แค้นสุมทรวงด้วยรักล้นใจ

61.0K · จบแล้ว
ข้าวสีทอง
43
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาเคยทำลายชีวิตเธอ แต่วันนี้กลับมาขอโอกาสให้ได้รับผิดชอบหล่อนกับลูกสาวตัวน้อย...

นิยายปัจจุบันประธานคนต่ำต้อยดารารักแรกพบพาลูกกหนีวงบันเทิงเศรษฐีดราม่าโรแมนติก

บทนำ

บทนำ

เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานอย่างหนักแต่สวนทางกับอุณหภูมิร่างกายของคนทั้งสองที่ตระกองกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความเย็นต้องผิวกายก่อนหายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่ด้วยความร้อนซึ่งแผดเผาจนหล่อนแทบทานทนไม่ไหว

ร่างแบบบางโก่งบั้นท้ายงามงอนพลางใช้มือค้ำเตียงนุ่มเอาไว้ ลำตัวสั่นคลอนตามแรงกระแทกที่เร็วจนครางเสียงหลง ยังดีที่ห้องในโรงแรมหรูเก็บเสียง หล่อนจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครได้ยินแล้วเอาไปพูดนินทา

แค่เข้าโรงแรมกับผู้ชายมีพันธะ...ก็รู้สึกสมเพชตัวเองมากพอแล้ว

“อ่าๆ รีบเสร็จสักที!” บอกเสียงดังอารมณ์ขัดใจที่ชายหนุ่มคล้ายจะล้อเล่นกับร่างกายตนไม่หยุดสักที ไม่ได้มองหน้าเขาเพราะอีกฝ่ายซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ทั้งยังเอื้อมมือหนามากอบกุมทรวงอกที่สั่นไหวเอาไว้แน่น บีบคลึงอย่างมันมือพลางยกยิ้มมุมปาก จดจ้องแผ่นหลังเนียนที่มีรอยสีกุหลาบแต้มเอาไว้จนทั่ว เขาพึงพอใจที่เห็นผู้หญิงคนนี้เจ็บ

เหมือนกับที่เธอสร้างรอยแผลใหญ่ไว้ให้เขาเช่นเดียวกัน คนมากรักก็ต้องเจอกับเซ็กส์ที่มีเพียงความต้องการ กลายเป็นแค่เครื่องระบายอารมณ์โดยไม่มีสิทธิ์ต่อรองหรือโต้เถียงแต่อย่างใด

“ทำไม อึก คิดว่าฉันเสร็จ...แล้วจะปล่อยเธอไปหรือไง” ช่องทางสีหวานตอดรัดจนเขาแทบทานทนไม่ไหว เร่งความเร็วมากกว่าเดิมจนเสียงกระทบของเนื้อดังไปทั่วห้องกว้าง กิจกรรมยามค่ำคืนที่มีกับหล่อนนับครั้งไม่ถ้วนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

มือหนาผละจากดอกบัวคู่งามมาจับบั้นท้ายงอน กระแทกอย่างแรงพร้อมปลดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาเปื้อนกลีบไม้งามก่อนไหลลงมาตามต้นขาเนียน ทว่าเหมือนยังไม่พึงพอใจคนกระทำเท่าไหร่ ยามที่หล่อนทรุดกายนอนคว่ำบนเตียงพลางหอบหายใจถี่ เขาไม่ปล่อยให้หล่อนได้นอนสบาย กลับพลิกเธอให้หงายขึ้นมาสบตากัน

จับความเป็นชายยัดเยียดเข้าไปอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ ตอนแรกคิดว่าจะได้พักแล้วแต่เหมือนร่างหนาจะยังไม่เต็มอิ่มกับร่างกายของเธอ เขาหลงมัวเมากับของเล่นตรงหน้า ทำราวกับหล่อนไม่มีหัวใจเป็นเพียงสิ่งของที่อยากทำอะไรก็ได้

ดวงหน้าหวานผินมองไปทางอื่นไม่อาจสบดวงตาคู่นั้นได้อีกต่อไป เกลียดเขาที่ทำร้ายจิตใจกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่ายังไม่เกลียดเท่าความรู้สึกของตัวเอง...

ที่มักจะยอมคนตรงหน้าอยู่ร่ำไป

“กินยาคุมด้วย” ชื่นชมเรือนกายงดงามจนพึงพอใจก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ปล่อยให้หล่อนนอนหลับตาอยู่บนเตียงเพียงลำพังด้วยความเหนื่อยล้า ทำงานสายตาแทบขาดในแต่ละวันยังต้องมารองรับอารมณ์คนมักมาก เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นหญิงแกร่งก็คราวนี้แหละ

คำพูดของเขาทำให้ตัดสินใจเปิดเปลือกตา พยายามหยัดกายลุกโดยกระชับผ้าห่มคลุมกายเอาไว้ เอื้อมมือไปคว้ายาที่อยู่ในกระเป๋า แล้วหยิบน้ำที่วางบนหัวเตียงมาเปิดฝา กินทันทีไม่มีอิดออดด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก

“พอใจหรือยัง” เงยหน้ามาสบตากับคนที่สวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงแสลคเตรียมพร้อมออกจากห้อง เขาจัดการตัวเองอย่างดี ไม่ให้คนอื่นล่วงรู้ว่ามาทำเรื่องบัดสีในโรงแรม ยังคงห่วงชื่อเสียงตัวเองไม่อยากเอาไปเกลือกกลั้วกับผู้หญิงที่เป็นแฟนเก่าของพี่ชาย

และเธอคือต้นเหตุที่ทำให้พี่ซึ่งเขารักมากต้องจากไปตลอดกาล...

สิ่งที่ชายหนุ่มเลือกทำคือการแก้แค้น แต่ไม่รู้ทำไมลงอีหรอบนี้ได้ อาจเป็นเพราะความบังเอิญหรือเขาตั้งใจก็สุดแท้จะคาดคิด

ร่างกายสกปรกที่ผ่านผู้ชายมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนในความคิดเขา กลายเป็นยาเสพติดชั้นดีให้แก่ชายหนุ่มไปโดยปริยาย

“นี่เงินของเธอ ตามจำนวนที่ขอ” หยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิดแล้วโยนเงินไปให้คนที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง กระดาษเหล่านั้นปลิวกระจายทั่วเตียงโดยที่เธอทำเพียงมอง แล้วค่อยเอื้อมมือไปเก็บทีละใบด้วยมืออันสั่นเทา

เม้มปากตัวเองแน่นสั่งน้ำตาไม่ให้ต่อหน้าเขาเด็ดขาด เบิกตากว้างไม่กล้ากระพริบตาด้วยซ้ำ รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าหนักเดินออกจากห้อง พร้อมประตูที่ปิดลงก็ทำให้ปล่อยโฮอย่างไม่นึกอาบ สะอื้นไห้จนตัวโยนอย่างน่าสงสาร น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลรินเปื้อนใบหน้า

ไม่รู้ว่าต้องทนให้เขาเหยียบย่ำดูถูกไปถึงเมื่อไหร่ อยากออกไปจากชีวิตของอีกฝ่ายแต่เธอก็รู้ดีว่าทำไม่ได้

เขาคงไม่รู้และจะไม่มีวันได้รู้...ว่าเป็นชายที่เธอตกหลุมรักมานานแค่ไหน

เงินที่ได้มาจากการขายเรือนร่างเมื่อคืนถูกช่วงชิงไปอย่างรวดเร็วจากเจ้าหนี้ที่มาเฝ้าหน้าบ้านหล่อนแทบจะตลอดเวลา เคราะห์กรรมของหล่อนคงหนักหนามากจึงไม่สามารถหลุดพ้นจากห่วงที่คนอื่นเอามาคล้องคอไว้ได้

จอมชีวัน โรจน์ปรีดา...อดีตคุณหนูที่บ้านร่ำรวยจากการขายเพชรพลอย ทว่าบิดาถูกหลอกจนหมดตัว ไปกู้หนี้นอกระบบมาหวังฟื้นฟูกิจการเพราะไม่อาจกู้ธนาคารได้ กลับไม่เป็นดังคาดเพราะธุรกิจล่มไม่เป็นท่า สุดท้ายจึงต้องหาเงินหัวหมุนเพื่อใช้หนี้รายวันซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่จะหมดไป

ที่ใช้ก็แค่ดอก...ยังไม่ได้จ่ายเงินต้นเลยด้วยซ้ำ

หญิงสาวอยากโทษบิดาที่หัวอ่อนเชื่อคนง่าย แต่ท่านก็น่าสงสารมากเกินพอแล้ว อีกทั้งเหลือแค่สองคนพ่อลูก จึงยอมก้มหน้าก้มตาทำงานทุกอย่าง เพื่อชดใช้หนี้ที่รัดตัวจนหายใจแทบไม่ออก แม้จะต้องทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดก็ตาม

“กลับมาแล้วเหรอลูก พ่อทำกับไว้รอ...กินอะไรมาหรือยัง” บ้านหลังใหญ่โตที่เคยอยู่ถูกขายเพื่อใช้หนี้ตั้งแต่ครั้งแรก พวกเรามาเช่าบ้านไม้ชั้นเดียวหลังเล็กมีพื้นที่ประมาณหนึ่งงานเป็นที่ซุกหัวนอน ไม่ได้เลิศหรูแต่ก็ยังดีกว่าต้องไปนอนข้างถนน

ความอบอุ่นเดียวที่หล่อนมีก็คงเป็นบิดา ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหนท่านก็ยังคงนั่งรอนอนรอบุตรสาวกลับบ้าน ทำอาหารเอาไว้ให้แม้มันจะไม่ค่อยอร่อยก็ตาม

ร่างแบบบางพยายามฝืนยิ้มให้ท่าน นั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองอาหารสองถึงสามอย่างด้วยความตื้นตัน เงยหน้ามองชายวัยกลางคนที่ศีรษะแซมด้วยเส้นผมสีขาว พ่อของหล่อนแก่ลงมากขนาดนี้เลยเหรอ หมดมาดนักธุรกิจกลายเป็นเพียงคุณลุงใจดีของเด็กแถวบ้าน

ท่านใช้เวลาว่างในการปลูกต้นไม้ขาย ได้เงินพอจุนเจือครอบครัวบ้างแต่ไม่มากมายเท่าไหร่นัก

บางทีหล่อนก็นึกหงุดหงิดกับความใจดีและแสนซื่อไม่ทันคนของท่าน ที่ทำให้ธุรกิจรุ่นปู่ย่าต้องไปอยู่ในมือคนอื่น เธอก็ต้องเป็นคุณหนูตกอับ เพื่อนที่เคยรายล้อมไม่เหลียวแล เจอกันแต่ละทีมีแต่ถากถางให้เจ็บช้ำ

“อืม! อร่อยมากเลยค่ะคุณพ่อ” ตักข้าวเข้าปากขณะที่ดวงตาแดงก่ำ จวนเจียนจะร้องไห้อยู่รอมร่อแต่พยายามกลั้นเอาไว้ เจอเรื่องหนักหนาทุกวันยังโชคดีที่กลับบ้านมาพบความอบอุ่น ทำให้มีแรงใจในการใช้ชีวิตต่อ

“กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อขึ้นไปนอนก่อนนะ” พอเห็นลูกสาวเจริญอาหารก็ยิ้มกว้าง ปิดปากหาวแล้วเหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน จึงรีบขึ้นบนห้องเพื่อพักผ่อน หลงเหลือเพียงหล่อนที่ปล่อยน้ำตาเอาไว้อย่างสุดกลั้น

กินข้าวเคล้าน้ำตากับชีวิตน่าสมเพชของตัวเอง...