๓ ผลกรรมที่ก่อ (๔)
“ผมจะให้คนที่บ้านมารับ นี่เงินครับ...ไม่ต้องทอนนะ” ยื่นเงินทั้งหมดให้โดยไม่คิดจะรับเงินถอน แต่พ่อค้ากลับคว้าแขนคนรุ่นลูกเอาไว้ แล้วนำเงินถอนทั้งหมดใส่มือเขา พร้อมบอกด้วยรอยยิ้มขณะที่แววตาเศร้าสร้อย
“ให้ถอนเถอะครับ ผมไม่อยากติดหนี้ใครอีกแล้ว” พูดจบก็ไปส่งร่างสูงถึงหน้าบ้าน มองรถคันหรูที่แล่นออกไปก็ถอนหายใจ ต้นไม้ที่เฝ้าปลูกไว้มีคนรับไปดูแลแล้ว เชื่อว่าชายหนุ่มจะต้องดูแลได้ดีอย่างแน่นอน
บ้านที่เคยมีต้นไม้วางเต็มโรงเรือนขนาดเล็กกลับโล่ง เหมือนเป็นการบอกลากันอย่างไรก็ไม่ทราบ หรือบางทีเขาอาจจะต้องทบทวนเรื่องในอนาคตอีกรอบ
“จอม...มีอะไรหรือเปล่า” ลูกสาวเดินมาจากหลังบ้าน คนเป็นพ่อจึงรีบถาม
“เปล่าค่ะ ฝุ่นเข้าตา...ขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ” พยายามก้มหน้าก้มตาแล้ววิ่งเข้าบ้าน ท่านจึงทำเพียงมองตามหลังแล้วถอนหายใจ ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดไม่อาจทนอยู่แบบนี้ได้อีก ของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้
แต่ความรู้สึกของลูกสาวสุดที่รัก ถ้าแตกสลายไปแล้วก็ยากที่จะประกอบกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
“ขอโทษนะคุณ ผมคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณไม่ได้แล้ว ขอโทษจริงๆ” พูดจบก็เข้าไปในบ้านแล้วนำเครื่องเพชรที่เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีไปขายกับคนรู้จัก
ถ้าจอมชีวันทราบคงขัดค้านเป็นแน่เพราะมันคือของชิ้นเดียวที่มารดาทิ้งไว้ให้ แต่ตอนนี้ท่านไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้...อีกต่อไปแล้ว
กลับเข้ามาที่บริษัทอีกครั้งพร้อมสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก พนักงานต่างไม่มีใครกล้าสบตาเขาสักคน ชายหนุ่มมีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ แม้อายุไม่มากแต่มีความสามารถนั่งตำแหน่งนี้ มารดาก็ไว้ใจให้เขาทำงานนี้เช่นเดียวกัน จึงไม่มีฝ่ายใดคันค้านสักคน
“บ้าเอ๊ย! ข่าวมาจากไหนวะ” นั่งลงบนเบาะนุ่มพร้อมกับเลขานุการชายที่เดินตามเจ้านายเข้ามาติดๆ เขานึกคิดว่าข่าวอะไรที่สร้างความเสียหายให้หล่อนจนต้องโวยวายขนาดนั้น จึงเปิดอ่านแล้วพบว่าทุกคนพุ่งเป้าไปยังจอมชีวัน
“คุณดิศ...ไปสืบมาให้ผมว่าใครเป็นคนให้ข่าวนี้ไป ขอเร็วที่สุดยิ่งหนึ่งชั่วโมงยิ่งดี ผมไม่ชอบรอนาน” เขายื่นโทรศัพท์ไปให้คนที่รอฟังคำสั่ง รดิศค้อมศีรษะรับคำพลางตอบเสียงหนักแน่น
“ครับ” ทำตามความต้องการของเจ้านายทันที โดยต้องหาตัวการปล่อยข่าวให้เร็วที่สุด แล้วไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ได้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนมายื่นต่อหน้าเขา ใบหน้าคมแสยะยิ้มพึงพอใจ คิดไม่ผิดที่เลือกอีกฝ่ายมาเป็นมือขวา
“ว่าไง”
“คุณนิธิดาเป็นคนให้ข่าวครับ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันที เนื้อหาในข่าวค่อนข้างตรงกับความจริง จนเขาค่อนข้างสงสัยทำไมหล่อนจึงทราบเรื่องทุกอย่าง
หรือเธอให้คนตามติดเขาอย่างนั้นหรือ
“ด้าเหรอ...” เพียงแค่คิดก็โมโหหัวร้อน รีบลุกจากเก้าอี้นวมแล้วเดินออกจากห้องทันที ไม่สนใจว่าตัวเองมีงานค้างหรือเปล่า
เพราะต้องการทราบความจริงโดยเร็วที่สุด
“จัดการงานที่เหลือให้ผมด้วย ผมมีธุระด่วนต้องไป”
“ครับ” เลขานุการพอจะทราบว่าเจ้านายจะไปไหนจึงไม่ทักท้วง มองตามคนใจร้อนแล้วได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี
เพียงแค่เลขาหน้าห้องบอกหล่อนว่าแฟนหนุ่มมาหา คนที่เคร่งเครียดกับงานก็ยิ้มกว้าง ลุกจากเก้าอี้มาต้อนรับเขาด้วยอ้อมกอดโดยเฉพาะ แต่กลายเป็นว่าชายหนุ่มแกะมือของหล่อนออก พร้อมเข้าประเด็นในทันทีไม่ให้เตรียมตัว
“พี่เธียร! มาหาด้าเพราะคิดถึงเหรอคะ”
“เธอเป็นคนให้ข่าวเรื่องของจอมชีวันใช่ไหม ทำแบบนี้ต้องการอะไร” ขยับออกห่างจากเธอเล็กน้อย เขามองนิธิดาเป็นเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น หากวันหนึ่งได้แต่งงานกันเธอก็จะเป็นเพียงแค่น้องสาว ไม่มีการเลื่อนสถานะไปเป็นอย่างอื่นได้
น้ำเสียงที่ใช้ถามค่อนข้างกดดัน แววตาคมจ้องหล่อนนิ่งจนอีกฝ่ายทำตัวไม่ถูก แต่กระนั้นก็นึกน้อยใจเพราะร้อยวันพันปีเขาไม่เคยโผล่หน้ามาที่บริษัทตนสักครั้ง
แต่คราวนี้กลับมาหาเพื่อคุยเรื่องของผู้หญิงที่เป็นชู้กับแฟนชาวบ้าน!
“พี่มาเพราะเรื่องของผู้หญิงคนอื่นเหรอ...”
“ใช่” ตอบทันทีไม่ปฏิเสธ ยิ่งสุมฟืนใส่กองไฟที่โหมกระหน่ำ
“ด้าคือแฟนของพี่! ทุกคนในสังคมก็รับรู้ว่าเราเป็นแฟนกัน พี่ควรจะแคร์ความรู้สึกของด้าไม่ใช่เหรอ ทำไมพี่ถึงเอาแต่สนใจนังนั่น มันไม่มีดีอะไรเลยสักอย่าง พี่สมองกลับหรือไงถึงไปยุ่งกับคนแบบมัน รู้ไหมว่ามันขายตัวเอากับผู้ชายไม่เลือก”
โยนความจริงในความคิดของตนใส่หัวเขาทันที โวยวายเสียงดังต้องการเตือนสติและรั้งอีกฝ่ายกลับมา แม้จะเห็นแววตาแข็งกระด้างของเขา ทั้งรับรู้มาตลอดว่าสำหรับเธียรแล้ว...เธอเป็นแค่คนรักในนามเท่านั้น
แต่ทำไมเขาต้องไปรักคนที่เธอเกลียดด้วย!
“มันเรื่องของพี่ เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง แล้วถ้ายังไม่เลิกยุ่งเรื่องของฉันจะได้เห็นดีกันแน่” ขู่เสียงแข็งและเขาเอาจริงไม่ใช่ดีแค่พูด
“พี่เธียร! พี่บ้าไปแล้วหรือไง พี่รักมันเหรอ” ตะโกนเสียงดังพลางเต้นเร่าๆ ด้วยความขัดใจ ถามแทงใจดำอีกฝ่ายจนเขาชะงัก ร่างสูงไม่เคยยอมรับกับตัวเอง แล้วจะให้เขายอมรับกับคนอื่นได้อย่างไร จึงเลือกเลี่ยงบาลี
“อย่าทำเป็นรู้ดีกับความรู้สึกของคนอื่น ที่พี่ยอมคบกับเธอก็เพราะคุณแม่บังคับ ระหว่างเราไม่มีความรู้สึกเกี่ยวข้อง พี่วางเธอไว้ในฐานะแฟนแล้วก็ช่วยให้พื้นที่ส่วนตัวของพี่ด้วย แค่นั่นเธอก็น่าจะพอใจแล้วไม่ใช่เหรอ” พูดทุกอย่างออกมาเพื่อให้รับรู้ทั้งสองฝ่าย แต่เธอเองที่ไม่ยอมรับความจริง ส่ายศีรษะพลางพุ่งเข้ามากอดเขาไว้แน่น
“แต่ด้ารักพี่”
“ขอโทษที พี่ไม่ได้รักเธอ” แกะมือบางออกแล้วเดินหนีทันที ปล่อยให้หญิงสาวกรีดร้องเรียกเขาจนเสียงดังไปทั่วแผนก และคงกลายเป็นหัวข้อสนทนาต่อจากนี้
“พี่เธียร!!”
โมโหจนไม่อาจกักเก็บไว้ได้ กวาดของบนโต๊ะลงพื้นแล้วตะโกนด่าคนต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องทะเลาะกับแฟนหนุ่ม
“อีจอม เพราะแกทำให้พี่เธียรไม่สนใจฉัน เพราะแก!!”
ชีวิตของจอมชีวันจะต้องไม่สงบสุข!