บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

เสียงของหล่นโครมครามที่ด้านหลังร้าน ทำให้หญิงวัยกลางคนที่กำลังนั่งคิดเงินอยู่ถึงกับสะดุ้ง แล้วถอนใจพลางบ่นกับตัวเองเบาๆ

“เอาอีกแล้ว ยายกล้วย”

ร่างเล็กบางของหญิงสาวผิวขาวผ่อง ใบหน้าเรียวรูปไข่ เครื่องหน้าจิ้มลิ้มประกอบด้วย นัยน์ตายาวรี จมูกโด่งปลายรั้นเล็กน้อย ริมฝีปากรูปกระจับแดงเรื่อ เรือนผมยาวตรงเกือบถึงสะโพกมัดไว้เป็นหางม้า เจ้าตัวทำหน้าเบ้ เมื่อเดินกระเผลกๆ ออกมาจากหลังร้าน เมื่อเห็นหน้าลูกสาวเข้า ปราณีก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆ

“อะไรแตก อะไรพังอีกหรือเปล่าวันนี้”

“ขากล้วยยังไงล่ะแม่” กันตาอวดรอยเขียวช้ำที่เรียวขาให้กับมารดาดู เธอไปล้างจานที่หลังบ้าน แล้วเตะเข้ากับถังน้ำเต็มๆ จนถังน้ำล้มลง รวมถึงตัวเธอที่ลื่นล้มบนพื้นกระเบื้องด้วย เล่นเอาต้องเดินกระเผลก ท่านค้อนเอาขวับ แล้วถอนใจอีกรอบอย่างปลงๆ กับความซุ่มซ่ามห้าดาวของลูกสาวคนเดียว

“ดีแล้วที่จานไม่แตก เดือนนี้ครบโหลหรือยังล่ะ”

“แม่อ่ะ” กันตาทำแก้มป่อง แล้วทำหน้างอใส่มารดา “แล้วลูกสาวคนเดียวอย่างกล้วย แม่ไม่ห่วงว่าจะแข้งขาหักบ้างหรือไงนะ ห่วงแต่จาน”

“เราน่ะแม่ไม่ห่วงหรอก เพราะซุ่มซ่ามประจำจนแม่ชินแล้ว ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ว เฮ้อ...”

“แม่...” คนตัวเล็กลากเสียงยาว ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อที่มารดาไม่สนใจเธอ สนใจแต่เรื่องจาน เล่นเอาปราณีต้องอมยิ้ม ชอบใจที่ได้แกล้งลูกสาว นางเอื้อมมือโคลงศีรษะทุยสวยนั้น ก่อนจะหยิกแก้มใสๆ แดงเรื่อของบุตรสาวแรงๆ เหมือนจะแกล้ง

“เจ็บนะแม่จ๋า” กันตาพ้อ แล้วยกมือสองข้างปิดแก้มใสไว้ มารดาหัวเราะเบาๆ แล้วก้มลงดูที่ขาให้กับลูกสาว นางกดแผลซ้ำเหมือนจะแกล้ง เล่นเอาแม่ตัวดีต้องร้องเสียงดังลั่นร้าน

“เจ็บหรือไง เจ็บจะได้จำ จะได้เดินดีๆ ไม่ซุ่มซ่ามอีก มาแม่ทายาหม่องให้” ว่าแล้วก็เปิดลิ้นชัก ควักเอาตลับยาหม่องออกมา กันตาย่นจมูกเมื่อโดนดุเอาแบบนั้น สูดปากเบาๆ เมื่อท่านแกล้งทำหนักมือไปนิดหนึ่ง

“เย็นนี้พ่อไม่อยู่ เรากินอะไรง่ายๆ กันก็แล้วกันนะ ไปซื้อข้าวกล่องเซเว่นมาเวฟกินดีไหม?” ข้อเสนอของมารดา ทำให้กันตาอมยิ้ม แล้วก็หัวเราะกิ๊กอย่างอดไม่อยู่

“ไหนแม่บ่นว่าเซเว่น ทำให้กิจการมินิมาร์กบ้านเราขายได้น้อยกว่าเมื่อก่อนยังไงล่ะจ้ะ แล้วไหงจะไปอุดหนุนของเค้าอีกล่ะ ขนาดกล้วยจะไปกดสเลอปี้กินยังต้องแอบเลย กลัวแม่จะด่าเอา”

“แหม...ก็มันอร่อย แล้วก็ง่ายๆ ดีนี่นา อย่ามาพูดมากเลยเราน่ะ” ปราณีแกล้งเอ็ดแล้วก็ลอบยิ้ม นางทำกิจการมินิมาร์กอยู่ในชุมชนแห่งนี้มาเกือบสิบห้าปีแล้ว จนมาเมื่อไม่กี่ปีก่อนร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ก็มาผุดขึ้นถึงสองร้าน ตรงบริเวณใกล้ๆ ที่นางและทัศน์เปิดกิจการอยู่เดิม ทำให้ยอดขายตกลงไปค่อนข้างมาก ตอนนี้สามีของนางมีอาชีพเสริมก็คือขายประกันชีวิต ส่วนนางเองก็ตั้งร้านน้ำเต้าหู้เพิ่มที่หน้าร้าน เพื่อจะได้อยู่ได้

ครอบครัวของปราณี มีกันแค่สามคนพ่อแม่ลูก ส่วนญาติคนอื่นๆ อยู่ที่ต่างจังหวัดนางมาทำงานที่กรุงเทพฯเพราะหนีชีวิตยากจนที่ชนบท มาทำงานเพื่อส่งเสียให้ทางบ้าน มาเจอเข้ากับทัศน์ชายหนุ่มที่กำพร้าพ่อแม่ แต่ก็ขยันนักเป็นพ่อครัวอยู่ที่ร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง เขาและเธอเจอกันทุกวัน เพราะปราณีมักจะไปกินอาหารที่ร้านของเขาหลังจากเลิกงานโรงงานแล้ว ทั้งสองเริ่มถูกชะตา และคบหากัน จนในที่สุดก็ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน ด้วยความที่เป็นคนขยันเก็บเงิน ในที่สุดทั้งทัศน์และปราณีก็สร้างตัวได้ มีพยานรักด้วยกันคือกันตา ซึ่งเป็นโซ่ทองและพลังใจอย่างดีเยี่ยม ในการที่ทำให้คนทั้งคู่สร้างอนาคตเพื่อลูกสาวคนเดียวได้เป็นปึกแผ่น

กันตาพึ่งจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยหมาดๆ เธอเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจว่าบิดามารดามีทุนรองรังหรือกิจการเตรียมไว้ให้เธอในอนาคต กันตาอยากจะลองทำงานและทำตามความฝันของตนเอง เธออยากมีร้านขายเบอเกอรี่เล็กๆ เป็นของตัวเอง ซึ่งทุนรอนนั้น เธอคิดว่าจะหาเอง ทำด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งพาท่านทั้งสอง

หญิงสาวเรียนจบมาได้เกือบสี่เดือนแล้ว เธอหางานทำทุกวันอย่างไม่ย่อท้อ และในที่สุดวันนี้เธอก็ได้รับข่าวดี งานที่เธอไปสัมภาษณ์ไว้เรียกเธอไปทำงานวันพรุ่งนี้ แต่กันตาอุบข่าวดีนี้ไว้ก่อน ตั้งใจจะบอกทั้งบิดาและมารดาพร้อมๆ กัน ใบหน้าหวานยิ้มระรื่นเมื่อนึกถึงความสำเร็จอีกก้าวของตนเอง เธออาสาไปซื้อข้าวกล่องกลับมาอุ่นกินง่ายๆ กันที่ร้านกับมารดา กินไปยิ้มไป จนปราณีต้องย่นหัวคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าระรื่นผิดปรกติของลูกสาว สองแม่ลูกนั่งกินข้าวเย็นกันอยู่ตรงหน้าเคาร์เตอร์เครื่องคิดเงินอย่างไม่มีพิธีรีตอง เพื่อจะได้ดูลูกค้าไปด้วย

“เป็นอะไรไปนะกล้วย ยิ้มตาปิดเชียวลูกสาวฉัน อย่าไปยิ้มแบบนี้กับไอ้หนุ่มที่ไหนนะ จะโดนหอมแก้มฟรีแล้ววิ่งหนีเอา” คำเอ่ยล้อเลียนของมารดา ทำให้กันตาหุบยิ้ม แถมทำตาโตอีกต่างหาก ก่อนจะทำเสียงแง้วๆ ใส่ท่าน

“แม่ ล้อกล้วยอีกแล้ว มรดกตาตี่แบบนี้ของพ่อให้มาทำไมก็ไม่รู้” กันตาบ่น เล่นเอาปราณีถึงกับหัวเราะจนแทบจะสำลักข้าว ลูกสาวของนางมีนัยน์ตายาวรี เวลายิ้มเหมือนตายิ้มไปด้วย จึงมักจะถูกล้อเลียนจากนางบ่อยๆ เพราะปราณีเป็นคนที่ตาโตที่สุดในบ้าน ส่วนทัศน์เป็นหนุ่มลูกครึ่งจีน เขาจึงถ่ายทอดพันธุกรรมเด่นมาให้ลูกสาว ทั้งเรื่องผิวขาวเนียนใส และนัยน์ตาที่ยาวรี แต่กันตาได้ความสูงมาจากมารดาที่ตัวเล็กไม่สูงมากนัก เธอจึงเป็นสาวหมวยไซส์มินิ ที่ดูน่ารักน่าหยิกนัก

“แล้วนั่งยิ้มอะไรนักหนา หรือว่ามีคนมาจีบ” คำถามนั้นเล่นเอากันตาถึงกับสำลักน้ำที่กำลังดื่มเข้าไป จนต้องหาน้ำซับกันให้วุ่นวาย

“โธ่แม่ ดูเดาเข้า ถ้ามีหนุ่มมาจีบกล้วยไม่ยิ้มหวานแบบนี้เฉยๆ หรอก” แม่ตัวเล็กเมื่อหายสำลักได้แล้ว เธอก็หันมายิ้มกว้างให้กับมารดา

“กล้วยจะปิดหมู่บ้านฉลองไปเลยสามวันสามคืน ไม่แค่ยิ้มแบบนี้หรอก”

“ดูพูดเข้า!” ปราณีกุมขมับ “ลูกสาวฉัน”

“กล้วยล้อเล่นน่ะแม่ อย่างกล้วยใครจะมาจีบกัน” กันตาทำหน้าเชิด แล้วปั้นหน้าสวยทันที “กล้วยน่ะดีเกินไปสำหรับผู้ชายในโลกนี้ กล้วยสวยเกินไปจนพวกผู้ชายทั้งหลายตาไม่ถึงน่ะแม่ ถึงได้โสดสนิทไม่มีแฟนมาจนถึงตอนนี้”

“เฮ้อ...ฉันล่ะกลุ้ม” นางอดหัวเราะขำลูกสาวคนเดียวไม่ได้ กันตาเองก็อมยิ้ม ก่อนจะตัดสินใจพูดถึงเรื่องที่เธอต้องมานั่งยิ้มไม่หุบแบบนี้ออกมา

“กล้วยดีใจเรื่องที่กล้วยได้งานแล้วต่างหากล่ะจ้ะแม่”

“ก็ดีนะ เอ๊ะ! ตะกี้กล้วยว่าอะไรนะลูก” ปราณีทำตาโตเลยทันที แล้วถามย้ำอีกครั้งเหมือนจะให้แน่ใจ กันตายิ้มจนตาหยี ก่อนจะบอกอีกรอบช้าๆ ชัดๆ

“กล้วยได้งานทำแล้วจ้ะแม่ เริ่มงานพรุ่งนี้ ที่โรงแรมแกรนด์ รอยัล เบส”

“โอ๊ย! จริงๆ นะเหรอลูก แม่ดีใจด้วยจริงๆ มาขอแม่กอดคนเก่งหน่อย” ปราณีอ้าแขนออก กันตาเลยโผเข้ากอดท่านทันที ใบหน้าหวานใสยิ้มอย่างปลื้มใจกับสิ่งที่ตนเองทำได้ในที่สุด

“ไว้เงินเดือนๆ แรกของกล้วยออก กล้วยจะเลี้ยงมื้อใหญ่ๆ เลยนะจ้ะ พาแม่กับพ่อไปกินเหลาเลย”

“เอาแค่ก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านยายแป้นก่อนก็ได้ลูก อิอิ ไม่ต้องเลี้ยงแพงนักหรอก แม่กลัวกล้วยจะมาขอตังไปทำงาน เพราะเงินไม่พอเอา” ปราณีว่าล้อๆ เล่นเอาลูกสาวต้องค้อนขวับ

“แม่อ่ะ”

“พรุ่งนี้เดี๋ยวแม่จะให้พ่อไปส่งถึงหน้าโรงแรมเลยดีไหม? จริงสิ แม่จะพาไปซื้อเสื้อใหม่เป็นของขวัญที่กล้วยได้งานทำด้วย ปิดร้านไปชอปปิ้งกันดีกว่า วันนี้งบไม่อั้น”

“ไม่อั้นจริงๆ นะจ้ะ” แม่ลูกสาวถึงกับตาเป็นประกายวับขึ้นมาเลยทันที เมื่อปราณีพูดขึ้นมาแบบนั้น เพราะปรกติแล้วมารดาของเธอค่อนข้างจะเขียม มีเพียงแต่บิดาเท่านั้นที่จะเอาใจกันตาหน่อยในเรื่องการใช้จ่าย ปราณีทำท่าลังเลนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้า

“ไม่อั้น แต่ไม่เกิน เอ่อ...สองพัน วันนี้แม่ทุ่มสุดๆ แล้วนะ”

“โอเคเลยค่ะ สองพันก็สองพัน กล้วยใช้เงินแม่คุ้มแน่ๆ” กันตาทำหน้าเจ้าเล่ห์ ปราณีหยิกแก้มใสๆ นั่นเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะช่วยกันเก็บร้านให้เรียบร้อย เพื่อพาลูกสาวไปซื้อของขวัญ เพื่อให้กำลังใจในการทำงานวันแรก

หวังว่าการไปทำงานวันแรกของเธอ จะราบรื่นนะ หญิงสาวคิดในใจ ใบหน้าหวานใสยังคงเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม ก้าวแรกของการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวของกันตา กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel