๑ ข่าวคาว (๓)
ทำงานเสร็จก็คิดจะกลับบ้านเพื่อไปพักผ่อน ทว่าเสียงข้อความเข้าจึงหยิบขึ้นมาอ่าน พลันลมหายใจก็สะดุดลงยามเห็นข้อความจากชายที่มองหล่อนเป็นเพียงของเล่นแก้เบื่อ มีค่าก็แค่ให้เขาสนุกชั่วข้ามคืนเท่านั้น
‘มาหาฉันห้องเดิม’ คิดว่าตัวเองชินเมื่อได้เห็นตัวอักษรเหล่านั้น แต่ความจริงไม่เคยชินเลยสักครั้ง ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า หัวใจหนักอึ้งอีกครั้งแล้วตัดสินใจยูเทิร์นกลับไปโรงแรมสุดหรูที่ปิดความลับของผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี
อายทุกครั้งยามต้องขับรถที่คล้ายเศษเหล็กของตนเข้าไปข้างใน จอดรถเรียบร้อยก็เดินไปแจ้งรีเซฟชั่น ได้คีย์การ์ดมาค่อยเดินขึ้นบนห้อง กดชั้นที่ต้องการแล้วพิงพนังลิฟต์พลางหลับตาคิดถึงครั้งแรกที่ได้เจอเขา
วันรับน้องปีหนึ่งที่เธอเป็นเฟรชชี่วัยสดใส ถูกรุ่นพี่แกล้งให้เต้นต่อหน้าผู้คน เธอจัดเต็มไม่นึกอายจนสายตาพลันเหลือบไปเห็นชายหนุ่มสุดหล่อที่ยืนมองพลางยิ้มขำ แววตาของเขาตรึงให้หล่อนหยุดนิ่ง เขินจนหน้าแดงก่อนจะรีบลงไปนั่งที่เดิม
ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ทราบเพียงชายหนุ่มไม่ได้เรียนที่เดียวกัน แต่มาหาเพื่อนที่คณะหล่อนในบางครั้ง เจอกันทีไรอีกฝ่ายก็มีรอยยิ้มที่ตรึงใจเหมือนเดิม กระทั่งเห็นว่าเขามีหญิงเคียงกาย เธอจึงต้องตัดใจแล้วตอบรับชลัสที่เข้ามาในช่วงเวลานั้นพอดี
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นจนวันที่บ้านของเธอล้มละลาย หนี้สินมีล้นพ้นตัว เพื่อนฝูงหนีหาย แฟนที่คบมาหลายปีก็ตัดขาด ชีวิตของเธอเสียศูนย์พักใหญ่จนได้ชายผู้หนึ่งมาโอบอุ้ม
ธีริศ ก่อเกียรติกุล...หล่อนหมายเกาะติดเขาหวังสมบัติ ไม่ได้รักใคร่ชอบพอเลยสักนิด ขณะที่เขารักเธอหมดหัวใจ
ให้เกียรติด้วยการพาเข้าบ้านทำให้หญิงสาวทราบว่าชายคนนั้นที่ทำตนเพ้อหลายเดือน คือน้องชายของเขาเอง จุดไต้ตำตอที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น สวรรค์เล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอนักหนา
“อื้อ” เพียงแค่เปิดประตูเข้ามาในห้อง ยังไม่ทันปิดประตูสนิทด้วยซ้ำ แขนก็ถูกดึงให้เข้ามาชิดร่างหนา ใบหน้าหวานถูกเชยขึ้นเพื่อรับจูบกระแทกกระทั้นราวอีกฝ่ายกำลังต้องการระบายอารมณ์ ดันเธอไปชิดประตูจนมันปิดสนิท
ดูดกลืนริมฝีปากอวบอิ่มพลางขบเม้มแล้วกัดปากล่างด้วยความโมโห จนได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้งทั่วโพรงปาก ก่อนชายหนุ่มจะใช้ลิ้นดุนดันอย่างเอาแต่ใจ ยกมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นเหนือศีรษะเมื่อหญิงสาวทุบอกหนาจนนึกรำคาญ
ค่อยผละออกเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังขาดอากาศหายใจ เพราะถูกเขาช่วงชิงอากาศมานานนับนาที
“วันนี้ไปอ่อยใครมาอีกล่ะ เก่งนักนะทำให้คนต้องทะเลาะกัน” ปล่อยมือบางเป็นอิสระแต่ก็ยังไม่วายเอ่ยแซะจนคนที่ไม่รู้เรื่องต้องขมวดคิ้ว ทั้งวันเธอยุ่งกับงานแทบไม่ได้กินข้าวด้วยซ้ำ ถ่ายละครจบก็มาทำหน้าที่พิธีกร พอเสร็จจากงานก็คิดจะกลับบ้าน
แต่โดนเรียกตัวมาที่โรงแรม หากไม่มาก็คงโดนเขาโทรตามหรือไม่อาจตามถึงหน้าบ้าน จึงตัดปัญหาด้วยการมาตามนัด
เคยครั้งหนึ่งที่ไม่ยอมมาหาเขา ชายหนุ่มไปรอถึงหน้ากองถ่ายแล้วสั่งปลดหล่อนกลางอากาศ จนต้องยอมทำทุกอย่างตามใจเขา จึงกลับมาเล่นละครได้...
