3
“แกหายหัวไปไหนมา งานบ้านงานช่องไม่ทำ อ้อ... ออกไปแรดๆ กับไอ้หมอนี่มานี่เอง” ไปรยาด่ากราดจิกสายตามองลูกเลี้ยงอย่างเกลียดชัง
“หนูเอ่อ” คริมากัดปากตัวเอง เธอไม่ใช่เด็กก้าวร้าวหรือปากจัดที่จะยืนเถียงยืนด่ากับมารดาเลี้ยงฉอด ๆ
“ไปเอากับมันมาแล้วรึไง มันถึงได้ซื้อเสื้อผ้าข้าวของให้เต็มไม้เต็มมือขนาดนี้”
“แก่แล้วควรเก็บปากไว้แดกข้าวจะดีกว่า” น้ำเสียงดุดันและท่าทีเอาเรื่องของปืนทำให้ไปรยาถอยไปหลายก้าว เธอเคยเจอคนจริงแบบปืนมาแล้ว และปืนคงไม่สนด้วยว่าเธอเป็นผู้หญิง ถ้าเขาจะตบเธอให้เลือดกบปากเขาก็คงจะทำโดยไม่ลังเล
"กลับมาแล้วก็เข้าบ้านสิ จะมายืนเซ่ออยู่ทำไม” ไปรยายอมถอยให้หนึ่งก้าว เพื่อแผนการร้ายของตัวเอง ลูกเลี้ยงของเธอเป็นสาวแล้ว สวยเสียด้วย ถ้าหลอกไปขายคงจะได้หลายตังค์ แต่ตอนนี้ต้องกันไอ้หมาแก่ข้างบ้านออกไปก่อน แค่มองแว็บเดียวเธอก็รู้ว่าปืนคิดยังไงกับคริมา ซึ่งหล่อนจะไม่ยอมให้ลูกเลี้ยงโดนเจาะไข่แดงก่อนจะส่งให้เสี่ยเงินหนา ให้ราคาดีอย่างแน่นอน
ถ้าคริมาโดนปืนเจาะไข่แดงนอกจากจะไม่ได้เงินแล้วก็คงจะเสียตัวฟรี ๆ แค่ดูก็รู้ว่าปืนกระจอกแค่ไหน วัน ๆ ไม่ทำงานทำการอะไรเอาแต่นอนขี้เกียจสันหลังยาว แถมหน้าตาก็กวนบาทาเป็นที่สุด
“กลับไปได้แล้ว ลูกเลี้ยงของฉันไม่มีวันเอาคนแก่อย่างแกทำผัวหรอกหรอก” ประโยคของไปรยาทำเอาปืนถึงกับดวงตาดุวับ
“อย่าให้รู้ว่าทำอะไรไม่ดีกับคริมาอีก ฉันจัดการเธอแน่” ปืนไม่สนใจเสียงไล่ด่าของอีกฝ่าย
“คิดจะมาขู่กันอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก”
“ไม่ได้ขู่ แต่เอาจริง” ปืนเดินเข้าหา ไปรยารีบปิดประตูใส่หน้า ใครจะกล้าไปต่อกรกับคนบ้า ๆ ตรงหน้ากันเล่า ท่าทีมันพร้อมกระทืบทุกคนที่ทำให้ขัดใจจะตายไป หนทางที่จะทำให้เธอได้เงินเร็ว ๆ คือจัดการนังลูกเลี้ยงซะ แล้วก็ขายบ้านหลังนี้ ก่อนหนีไปอยู่ภาคเหนือซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง
เธอเป็นคนเหนือ ถูกขายมาตั้งแต่เด็ก มาขายตัวอยู่ที่ซ่องแถวชายแดนจนอายุเท่านี้ ก่อนที่จะจับพ่อของคริมาทำสามีได้ แต่ไม่คิดว่าจะอายุสั้น เธอยังไม่ทันได้นั่งกินนอนกินเป็นคุณนายใช้เงินให้สบายเลย เพราะทำงานเหนื่อยมาตั้งแต่เด็ก พอมีผู้ชายหน้าโง่ให้เกาะก็มาด่วนจากไปเสียก่อน
ปืนเดินกลับบ้านอย่างครุ่นคิด เห็นทีเขาต้องจับตามองไปรยาให้ดี เพราะอีกฝ่ายคงไม่ปล่อยคริมาไปแน่ แค่มองหน้าก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดไม่ดีเป็นแน่
ไปรยาเดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะแกล้งถามลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น
“ไปไหนกันมา”
“เฮียปืนพาไปซื้อเสื้อผ้ามาค่ะ” คริมาตอบตรง ๆ เธอไม่ชอบโกหกและอีกอย่างไปรยาก็เห็นว่าเธอไปซื้อเสื้อผ้ามาจริง ๆ จะโกหกให้ได้อะไร ถ้าจะโดนด่าว่าก็คงต้องยอม
“แหม ๆ ๆ มันเป็นอะไรกับแกรึ ถึงซื้อเสื้อผ้าให้แก” ไปรยากระแนะกระแหน รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าปืนยิ่งนัก
“เฮียแค่สงสารน่ะค่ะที่ครีมไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่ และที่ใส่อยู่ก็เก่าและขาดด้วยค่ะ”
“เธอจะหาว่าฉันเลี้ยงดูเธอไม่ดีรึไง”
“ไม่ใช่นะคะ”
“ไม่ใช่อะไร ก็พูดอยู่เมื่อกี้”
“ถ้าทำให้น้ายาต้องคิดแบบนั้นหนูก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“รู้สึกว่าจะปากดีขึ้นนะ จะไปไหนก็ไป”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน” ไปรยารีบเรียกเอาไว้เมื่อเห็นว่าลูกเลี้ยงกำลังจะผละเข้าห้องของตัวเอง
“ฉันซื้อกับข้าวมาหลายอย่าง กินไม่หมดอยู่ใต้ฝาชี ถ้าหิวก็กินสิ”
“ค่ะ” คริมารับคำ เธอกะพริบตาปริบ ๆ ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากของมารดาเลี้ยง เธอยังไม่ทันได้ตอบว่ากินมาจากนอกบ้านกับปืนเรียบร้อยแล้ว ไปรยาก็เดินจากไปเสียก่อน
คริมานึกสงสัยจึงไปเปิดฝาชีดู ปรากฏว่ามีกับข้าวหลายอย่าง แต่เธอไม่หิวนี่สิ จึงปิดฝาชีเอาไว้เหมือนเดิม
คนที่แอบมองอยู่ได้แต่เจ็บใจที่คริมาไม่กินอาหารใต้ฝาชี เธออุตส่าห์วางยาเสียดิบดี ถ้าคริมากินเข้าไปจะได้หลับ ๆ ไปแล้วเธอจะได้จัดการจับไปขายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
คริมาเข้าห้องนอนของตัวเอง เธออาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมานอนบนเตียง รู้สึกขอบคุณปืนที่เอื้อเฟื้อต่อเธอขนาดนี้ และนึกแปลกใจที่วันนี้มารดาเลี้ยงไม่ใช้แรงงานเธอจนดึกดื่นเที่ยงคืน
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ไม่ถูกใช้ให้นวดก็ถูกใช้ให้ซักผ้า กวาดบ้านถูบ้าน เตรียมอาหาร สารพัดงานอะไรที่อยากจะใช้ให้ทำ เธอจะขัดก็ไม่มีที่ไป เลยต้องยอมทำตาม จะให้เธอหนีออกจากบ้านในขณะที่ยังเรียนไม่จบมอ. หกก็ไม่มีเงินเลยสักบาท และไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนให้ขอความช่วยเหลือด้วย
บิดานั้นไม่ใช่คนที่นี่แต่ย้ายมาจากที่อื่น และทำงานเก็บเงินจนซื้อบ้านหลังนี้ได้ ท่านเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง อาศัยว่าขยันเลยมีคนจ้างงานมาโดยตลอด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเป็นเบอร์ของปืนนั่นเอง เขาโทร. มาคุยกับเธออยู่บ้างแม้จะไม่บ่อยนัก แต่ก็จะคอยไถ่ถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง มีอะไรให้ช่วยเหลือไหม
“ค่ะเฮีย” เธอรับโทรศัพท์แล้วเผลอยิ้ม
“เป็นยังไงบ้าง”
“อาบน้ำเข้านอนแล้วค่ะ”
“แม่เลี้ยงด่าว่าหรือทำร้ายอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ได้ด่าว่าหรือทำร้ายอะไรค่ะ” จริงๆ ก็โดนด่าบ้างแต่ไม่มาก เธอเลยไม่ได้บอกปืนเพราะไม่อยากให้เขาคิดมาก ท่าทีของเขาเป็นห่วงเธอ เธอรู้ดี
“ดีแล้ว”
“วันนี้น้ายาใจดีกว่าทุกวันค่ะ”
“ใจดียังไง”
“ซื้อกับข้าวมาเผื่อด้วยค่ะ แต่ครีมอิ่มแล้วเลยไม่ได้กินกับข้าวของน้ายาน่ะค่ะ”
“ดีแล้วที่ไม่กิน”
“ทำไมเหรอคะ”
“อาจจะโดนวางยาก็ได้นะ”
“เฮียคิดมากไปหรือเปล่าคะ”
“คิดมากยังดีกว่าคิดน้อย โดนเขาด่าทุกวัน จู่ ๆ มาทำดีด้วยต้องระวังให้มากนะ”
“ค่ะ”
“ถ้ารู้สึกไม่ชอบมาพากลก็หนีมาอยู่กับเฮียได้ตลอดเวลา”
“จะดีเหรอคะ” เธอกัดปากตัวเอง ระหว่างแม่เลี้ยงกับปืน เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งคู่นั่นแหละ อาจเพราะมารดาเลี้ยงไม่หวังดีกับเธอแต่แรก แต่ปืนก็เป็นใครไม่รู้ จู่ ๆ มาทำดีกับเธอ เขาไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอทางสายเลือด แถมยังเป็นผู้ชายอีก จะให้เธอหนีไปอยู่กับเขา เธอคงไม่ทำแบบนั้นอย่างแน่นอน ทั้งไม่เหมาะสม ทั้งอาจจะโดนนินทาไปทั้งซอย มารดาสอนให้เธอวางตัวให้ดี และรักนวลสงวนตัวเอาไว้บ้างเพราะเป็นหญิง เธอยังจำคำสอนของท่านได้ดี
“อะไรที่ว่าไม่ดี”
“เฮียเป็นผู้ชาย แล้วจะให้ครีมหนีไปอยู่กับเฮียเหรอคะ” ยังไงเธอก็ไม่ไว้ใจเขาหรอก ขึ้นชื่อว่าผู้ชายมารดาเคยเอาไว้สอนเอาไว้ว่าไว้ใจไม่ได้วันยังค่ำ
“เป็นผู้ชายแล้วยังไง”
“มันก็ไม่เหมาะสมน่ะสิคะ”
“เฮียจะไม่ทำอะไรครีมหรอก ถ้าครีมไม่ยินยอม”
“แต่คนจะนินทากันทั้งซอยน่ะสิคะ อีกอย่างน้ายาได้ยืนด่าประจานอยู่หน้าบ้านแน่ถ้าครีมหนีไปนอนบ้านเฮียปืน” เธอพูดออกมาตามที่คิด เขาใจดีซื้อโน่นซื้อนี่ให้ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไว้ใจหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปนอนกับเขา ถ้าให้เลือกหนีออกจากบ้าน เธอเลือกหนีไปนอนบ้านเพื่อนผู้หญิงที่เรียนห้องเดียวกันและสนิทกันไม่ดีกว่าเหรอ
ปืนเงียบไปครู่ใหญ่ จนคริมาต้องร้องเรียก พลางมองหน้าจอโทรศัพท์ว่าเขาวางสายไปแล้วหรือยัง
“เฮียปืนคะ”
“อือ...”