บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

เวลาช่วงวันหยุดมักจะผ่านพ้นไปเร็วเสมอ เที่ยวยังไม่ทันจุใจ ก็ถึงเวลาที่แก้วตาต้องไปช่วยงานป้าตามที่ได้รับปากไว้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพี่สาวของแม่ซึ่งก็คือป้าแท้ๆของเธอได้กลับมาบ้านที่นครปฐม และได้เอ่ยปากขอให้เธอไปช่วยงานที่ร้านอาหารตามสั่งของท่านที่เปิดอยู่ในย่านบริษัทชั้นนำของกรุงเทพมหานคร ท่านรู้ว่าเธอยังไม่อยากทำงานหรือไปสมัครงานที่ไหน อยากจะอยู่ว่างๆก่อนสักระยะหลังจากเรียนจบ พ่อแม่ก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรจะไปช่วยป้ากับลุงเขย ดีกว่าช่วยพ่อกับแม่ขายของหรือเดินเก็บค่าเช่าห้อง ลูกๆของป้าก็ช่วยงานไม่ได้เนื่องจากมีการมีงานที่มั่งคงด้วยกันทั้งคู่ จึงมีเพียงลูกจ้างรายวันที่คอยช่วย ในบางวันคนเยอะออเดอร์เพียบก็ทำกันแทบไม่ทัน ป้าคงคิดว่ามีเธอไปช่วยอีกคนคงช่วยได้ไม่มากก็น้อยแหละ

“ถึงซะที”

แก้วตาอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้ม สวมใส่รองเท้าผ้าใบสีดำคู่โปรดยี่ห้อดัง แลทะมัดทะแมง บนไหล่มีกระเป๋าเป้ใบเขื่องลายสวยสะพายเกาะติดหลังเอาไว้ ในมือก็หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าไว้อีกหนึ่งใบ ร่างของสาวแรกรุ่นสูงราวหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร ตามแบบฉบับมาตราฐานของสาวไทยส่วนใหญ่ ก้าวลงจากรถตู้โดยสารที่นั่งมาจากนครปฐม แล้วต่อด้วยการโบกรถแท็กซี่ บอกกล่าวสถานที่ที่ต้องการจะไปเรียบร้อยก็ขึ้นนั่ง อากาศอันร้อนอบอ้าวรวมถึงฝุ่ควันจากท่อไอเสีย ทำให้หญิงสาวหงุดหงิดเล็กน้อย บริเวณไรผมมีเหงื่อซึมออกมา แม้สภาพอากาศเช่นนี้จะเป็นเรื่องปกติของเมืองหลวง คนที่เคยใช้ชีวิตในเมืองใหญ่นี้มาก่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ยังไม่คุ้นชิน ตอนแรกพ่อบอกจะมาส่งแต่เธอก็ยืนยันว่ามาเองได้ ไม่อยากให้พ่อมาขับรถในเส้นทางที่การจราจรแออัด เพราะรู้นิสัยพ่อดีว่าคงทนกับสภาพการจรแออัดแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ เข้ากรุงเทพบ่อยแค่ไหนพ่อก็ยังไม่ชินและจะบ่นทุกครั้งหากรถติดนานๆ

ใช้เวลาเดินทางไม่นานเธอก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้านอาหารตามสั่ง มองดูนาฬิกาก็เพิ่งจะสิบโมง ดีที่ว่าออกจากบ้านเร็วจะได้มาถึงที่นี่ไม่ช้าจนเกินไป ด้านข้างของร้านป้าเป็นตึกสูงระฟ้าตั้งเด่นเป็นสง่า แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องสนใจ อากาศภายนอกร้อนเกินกว่าที่จะยืนชื่นชมอะไรในเวลานี้ ยังไม่ทันจะเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมของอาหารลอยเตะจมูก ชวนน้ำลายไหล จนต้องรีบตรงดิ่งเข้าไปในอาคารพาณิชย์ขนาดสองห้องที่เปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งที่ใช้ชื่อว่าป้าภาทันที

Porsche 911 รถยนต์ซูเปอร์คาร์สัญชาติเยอรมนี สีเทา 2 ประตู จอดโดดเด่นสะกดทุกสายตาของผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอยู่หน้าอาคาสำนักงานใหญ่ โรเจอร์ กรุ๊ป ประจำสาขาประเทศไทย รปภ.ที่ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน้าตึก ก็ต้องรีบยกมือทำความเคารพ แม้เจ้าผู้ที่ขับมาจอดจะยังไม่ลงจากรถก็ตาม เพราะไม่มีใครที่จะกล้าจอดรถในเขตหวงห้ามเช่นนี้ หากไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูงสุดที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน

บุรุษร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาในชุดสูทสีดำเรียบกริบ ก้าวเท้าลงมายืนอวดโฉมอยู่ด้านนอก ก่อนจะปิดประตูรถที่ยังคงไม่ได้ดับเครื่องยนต์ พยักหน้าทักทายรปภ. แล้วมุ่งหน้าเข้าไปในอาคารสูงชะลูด โดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด เพราะเดี๋ยวลูกน้องคนสนิทจะเป็นคนจัดการนำรถไปจอดประจำที่ให้เอง

“สวัสดีครับบอส”

“สวัสดีค่ะบอส”

ตลอดโถงทางเดินขนาดใหญ่ก่อนจะถึงลิฟท์ มีพนักงานชายหญิงหยุดยืน และกล่าวทำความเคารพอย่างนอบน้อม ซึ่งทุกคนก็จะได้การพยักหน้าน้อยๆเป็นการตอบรับเหมือนกันทุกคน ลิฟต์ส่วนตัวของผู้บริหารแยกออกไป ไม่ปะปนกับของพนักงานที่กำลังยืนออกันเต็มไปหมด เพราะใกล้เวลาที่จะเข้างานแล้ว

อันเดรส โรเจอร์ เข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวที่มีความหรูหราตระการตา ตำแหน่งในปัจจุบันของเขาคือ ประธานกรรมการโรเจอร์ กรุ๊ป ผู้กุมอำนาจใหญ่สุดของบริษัท ที่มีทั้งหมดสองสาขา นั่นก็คืออิตาลีและประเทศไทย โดยส่วนมากเขาจะอยู่ทำงานที่นี่มากกว่า อีกที่ก็จะให้ลูกพี่ลูกน้องเป็นคนดูแลแทน

“ขออนุญาตค่ะบอส” เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนประตูห้องทำงานจะเปิดออก แล้วร่างท้วมในชุดทำงานเรียบๆก็ก้าวเข้ามา พร้อมกับรอยยิ้ม

“มีอะไรด่วนหรือเปล่าครับคุณกิ่ง” อันเดรสถามเลขาสาวใหญ่ ที่คุณนายอันนาเป็นคนเลือกให้เองกับมือ เพราะท่านกลัวว่าลูกชายอย่างเขาจะเลือกสาวสวยมากกว่าคนที่มันสมอง ความจริงเรื่องแบบนี้เขาแยกแยะได้แต่เพื่อความสบายใจของมารดาเลยต้องยอม

“ไม่มีงานด่วนค่ะบอส ดิฉันจะมาถามว่ามื้อกลางวันนี้บอสต้องการทานอะไรคะ ดิฉันจะได้จัดการสั่งให้ เพราะนี่ก็ใกล้จะสิบเอ็ดโมงแล้ว”

“วันนี้ผมขอเป็นอะไรง่ายๆก็แล้วกัน” อันเดรสหมุนหัวปากกาด้ามสีทองในมือเล่น ปกติเขาก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว อะไรก็กินได้แต่ต้องไม่เผ็ดจนเกินไป

“ได้ค่ะ งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะบอส”

“ครับ”

“แก้วเอาข้าวไปเสิร์ฟพี่ๆที่โต๊ะห้าให้ป้าทีลูก มีต้มยำด้วยถือระวังนะๆมันร้อน” ป้าภาเอี้ยวหน้าออกจากกระทะหันมาบอกหลานสาว

“จ้า” แก้วตารับคำเสียงใส

เสียงกระทะกับตะหลิวที่ป้าภากับลุงชัย ช่วยกันผัดคนละกระทะ ดังกระทบกันไม่ได้หยุดพักตั้งแต่แก้วตามาถึง เพราะมีออเดอร์สั่งใส่กล่องให้ไปส่งตามบริษัทเยอะมาก ส่วนลูกค้าที่มานั่งกินภายในร้านส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานออฟฟิศ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วทำให้เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายต่างเดินเข้ามานั่งสั่งอาหาร และไม่นานโต๊ะทั้งหมดก็เต็ม

“น้องคนสวยมารับรายการสั่งอาหารของพี่ด้วยครับ”

“ของพี่ด้วยน้อง”

“ค่า” แก้วตารับคำ และรู้สึกว่าใครๆต่างก็เรียกเธอ แต่ก็ยินดีที่จะทำ เพราะทุกคนในร้านยุ่งด้วยกันทั้งหมด ถือว่าได้ออกกำลังกายไปในตัว เดินไปเดินมาไม่ได้หยุด

“ป้าภาจ๋า ลุงชัยจ๋าเย็นนี้แก้วไปกินข้าวกับเพื่อนนะ พวกเพื่อนๆรู้ว่าแก้วมาอยู่ช่วยป้าที่ร้านเลยนัดเจอ” แก้วตาเดินมาเกาะขอบโต๊ะวางอาหารที่ทำเสร็จพร้อมเสิร์ฟ เพื่อขออนุญาตผู้ปกครองที่ดูแลเธอระหว่างอยู่ที่นี่

“ไกลไหมหนูแก้ว ถ้าไกลป้ากับลุงจะได้ไปรับไปส่ง” ลุงชัยถามหลานสาวของภรรยาที่เขารักไม่ต่างจากลูก เนื่องจากไม่มีลูกสาวมีแต่ลูกผู้ชายสองคน

“ไม่ไกลค่ะ นั่งรถไฟฟ้าไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง” เพราะพวกเพื่อนๆนัดร้านที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า เลยทำให้การเดินทางของเธอสะดวก ไม่ต้องรบกวนลุงกับป้า

“ก็ได้ ป้าอนุญาต แต่ตอนนี้เอาข้าวกล่องนี่ไปส่งที่ตึกสูงๆข้างร้านเราให้ป้าหน่อยลูก หนูเข้าไปด้านในบอกตรงประชาสัมพันธ์ว่า เอาข้าวมาส่งคุณเลขากิ่งเพชร ชั้นสี่สิบ แค่นั้นแหละ เดี๋ยวเขาก็ให้เงินกลับมา ป้าใส่ใบเสร็จเข้าไปในถุงแล้ว” ป้าภาอธิบายรายละเอียดให้หลานสาวได้ฟัง แก้วตาพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วหยิบถุงที่บรรจุข้าวกล่องสามกล่อง และถุงที่ใส่แกงจืดกับต้มยำ เดินออกจากร้านเพื่อนำไปส่งตามคำสั่ง

แก้วตามองบรรยากาศชั้นล่าง ที่คล้ายกับล็อบบี้ขนาดย่อมๆภายในอาคารที่มาส่งอาหาร ช่วงพักเที่ยงแบบนี้พนักงานเลยเดินกันเต็มไปหมด หน้าตาของแต่ละคนดีจนถึงดีมากทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิงเลย ไม่รู้ว่าตอนสัมภาษณ์งานเขาเอาหน้าตามาเป็นเกณฑ์ด้วยรึเปล่า แถมเวลาเดินผ่านเธอไปก็ทิ้งกลิ่นน้ำหอมเอาไว้

“อยากจะรู้จริงๆว่าพนักงานที่นี่เขาได้เงินเดือนกันเท่าไหร่ ถึงได้แต่งตัวแข่งกันสุดฤทธิ์ขนาดนี้” แก้วตาพึมพำกับตัวเอง เลิกสนใจสิ่งรอบข้าง แล้วตรงดิ่งเอาข้าวไปส่งตรงประชาสัมพันธ์ตามที่ป้าบอก พอได้รับเงินครบตามจำนวนเรียบร้อยแล้วก็กลับไปช่วยงานที่ร้านต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel