสุดความสามารถ“แค่สองปีเนี่ยนะ”“ตั้งสองปีต่างหาก” หญิงสาวแย้ง“อายุเป็นเพียงตัวเลข”
บทที่ 1
~อายุ วัณโณ สุขัง พลัง~
พิมพ์ดาวประนมมือขึ้นรับศีลรับพร หลังจากที่เธอพึ่งใส่บาตรเสร็จในเช้าวันสุดท้ายตามคำทำนายของหมอดูชื่อดัง ที่เธอแอบไปดูกับพลอยรุ้งเมื่อสามเดือนก่อนด้วยสีหน้าแจ่มใสกว่าทุกวัน เพราะวันนี้แหละ เธอจะได้เจอ ‘เนื้อคู่’ กับเขาเสียที!
“โยม…”
“…”
“โยม”
“หะ!? เอ๊ย! เจ้าคะ” มัณฑนากรสาวลนลานตอบด้วยความตกใจ เนื่องจากสาวเจ้ามัวแต่ใจลอย แถมในหัวยังจินตนาการถึงรูปร่างหน้าตาของพระเอกซีรีส์เกาหลีเมื่อคืนเป็นสามีในอนาคตของตัวเองอีก
‘อ๊าย~ กงยูอปป้าวันนี้แล้วสินะคะ ที่เราจะได้เจอกัน’
“อาตมาจะบอกว่าอาตมาให้ศีลให้พรเสร็จแล้ว โยมต้องถอยออกไป เพื่อให้คนอื่นๆ เขาได้ใส่บาตรกันน่ะ”
พิมพ์ดาวรีบยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว ก่อนจะหันไปปะทะเข้ากับสายตานับสิบคู่ที่จ้องมองมายังเธออย่างคาดโทษ เพราะในช่วงเวลาเร่งรีบเช่นนี้ ทุกคนต่างก็อยากจัดการธุระให้เสร็จก่อนเวลาเข้างาน
“อุ๊ย!”
ร่างบางลุกออกไปจากบริเวณนั้น และตรงไปที่รถยนต์ของตัวเองด้วยอาการเคอะเขิน หากแต่พอก้มดูนาฬิกาข้อมือ เธอก็รีบกระชากประตูรถเก๋งสีขาวให้เปิดออกอย่างไม่ปรานี แล้วกระโจนเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับทันควัน
“ตายๆ สายแล้วเหรอเนี่ย ยังเขียนแบบให้ลูกค้าไม่เสร็จเลย โอ๊ย! จะบ้าตาย”
สาวสวยและโสดมากวัยสามสิบกะรัตเปิดปากบ่นสัพเพเหระไปตามประสา แบบที่พี่ชายของเธอมักจะล้อเลียนอยู่เสมอว่าเธอเป็น ‘มนุษย์ป้า!’ ซึ่งมันเป็นคำที่สุดแสนจะแสลงหูตั้งแต่เคยได้ยินมาเลยล่ะ
...และเมื่อไม่นานมานี้มันได้กลายเป็นคำต้องห้ามของคนในครอบครัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าหากมันกระเด็นเข้าหูพิมพ์ดาวเมื่อไหร่ เจ้าตัวจะงดการติดต่อสื่อสารกับคนพูดเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ
แน่นอนว่าทุกคนจะต้องเป็นฝ่ายง้อเธอเสียด้วย เนื่องจากสมองอันชาญฉลาดและความสามารถที่ช่วยคลี่คลายปัญหาทั้งหมดได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านจิปาถะต่างๆ ที่พี่สะใภ้ไม่มีเวลาทำ รวมไปถึงการเป็นกาวใจยามพวกเขาทะเลาะกันใหญ่โต นั่นเป็นเหตุให้ทุกคนต้องคอยพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจหญิงสาวมากเป็นพิเศษ
แถมเมื่อห้าปีมานี้ เธอยังมีหน้าที่พิเศษเพิ่มมาอีกหนึ่ง… นั่นก็คือการเป็น ‘คุณอา’ ของหลานชายตัวแสบ ที่มักจะอ้อนขอทุกสรรพสิ่ง และก็มักจะได้ตามต้องการไปเสียทุกอย่าง
จนช่วงหลังๆ พาทิศชอบหยิบยกเรื่องของลูกชายมาง้องอนน้องสาวเพียงคนเดียวอยู่เสมอ เพราะรู้ดีว่าเธอจะไม่มีทางปฏิเสธเด็ดขาด
ครืด~ ครืด~
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงกำลังสั่นแบบเอาเป็นเอาตาย ทำให้พิมพ์ดาวต้องขับรถเข้ามาจอดข้างทาง เพื่อกดรับมันด้วยอารมณ์บูดบึ้ง ต้อนรับเช้าวันใหม่ที่แสนเร่งรีบแบบนี้
“ว่าไงคะพี่พล ถ้าไม่ด่วนมากอีกครึ่งชั่วโมงค่อยโทรมานะ พิมพ์ขับรถอยู่”
(อ่า… มันก็ด่วนอยู่นะ)
“ถ้าด่วนก็รีบๆ พูดมาสิ พิมพ์รีบ ในกรุงเทพรถมันติดนะคะ เดี๋ยวไปทำงานสาย” พิมพ์ดาวตั้งท่าจะบ่น ทำให้พาทิศต้องรีบบอกเหตุผลที่เขาโทรหาเธอ จนลิ้นแทบพันกัน
(...คือพี่จะให้พิมพ์ช่วยมาอยู่ที่บ้านพี่สักหนึ่งอาทิตย์ แล้วก็ช่วยเลี้ยงเจ้าแพนให้หน่อย ตอนนี้หลานไม่สบายหนักมาก พี่กับแก้วมีงานด่วนที่ต่างจังหวัด ปฏิเสธไม่ได้ด้วยนะเนี่ย)