ชีวิตของตนอยู่ในกำมือเธียร ไม่อาจเป็นอิสระได้
“พูดบ้าอะไรของคุณ ฉันไปทำอะไร” ถามกลับหน้าเครียด
ทุกครั้งที่มานอนกับเขามักจะได้ยินคำพูดเชิงดูถูกเหยียดหยามตลอด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้รับรอยยิ้มหรือคำพูดหวานหู การกระทำก็รุนแรงคล้ายจะระบายความหงุดหงิด ฝากร่องรอยบนร่างกายใต้ร่มผ้า วันไหนเยอะหน่อยก็รู้ทันทีว่าเขาคงโมโห
วันไหนชายหนุ่มอารมณ์ดีก็มักจะอ่อนโยนหน่อย...หญิงสาวหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นทุกวัน
แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่วันนี้
“ไปอ่อยเยอะจนจำไม่ได้เลยเหรอว่าหว่านเสน่ห์ให้ใครบ้าง เธอนี่มันง่ายไปทั่วจริงๆ หวังว่าฉันคงไม่ต้องใช้ของร่วมกับคนอื่นนะ” สายตาดูถูกลำพูดเหยียดหยามทำให้เธอโมโหจนตะโกนชื่อเขาเสียงดัง หมายจะเรียกสติให้คนตรงหน้าหยุดสักที
“คุณเธียร!”
“อะไร...ฉันพูดผิดตรงไหน หรือว่าจี้ใจดำ” ทว่าเขากลับทำหน้าตายแล้วก้าวเข้าใกล้เธอมากกว่าเดิม ทำหน้ายียวนหาเรื่อง มือบางทำได้เพียงกำเข้าหากันแน่นระงับอารมณ์ของตัวเอง จ้องเขาด้วยแววตาวาวโรจน์
โดนดูถูกจากคนอื่นมานับครั้งไม่ถ้วน ยังไม่เจ็บเท่าโดนคนตรงหน้าดูถูกเลย เธอคงแคร์เขามากเกินไปสินะ
“จะทำอะไรก็รีบทำ ฉันต้องรีบกลับบ้าน...” สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ปลดกระดุมเสื้อออกอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ต้องทำแล้วอย่าเสียเวลาเลยดีกว่า ทำงานทั้งวันเหนื่อยเต็มที เมื่อเขาอยากทำอะไรก็ให้ทำ พอเสร็จก็จ่ายเงินแล้วแยกย้าย
มันก็มีแค่นั้นเอง...
“ได้ งั้นมาทำเลยดีกว่า” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ดึงกางเกงของหล่อนลงแล้วรูดกางเกงชั้นในไปกองที่ปลายเท้า ไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น เลือกจะใช้แก่นกายชายที่แข็งขืนสอดเข้าไปในกลีบไม้งามจนเธอร้องเสียงหลง
เขาใช้ความโกรธทั้งหมดลงที่เธอ ไม่แลเหลียวว่าหญิงสาวจะเจ็บปวดเพียงใด ทำตามความต้องการของตัวเองอย่างเอาแต่ใจ มองดวงหน้าหวานที่เหยเกและน้ำตาซึ่งไหล่ออกจากหางตา จนเขาต้องหันไปมองทางอื่น เคลื่อนกายกระแทกกระทันอย่างรุนแรง
พยายามบอกตัวเองว่าเกลียดคนตรงหน้ามากแค่ไหน เธอคือคนที่ทำให้พี่ชายของเขาต้องตาย
หญิงสาวที่เข้ามาเพื่อหวังปอกลอกทรัพย์สมบัติ โดยใช้ธีริศคนหัวอ่อนเป็นเครื่องมือ ก่อนจะรับงานอื่นกินข้าวกับเสี่ยใหญ่บนห้องพักสุดพรูของโรงแรมที่ครอบครัวเขาถือหุ้น โชคร้ายที่พี่ชายเขามาเห็นพอดี เสียใจกับภาพที่เห็นขับรถออกมาประสานงาเข้ากับรถพ่วงพอดี...
เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