๒ ตักตวงจนพอใจ (๓)
การประมูลเป็นไปอย่างดุเดือด นางแบบหลายคนไปเกาะขอบประตูเพื่อดูโดยเฉพาะ ยกเว้นก็แต่หญิงสาวเพียงคนเดียวที่มานั่งลบเครื่องสำอางแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับบ้านก่อนที่จะได้พบหน้าใครบางคนอีกรอบ
ยังไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา เพราะรู้ว่าชายหนุ่มจะถามเรื่องอะไร หล่อนตีตัวออกห่างตามที่คุณฉันทชาสั่งแล้ว เหลือก็แต่ลูกชายของท่านจะปล่อยตนไปเมื่อไหร่
“สร้อยของจอมถูกคุณเธียรประมูลไปห้าแสน แพงมากเลยนะ” คนที่ดูแลงานเดินเข้ามาหาจอมชีวันโดยเฉพาะ พร้อมถือซองสีน้ำตาลเอาไว้ในมือ ยื่นให้คนที่มาช่วยงานกันตลอด
“อ่า...ค่ะ” ไม่รู้ว่าควรตอบรับอย่างไรดี จึงทำเพียงแค่พยักหน้าแล้วรีบเช็คเงินสดมาถือเอาไว้พร้อมรอยยิ้มกว้าง สิ่งนี้ต่างหากที่ทำให้เธอมีความสุขยิ่งกว่าอะไร
“นี่เงินค่าตัวจ้ะ ขอบคุณที่มาช่วยงานพี่นะ”
“ถ้าพี่มีงานอะไรบอกจอมได้นะคะ ถึงไม่มีเวลาก็ต้องมาช่วยพี่อยู่แล้ว” งานเดินแบบเป็นสิ่งที่หล่อนรัก โชคดีที่มีหุ่นเพรียวสามารถเป็นไม้แขวนมีชีวิต นำเสนอเสื้อผ้าได้หลากหลาย จึงมีงานเดินแบบเข้ามาไม่ขาดสาย แต่ก็ได้เงินไม่มากเท่าที่ควร บางครั้งก็ได้เงินล่าช้าจนเธอต้องหางานอื่นควบคู่ไปด้วย
“จ้า” เก็บกระเป๋าพลางบอกลาทุกคนในห้อง เดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อไปยังลานจอดรถของโรงแรม ทุกคนคงให้ความสนใจกับเครื่องเพชรโดยเฉพาะชายผู้นั้น เธอจึงค่อนข้างโล่งใจที่เขาไม่ได้มาตามติดตัวเอง
ทว่ากลับผิดคาดเพราะแค่เลี้ยวจากมุมห้องที่ตนใช้เวลาแต่งหน้าแต่งตัว ก็พบร่างสูงซึ่งยืนคอยท่าราวกับรู้เป็นอย่างดีว่าเธอจะแอบย่องหนี เขาไม่รอช้าคว้าข้อมือเรียวแล้วพาเข้าไปในห้องน้ำชายที่ไม่ค่อยมีคนใช้ ดันหล่อนเข้ามาข้างในห้องแคบพร้อมกดล็อคแล้วยืนกันประตูเอาไว้
อยากร้องโวยวายแต่กลัวเรียกแขกให้มาดู จึงทำเพียงเม้มปากแน่นไม่สงเสียง จ้องมองดวงหน้าคมด้วยความโกรธ
“ฉันโทรไปไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน...เธอกำลังคิดจะลองดีใช่ไหมจอมชีวัน” ดันหล่อนติดผนังแล้วโน้มใบหน้าลงมาถามจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่เป่ารดใบหน้า ร่างบางพยายามใช้มือยันแผงอกหนาเอาไว้ไม่ให้ใกล้มากกว่านี้ ผินหน้าไปทางอื่นซ่อนแววตาเจ็บปวดเอาไว้
“ฉันเบื่อคุณแล้ว...พอดีช่วงนี้ฉันรับงานอื่น เลยไม่อยากไปหาคุณ” ซ่อนสายตาเจ็บปวดเอาไว้ ขณะที่คนฟังถึงกับกำหมัดแน่น
“เธอรับงานอื่น งานอะไร” ถามเสียงสั่น ห้ามอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ได้ อยากบดขยี้คนตรงหน้าให้แหลกค่ามือ พยายามคิดไปในทางที่ดีว่าคงหมายถึงงานเดินแบบหรือเล่นละคร อาจจะเป็นพิธีกรก็ได้ แต่คำพูดของหล่อนกลับตีแสกหน้า
“นอนกับผู้ชาย” บอกหน้าตายโดยไม่สะท้าน เขาได้ยินอย่างนั้นก็หน้าแดงก่ำด้วยความโมโห
“เธอไปนอนกับคนอื่นนอกจากฉัน” ย้ำอีกครั้งแล้วจ้องเธอตาเขม็ง
“ใช่ พอดีฉันมีหนี้เยอะเลยรับคนเยอะหน่อย โทษทีที่ไม่ได้บอก เห็นว่ามันไม่สำคัญเท่าไหร่” บอกอย่างไม่ยี่หระทั้งที่ใจก็เจ็บปวดเช่นเดียวกัน มือหนาคว้าไหล่เล็กเอาไว้แน่น ก่อนก้มลงฉกริมฝีปากบางเอาไว้อย่างกระแทกกระทั้น ระบายความโกรธทั้งหมดลงกับหล่อนแม้จะนึกรังเกียจคนตรงหน้าแต่น่าแปลกที่ใจกลับโหยหาจนเขาหงุดหงิดตัวเอง
อยากเกลียดเธอให้มากกว่านี้กับสิ่งที่อีกฝ่ายทำกับพี่ชาย ต้นเหตุในการจากไปตลอดกาลของธีริศ...เธอไม่ควรมีความสุข!
แม้หล่อนจะพยายามผลักเขาออกหรือผินหน้าหลบแต่มือหนาก็ล็อคคางเอาไว้ บีบจนเธอเจ็บไปหมด ทั้งยังบดขยี้ริมฝีปากแล้วอย่างดุดัน ไม่มีความอ่อนโยนหรืออ่อนหวานสักนิด หล่อนทำได้แค่ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอให้เขาปล่อยตัวเองเป็นอิสระ
ทว่าชายหนุ่มก็ยังคงตะบี้ตะบันจะทำลายหญิงสาวให้แหลกคามือ เขาเลื่อนริมฝีปากลงมาฝากรอยไว้ที่ลำคอระหง เธอสวมเสื้อยืดจึงง่ายต่อการกระทำอุกอาจ เขาดันร่างแบบบางให้ชิดผนัง ใช้ขาแกร่งของตนล็อคขาเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน เลิกเสื้อยืดตัวเล็กให้กองที่เนินอก ดูดกลืนดอกบัวคู่งามอย่างหยามใจ
“ปล่อย! ไม่รังเกียจฉันหรือไง บอกว่านอนกับคนอื่นมาแล้ว...อื้อ!” พยายามจะเตือนชายหนุ่มแต่กลับถูกเขาวกกลับมาปิดปากเอาไว้ ไม่อยากได้ยินสิ่งที่เธอกำลังจะพูด
มือหนาเลื่อนลงไปปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงของเธอ แล้วค่อยมาจัดการกางเกงของตัวเองอย่างรวดเร็ว สอดความเป็นชายเข้าไปในส่วนอ่อนโยนในรวดเดียว เล่นเอาหล่อนจิกเท้าพลางยกมือขึ้นทุบบนไหล่หนา
“เอ็บ! อือ..” ร้องโวยวายว่าเจ็บ เขายังคงครอบครองริมฝีปากอวบอิ่ม เธอจึงไม่สามารถโวยวายอะไรได้ นอกจากพูดในลำคอเพื่อร้องขอความเห็นใจ แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีให้กันเลย เขายังคงดันกายเข้ามาจนสุด แล้วเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไม่รอให้เธอปรับตัว แรงเสียดสีสร้างความเจ็บให้หล่อนจนใบหน้าหวานเหยเก
เขายกขาข้างหนึ่งของหล่อนขึ้นเพื่อเปิดช่องทางสีหวานให้กว้างกว่าเดิม มือข้างที่วางก็วนเวียนกับทรวงอกนุ่ม โกยมันออกมาจากชุดชั้นในลายลูกไม้ ก่อนก้มลงไปชิมความหวานพลางดูดกลืนจนยอดถันแข็งเป็นไต เขารังแกหล่อนในห้องน้ำของโรงแรมอย่างไม่กลัวว่าใครจะเข้ามาใช้บริการสักนิด
แน่ล่ะ...ชายหนุ่มใช้แผ่นป้ายทำความสะอาดวางไว้หน้าห้องน้ำ จึงไม่มีใครเข้ามาข้างในได้
“ฉันเกลียดเธอ รังเกียจผู้หญิงอย่างเธอมากที่สุด” ปากย้ำถึงความเกลียดขณะที่ร่างกายก็เคลื่อนไหวสอดประสานกันอย่างดี หล่อนครวญครางในลำคอแล้วจ้องมองใบหน้าคมด้วยความเจ็บปวด อยากมีความรักและชีวิตปกติอย่างคนอื่นเขาบ้าง
แต่เธอกลับเป็นได้แค่เครื่องสนองตัณหาให้เขาระบายอารมณ์ใส่ที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ มีค่าเพียงเท่านี้เอง