3 ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
เหลี่ยมรักหัวใจมาเฟีย
ตอนที่3
ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ห้องทำงานเดชาธร
สิงหาพาตัวเองเดินไปนั่งลงที่โซฟากลางห้องทำงานของผู้เป็นพ่อพร้อมกับยกมือขึ้นมานวดที่ใบหูของตัวเองเบาๆ
"ทำอะไรของแก?"เดชาธรเอ่ยถามลูกชายคนโตพร้อมกับหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลที่อยู่บนโต๊ะทำงานและเดินมานั่งลงที่โซฟาเยื้องๆกับสิงหาลูกชายคนโต
"นวดหูรอครับเวลาพ่อด่า หูผมจะได้ไม่ชา"สิงหาตอบออกไปเพราะรู้ว่าผู้เป็นพ่อจะด่าอะไรออกมา
"แล้วแกมันน่าด่าไหมล่ะฮะ เป็นถึงรองประธานแต่กลับเข้าประชุมสายแล้วแบบนี้พนักงานที่ไหนมันจะเคารพนับถือกันแถมยังไม่ค่อยอยากจะเข้ามาที่บริษัทอีก นี่สิงหาแกหัดทำตัวให้มันสมกับเป็นลูกชายฉันคนโตของฉันหน่อยได้ไหมฮะ!"เดชาธรร่ายยาวอย่างเหลืออดในพฤติกรรมของลูกชายคนโตของตัวเองที่ชอบทำอะไรขัดกับเขาไปซะทุกอย่าง
"การที่ผมไม่ได้เข้าบริษัทมันก็ไม่ได้แปลว่างานในส่วนของผมจะเสียหายสักหน่อยทุกงานที่ผมได้รับมอบหมายผมก็ทำมันไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่นิดเดียวไม่ใช่เหรอครับพ่อ"สิงหาบอกผู้เป็นพ่อเสียงนิ่ง ตัวของสิงหาไม่ชอบเข้าบริษัทแต่งานทุกงานที่ได้รับมาเขาก็ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่นิดเดียวแถมยังทำมันออกมาได้ดีเกินคาดอีกตั้งหาก
"เออ ฉันยอมรับว่าแกทำงานดีแต่ฉันก็อยากให้แกเข้ามาที่บริษัทบ้างให้พนักงานมันนับหน้าถือตาแกบ้าง แกดูอย่างตาสาริศสิเข้าบริษัททุกวันพนักงานเห็นก็เคารพรักกันทั้งนั้น"
"ก็นั้นมันลูกชายคนโปรดของพ่อนี่ พ่อชี้ไปไหนสาริศมันก็เดินตามไปที่พ่อชี้ พ่ออยากให้มันเรียนอะไรทำอะไรสาริศมันก็ทำหมดแต่กับผมมันไม่ใช่เพราะว่าผมมีชีวิตเป็นของตัวเอง"สิงหาบอกและมองผู้เป็นพ่อนิ่ง
สิงหาเป็นลูกชายคนโตของเดชาธรกับจารวีภรรยาคนแรก เดชาธรผู้เป็นพ่อเลิกรากับแม่ของสิงหาตั้งแต่สิงหาอายุได้สิบห้าปีเพราะผู้เป็นพ่อนอกใจแม่ไปทำผู้หญิงคนหนึ่งท้องและผู้หญิงคนนั้นก็คือรวิภาและรวิภาก็มีลูกชายก็คือสาริศที่ตอนนี้เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้เป็นพ่อของสิงหา
จากที่เคยเป็นลูกรักก็กลายเป็นลูกที่พ่อไม่สนใจเพราะว่าพ่อมีลูกชายคนใหม่แต่ถ้าถามว่าสิงหาสนใจไหม ตอบได้เลยว่าไม่! สิงหาไม่ได้สนใจว่าตัวเขาจะเป็นลูกรักหรือลูกที่พ่อไม่สนใจแต่ในเมื่อเขาเป็นลูกชายคนโตของเดชาธรอย่างถูกต้องตามกฎหมายทรัพย์สินที่มันจะต้องเป็นของเขามันก็ต้องเป็นของเขาเท่านั้นไม่มีสิทธิ์กระเด็นไปเป็นของคนอื่น
โดยเฉพาะกับรวิภาภรรยาใหม่ของผู้เป็นพ่อและสาริศน้องชายต่างมารดาทั้งสองคนไม่มีสิทธิ์ที่จะมาแตะของๆเขาเด็ดขาดเพราะตัวสิงหาไม่ยอมแน่และเรื่องนี้แหละที่สิงหาสนใจมากที่สุด
"เอาล่ะฉันไม่อยากจะเถียงกับแกแล้วเอาเป็นว่าฉันมีอะไรอยากให้แกช่วยสักหน่อย"
"พ่ออยากให้ผมช่วยอะไร?"สิงหาถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
