บทที่5 เรื่องบ้าบอในวันนี้ ถือว่าช่างมันก็แล้วกัน
บทที่5 เรื่องบ้าบอในวันนี้ ถือว่าช่างมันก็แล้วกัน
บุริศร์ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ย่อตัวลง
เด็กคนนี้รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา มองดูแล้วสบายตา ถ้าหากว่าเป็นเวลาปกติ บุริศร์ไม่มีทางเสียเวลาทำเรื่องเช่นนี้ แต่ว่าตอนนี้ เขากลับรู้สึกว่าตัวเขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
“อายุเท่าไหร่แล้ว มามี๊เธอถึงได้ให้ใส่กางเกงแบบนี้”
เขาเห็นกานต์ซิปกางเกงติด คิ้วก็ย่นขึ้นหลายขั้น
กานต์ลดเสียงลด “ผมสี่ขวบแล้ว โตเป็นหนุ่มแล้ว!”
“เป็นหนุ่มแล้วยังรูดซิปกางเกงไม่ได้อย่างนั้นรึ”
ปกติแล้วบุริศร์จะไม่ค่อยพูดอะไรมาก แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกว่าเด็กตรงหน้าทำให้เขารู้สึกสบายใจ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดมากเล็กน้อย
นัยน์ตาของกานต์ส่อประกายเจ้าเล่ห์อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อส่องประกายแล้ว คนกลับไม่ทันเห็น
“เอาล่ะ”
บุริศร์รูดซิปกางเกงออกให้ ทันใดนั้นกานต์ก็ร้องออกมา
“อ้า คุณลุง ผมกลั้นไม่ไหวแล้ว!”
“ว่าไงนะ”
บุริศน์เพิ่งจะพูดจบ คลื่นความร้อนพร้อมกลิ่นแปลกๆก็พุ่งใส่หน้าเขา
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ!”
กานต์รีบขอโทษอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็รีบพุ่งเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตู
บุริศร์เพิ่งจะรู้ตัวว่าสิ่งที่พุ่งเข้าหน้าตัวเองนั้นคืออะไร!
ห่าเอ้ย!
เขาซึ่งเป็นประธานกรรมการของบริษัทฮัวยูกรุปจำกัดเพิ่งจะโดนเด็กผู้ชายตัวจ้อยฉี่ใส่อย่างนั้นรึ
เขาโกรธจนพ่นลมหายใจ
“ตัวแสบ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
เขาไม่ได้โกรธมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว
กานต์ก้มหมอบอยู่ในห้อง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏอยู่ที่มุมปากของเขา แต่เขากลับแสร้งร้องไห้และพูดว่า “คุณลุง ผมขอโทษ เมื่อกี๊ผมกลั้นไม่อยู่จริงๆ คุณลุงรอหน่อย ผมจะให้มามี๊ผมชดใช้เงินให้ดีรึเปล่า หรือไม่อย่างนั้นผมให้คุณลุงฉี่ใส่ผมคืนก็ได้”
คำพูดนี้เกือบทำให้บุริศร์ขาดอากาศหายใจตาย
เขาเป็นประธานของฮัวยูกรุป จะให้ไปฉี่ใส่เด็กน้อยอย่างนั้นรึ
นี่มันคำพูดอะไรกัน
บุริศร์รู้สึกว่าเรื่องนี้คงจบไม่สวย ความรู้สึกบนใบหน้ายิ่งทำให้เขาโกรธจนแทบคลั่ง
เขาใช้น้ำล้างออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังรู้สึกขยะแขยง เขาใช้เจลล้างมือถูกหน้าไปสามสี่หน ถึงค่อยรู้สึกว่ากลิ่นนั้นจางหายไป
กานต์ฟังเสียงการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกอยู่ตลอด มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มอยู่ตลอด
ที่คุณรังแกมามี๊!
ที่คุณไม่ต้องการพวกเรา!
วันนี้ต้องโดนเจ้านายน้อยสั่งสอนสักหน่อย ถือเป็นดอกเบี้ยสำหรับหลายปีมานี้ อีกหน่อยพวกเราจะค่อยๆคิดบัญชีเอง!
นัยน์ตาของกานต์ส่องประกายความตื่นเต้น ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงพูดไปร้องไห้ไปอย่างหน้าตาเฉย “คุณลุง อย่าตีผมเลยได้ไหมครับ ถือว่าโดนลูกชายตัวเองฉี่รดก็แล้วกัน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณอย่าบอกมามี๊เลยได้ไหมครับ เธอจะต้องตีผมตายแน่ๆ! ฮือฮือ!”
ตอนจบ กานต์ยังแสร้งทำเป็นเสียงร้องไห้สองเสียงทิ้งท้าย
บุริศร์เคลื่อนไหวอย่างเกรี้ยวกราด
ลูกชายตัวเองอย่างนั้นรึ
ถ้าหากว่าปีนั้นนรมนยังไม่ตาย ลูกของพวกเขาอาจจะอายุรุ่นราวคราวนี้ใช่หรือไม่
บุริศร์มองเงาสะท้อนในกระจก เขาไม่เคยดูพังเท่านี้มาก่อน ผมเผ้าเปียกปอนไปด้วยน้ำ ตอนนี้บนใบหน้าเขา ตาหงส์ทั้งคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธ
ตาหงส์รึ
ทันใดนั้นบุริศร์ก็รู้สึกว่าเด็กคนเมื่อสักครู่ก็คล้ายกับว่ามีตาหงส์เหมือนๆกับเขา
มิน่าล่ะถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าเด็กคนนั้น ที่แท้ก็เพราะว่าดวงตาคู่นั้น
ทั้งเมืองชลธี มีไม่กี่คนนักที่มีตาหงส์ อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เขาถึงได้มีความอดทนกับเด็กแสบคนนี้มาก
บุริศร์ถอนหายใจอีกครั้ง และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เรื่องวันนี้ไม่อนุญาตให้พูดกับใครทั้งนั้น รวมถึงมามี๊เธอด้วย ได้ยินรึยัง วันหน้าถ้าเราพบกันอีก ก็ห้ามเธอบอกใครว่ารู้จักฉัน”
“อื้อ รับทราบ! ผมรับปากว่าจะไม่พูด!”
กานต์รีบพูดขึ้น ช่างฉลาดจนหาที่ติไม่ได้
เรื่องบ้าบอในวันนี้ บุริศร์ถือว่าช่างมันก็แล้วกัน
เขามองที่ประตูห้องน้ำอีกครั้งอย่างหดหู่ จากนั้นก็เดินจากไปอย่างกระตือรือร้น
“ประธานบุริศร์ เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
เสียงอุทานของผู้ช่วยดังมาจากทางด้านนอก บุริศร์กลับเดินสาวเท้าจากไปอย่างว่องไว
เมื่อกานต์ไม่ได้ยินเสียงจากทางด้านนอกแล้ว เขาจึงได้เปิดประตูออกมา เขามองไปยังทิศทางที่บุริศร์จากไป ริมฝีปากยังคงปรากฏรอยยิ้ม มือเล็กๆคลำหากล้องรูเข็มที่ใต้อ่างล้างหน้า จากนั้นก็นำกล้องนั้นใส่ในกระเป๋าเสื้อของตัวเอง ล้างมือ และเดินออกจากห้องน้ำ
นรมนออกมาจากห้องน้ำก่อนแล้ว แต่เธอยังไม่เห็นเงาของกานต์ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นกังวล ตอนที่กำลังจะโผล่ไปดู เธอเห็นบุริศร์กำลังโมโหเดินออกจากห้องน้ำไป หัวเขาเปียกปอน อย่างกับเพิ่งสระผมมา
บุริศร์เป็นที่ใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างมาก เรื่องนี้นรมนรู้ดี แต่ตอนนี้เห็นเขายับเยินมาก เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ แต่ก็รีบซ่อนอยู่ที่ผนังข้างหนึ่งด้วยจิตใต้สำนึก และรีบปัดความรู้สึกของตัวเองออกไป
เธอกลับมาแล้ว
ห้าปีก่อนพวกเขาเป็นหนี้เธอ เธอจะค่อยๆกลับมา แต่ไม่ต้องรีบร้อนในตอนนี้
หลังจากที่บุริศร์รีบร้อนจากไป กานต์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
“กานต์”
นรมนคว้าแขนเขาเอาไว้ เธอมองเขาหัวจรดเท้าอยู่รอบหนึ่งแล้วจึงโล่งอกที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ
กานต์รู้ดีว่ามามี๊เป็นห่วงเรื่องอะไร แต่ว่าเขาถามโดยแกล้งทำเป็นไม่รู้ “มามี๊เป็นอะไร ผมแค่ไปเข้าห้องน้ำ ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้น ใช่แล้ว ลุงคนเมื่อกี๊หล่อดีนะครับ มามี๊ว่ายังไง”