"ฉันอยากได้ที่ดินผืนนี้แต่เจ้าของมันไม่ยอมขายเพราะมันจะโก่งราคาให้สูงเข้าไว้ ฉันอยากให้แกช่วยฉันเอาที่ดินตรงนี้มาให้ฉันหน่อยในราคาที่ฉันต้องการ"เดชาธรวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าของสิงหา
"..."สิงหาหยิบซองเอกสารมาเปิดดู ในซองเอกสารมีรูปถ่ายที่ดินที่ผู้เป็นพ่ออยากได้
"ถ้าแกเอาที่ดินผืนนี้มาให้ฉันได้ฉันจะยกหุ้นของฉันสิบเปอร์เซ็นต์ให้แก"
"แล้วทำไมพ่อไม่ทำเองทำไมต้องเป็นผมด้วย"สิงหาถามผู้เป็นพ่ออย่างไม่เข้าใจ
"ก็แกมันเล่ห์เหลี่ยมเยอะฉันเชื่อว่าแกจะเอาที่ดินตรงนี้มาให้ฉันได้ง่ายๆ"เดชาธรมั่นใจในตัวลูกชายคนโตมากเพราะรู้อำนาจในมือของลูกชายคนโตดีว่ามันก็ระดับใหญ่ไม่ใช่น้อยจะเรียกว่าระดับมาเฟียก็ใช่เพราะลูกชายเขามันก็เป็นมาเฟียเนี่ยแหละแต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นความเจ้าเล่ห์และเล่ห์เหลี่ยมในตัวของสิงหามันมีมากเกินจนคนเป็นพ่ออย่างเขายังตามไม่ทันเลย
"ที่ดินทำเลทองดีๆแบบนี้ใครๆก็อยากได้กันทั้งนั้นถ้าผมเอามาให้พ่อแล้วได้แค่สิบเปอร์เซ็นต์สำหรับผม ผมว่ามันไม่คุ้ม"สิงหาบอกและวางซองเอกสารลงบนโต๊ะตรงหน้าผู้เป็นพ่อ
"แกหมายความว่าอย่างไงสิงหา?"เดชาธรเอ่ยถามขึ้นทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าลูกชายคนโตไม่พอใจกับหุ้นแค่สิบเปอร์เซ็นต์
"สามสิบเปอร์เซ็นต์แล้วผมจะเอาที่ดินตรงนี้มาให้พ่อ ที่ดินทำเลทองตรงนั้นพ่อสามารถเอาไปต่อยอดได้อีกเป็นร้อยๆล้านเลยนะแต่ผลตอบแทนที่พ่อจะให้ผมมันช่างไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่"สิงหาเอ่ยบอกกับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงและสายตาที่เรียบนิ่ง
ที่ดินทำเลทองที่พ่อเขาอยากได้มันอยู่ติดกับถนนใหญ่แถวxxxที่นักค้าขายนักลงทุนทุกคนต่างอยากได้กันทั้งนั้นและรวมถึงพ่อเขาด้วย
และยิ่งตัวของสิงหาต้องไปแย่งชิงที่ดินผืนงามนี้กับพวกนักลงทุนที่เงินเหลือแบบนั้นตัวเขาก็ต้องได้ผลตอบแทนที่มันคุ้มค่ามากกว่านี้สักหน่อย
"ไอ้สิงหาฉันเป็นพ่อแกนะ มันจะไม่มากไปหน่อยหรือไงกับสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่แกจะได้จากฉัน ก็แค่ให้ไปเอาที่ดินมาแค่เนี่ยเรื่องง่ายๆ!"เดชาธรไม่เข้าใจลูกชายคนโตของตัวเองเลยสักนิดนี่ขนาดเป็นพ่อมัน มันยังขูดเลือดขูดเนื้อเขาขนาดนี้เลย
"ถ้ามันง่ายขนาดนั้นพ่อคงไม่มาขอให้ผมช่วยหรอกถูกไหม? ก็แล้วแต่พ่อนะถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว"สิงหาทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกเดชาธรผู้เป็นพ่อจับแขนเอาไว้
"...ก็ได้ ฉันจะให้แกสามสิบเปอร์เซ็นต์แต่แกต้องเอาที่ดินตรงนั้นมาให้ฉันภายในสองอาทิตย์ถ้าช้ากว่านั้นก็แค่สิบเปอร์เซ็นต์แค่นั้น"ในเมื่อไม่มีทางเลือกเดชาธรจึงตกปากรับคำกับลูกชายคนโตอย่างเลี่ยงไม่ได้
"เจ็ดวัน อีกเจ็ดวันผมจะเอาที่ดินตรงนั้นมาให้พ่อ พ่อเตรียมโอนหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ให้ผมได้เลย"สิงหายกยิ้มให้ผู้เป็นพ่ออย่างมั่นใจ