บทที่ 3
“จู่ๆ เราก็ร้องไห้ จะไม่ให้พี่ตกใจได้ยังไงกันล่ะ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ว่าแต่จะไปเกาะปะการังกันไหม” เขาเอ่ยซ้ำอีกรอบ เกาะปะการังคือเกาะส่วนตัวของครอบครัวอดิเรกนุกุล พวกเขามีบ้านพักเป็นส่วนตัวอยู่ที่นั่น อยู่ห่างจากภูเก็ตไม่ไกลนัก มีปะการังสวยงามมากมายอยู่ตรงท้ายเกาะจึงตั้งชื่อว่าเกาะปะการัง และตุลธรก็อยากจะไปดำน้ำที่นั่นเพราะได้ยินอินทัชเอ่ยถึงความสวยงามของมันมานาน เขาจึงอยากจะไปเจรจาเรื่องธุรกิจกับอินทัชที่เกาะปะการัง เพราะถือว่าเป็นการไปพักผ่อนด้วยเขาอยากจะตามใจคู่หมั้นสาวที่บอกว่าชอบทะเลมาก และเห็นว่าทะเลเมืองไทยก็สวยเป็นหนึ่งในโลกไม่แพ้ใคร จึงขออินทัชว่าอยากจะพาเธอมาเที่ยวด้วย
“ไม่ไปดีกว่าค่ะ เอยต้องซ้อม” เธอกลืนน้ำตาแห่งความเศร้าหมองลงไป พยายามไม่ให้มันไหลออกมาฟ้องความอ่อนแอของหัวใจอีก
“ว่าแล้วเอยไปซ้อมก่อนนะคะพี่อิน รับรองว่าจะไม่ทำให้พี่อินผิดหวังค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ อ้อ...ฝากสวัสดีพี่ตุลย์แล้วก็คู่หมั้นด้วยนะคะ” ว่าแล้วเธอก็เดินแกมวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พี่ชายต้องมองตามอย่างสงสัย กับอาการแปลกๆ ของน้องสาว แต่อินทัชก็ลืมไปได้ในเวลาอันไม่นานนัก เพราะตอนนี้เขาเองก็มีเรื่องให้ครุ่นคิดมากกว่าที่จะนึกสงสัยกับอาการที่แปลกไปของอิษยา
เรื่องที่อินทัชกำลังคิดไว้ ก็คือเรื่องจะจัดการอย่างไรกับผู้หญิงที่เคยทำร้ายหัวใจเขาอย่างไรดี ชายหนุ่มหรี่ตา คนอย่างเขายอมเสียอะไรได้หมด ยกเว้นเสียศักดิ์ศรี คอยดูเถอะ ธุวดาราต้องเสียดายเขา เสียใจที่เคยทำร้ายหัวใจเขา อินทัชกัดริมฝีปาก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลุกให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ เขาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกขึ้นมา เบอร์โทรศัพท์ของปลายสายทำให้เขายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกดรับ แล้วกรอกเสียงห้าวทุ้มลงไป
“ว่ายังไง? หนึ่ง”
“โทรศัพท์มาคุยกับเพื่อนบ้างานยังไงล่ะอิน” ปลายสายหัวเราะกิ๊ก ก่อนจะแสร้งทำเสียงดุๆ ใส่เขา “จะโทรมาต่อว่า เรื่องไม่ยอมไปงานวันเกิดของเรา ส่งไปแต่ของขวัญ คิดเหรอยะ ว่าต่างหูมุกมันจะทำให้หนึ่งหายโกรธ”
“ก็คิดไว้อย่างนั้นน่ะสิ” อินทัชหัวเราะ “เห็นว่าหนึ่งชอบมุกยังไงล่ะ ถึงได้ส่งไปให้”
“แหม...เห็นว่าหนึ่งชอบ หรือว่าเป็นของเหลือที่กะจะเอาไปกำนัลคู่ควงคนล่าสุดของอินกันแน่” เพชรน้ำหนึ่งทำเสียงกระเง้ากระงอดอย่างไม่จริงจังนัก เขารู้จักเธอดีจึงรู้ว่าเธอเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น ไม่ได้ต่อว่าจริงจังอะไร
“ก็ทิฟฟานี่เขาไม่ชอบมุกนี่นา หึๆ เลยเหลือเอาไว้ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี เอาเก็บไว้ให้หนึ่งดีกว่า”
“จริงเหรอเนี่ย? อินใจร้ายมากๆ”
“ผมล้อเล่นหรอก ตั้งใจซื้อให้กับหนึ่งนั่นแหละ สุขสันต์วันเกิดนะครับ ไว้ว่างๆ ผมจะไปเยี่ยมหนึ่งที่ร้านดอกไม้” อินทัชว่าเสียงทุ้ม
“ขอให้มีเวลามาเถอะ แต่อินไม่ต้องมาก็ได้ สั่งดอกไม้ร้านหนึ่งไปจีบสาวแทนดีกว่า” เพชรน้ำหนึ่งว่าเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นจริงจังมากขึ้น เมื่อเอ่ยประโยคต่อไป
“ว่าแต่ว่า อินเลิกกับทิฟฟานี่แล้วเหรอ? มีอะไรกันหรือไง เห็นเค้าประกาศออกโครมๆ ว่าเค้าจะหมั้นกับอินแล้วนี่”
“หึๆ” อินทัชยิ้มหยัน เมื่อนึกถึงหญิงสาวสวยแสนเซ็กซี่ นางแบบสุดร้อนแรงที่มีชื่อว่าทิฟฟานี่ เธอก็เหมือนคนอื่นๆ นั่นก็คือคบกับเขาเพราะเปลือกนอก รูปร่างหน้าตา และยิ่งกว่านั้นก็คือฐานะของเขา ยิ่งคบหากันเขาก็ยิ่งดูเธอได้ทะลุราวกับมองกระจกใส ว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือ ธุวดาราคนที่สอง แล้วเรื่องอะไรเขาจะต้องให้เธอมาเป็นแม่ของลูกเขาด้วยเล่า ทันทีที่เธอเผยตัวตนออกมา อินทัชก็ผละหนีอย่างรวดเร็ว
“ทำมาหัวเราะ เห็นคบกันอยู่ตั้งนาน เอ...สำหรับอินก็นานแหละ ตั้งสี่เดือน” เพชรน้ำหนึ่งถอนใจ นึกถึงใบหน้าของอินทัชที่อยู่ปลายสายแล้วก็ส่ายหน้าน้อยๆ เพื่อนชายคนสนิทของเธอ รูปร่างหน้าตาจัดว่าหล่อเหลาหาตัวจับยาก คิ้วเข้ม นัยน์ตาคมกริบ มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างมหาศาล จึงมีสาวๆ เรียงเข้าไปให้เลือกมากมาย แต่เพื่อนชายของเธอก็กระไร ไม่เคยจริงจังกับใครสักคน จนเธอนึกเป็นห่วง ว่าพ่อพวงมาลัยจะติดโรคเข้าสักวัน
“ช่างผมเถอะน่า แต่ว่าตอนนี้ผมโสดน่ะสิ เลยไม่รู้จะส่งดอกไม้สวยๆ จากร้านของหนึ่งไปให้ใคร เอาแบบนี้ดีกว่า ดอกกุหลาบสีขาวสำหรับมิตรภาพ สามสิบดอกเท่ากับอายุของหนึ่ง ให้กับหนึ่งเลยดีไหมครับ?”
“จะบ้าหรือไง หนึ่งไม่จัดดอกไม้ให้ตัวเองหรอกย่ะ” ถ้าเขาอยู่ใกล้ๆ เธอไม่ใช่โทรศัพท์คุยกันแบบนี้ล่ะก็ คงไม่แคล้วต้องเอื้อมมือไปหยิกเขาเข้าสักทีแล้วแน่ๆ ข้อหากวนประสาทนัก
“มีหนุ่มๆ มาสั่งดอกไม้ให้แล้วล่ะสิ ถึงไม่อยากได้ดอกไม้จากผม” อินทัชว่าอย่างล้อเลียน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า เพื่อนสาวของเขาคนนี้แม้จะเป็นหญิงสาวสวย เปรี้ยว บุคลิกเฉี่ยวไฉไลแบบสาวนักทำงาน เพชรน้ำหนึ่งก็ทำแต่งาน เป็นสาวไฮเปอร์ที่ไม่เคยอยู่นิ่งๆ ได้ ไม่เคยสนใจใครหน้าไหน แม้ว่าจะมีหนุ่มๆ เข้าคิวมาจีบมากมายก็ตามที เรียกได้ว่าเป็นสาววัยสามสิบกะรัต ที่มีแต่คนเฝ้าปองอยากจะได้เธอมาไว้ในอ้อมกอด
“มีที่ไหนกันยะ ว่าแต่อย่างอินจะโสดนานไหมเหอะ ไม่อยากจะเชื่อ”
“เชื่อกันหน่อยสิหนึ่งว่ารอบนี้โสดแล้วจริงๆ” อินทัชว่า เสียงของเพชรน้ำหนึ่งทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมากเลยทีเดียว จากการที่หมกมุ่นอยู่กับตนเองเมื่อครู่
“จะพยายามเชื่อ ว่าแต่ว่าถ้าอินกับหนึ่งยังโสดสนิท ไปจนสักห้าหกสิบ เรามาแต่งงานกันเองไหม?”
“เฮ้ย! จะดีเหรอหนึ่ง” คำอุทานของอินทัช เล่นเอาเพชรน้ำหนึ่งถึงกับหัวเราะกิ๊ก
“พูดเล่นหรอก ตกใจไปได้ เราไม่เหมาะกันหรอก เรารู้จักกันดีเกินไป ว่าแต่ว่ารุ่นเราก็เหลืออีกไม่กี่คนแล้วนะ ที่ไม่แต่งงานน่ะ” คำพูดของเพชรน้ำหนึ่งกระตุ้นเตือนเขาขึ้นมาอีกจนได้เกี่ยวกับเรื่องของธุวดารา อินทัชหรี่ตา เมื่อนึกถึงหญิงสาวที่แสนจะมั่นใจในเสน่ห์ของตนเองอย่าง ธุวดารา ถ้ามาเจอหน้าเขาอีกที เจ้าหล่อนจะทำหน้าอย่างไรกันนะ ถ้ารู้ว่าเขาไม่ได้กระจอกด้อย และเขาจะต้องทำให้เธอคิดว่าเธอไม่อาจจะได้เขาไว้ในมืออีก ให้เสียดายเขาแบบสุดๆ ไปเลย
“คิดออกแล้ว!”
“อุ้ย!” ปลายสายอุทานอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ เพื่อนสนิทที่กำลังคุยเล่นกันอยู่ดีๆ ก็โพล่งออกมาแบบนั้น เพชรน้ำหนึ่งกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะกรอกเสียงลงไปอย่างงงๆ
“อะไรของอินกันน่ะ อะไรคิดออกแล้ว งงนะเนี่ย?”
“หนึ่งยังเปิดโมเดลิ่งอยู่ไหม?”
“ยังทำอยู่สิ แต่ตอนนี้ให้พี่แอ๋วช่วยดู หนึ่งไปบ้างไม่ไปบ้าง กำลังยุ่งกับร้านดอกไม้”
“อืม...ช่วยหาสาวๆ สเป็คนี้ให้ผมหน่อยสิ ผมให้ค่าจ้างสามแสนบาท” คำพูดของอินทัช ยิ่งทำให้เพชรน้ำหนึ่งงงเป็นไก่ตาแตก ว่าเพื่อนสนิทกำลังจะเล่นอะไรกันแน่
“สามแสนเลยเหรอ?”
“สามแสนบาท ให้ค่าเปอร์เซ็นต์กับโมเดลิ่งของหนึ่งด้วย แล้วแต่เรียกร้องเลย ไปทำงานกับผมสามอาทิตย์ ผมต้องการผู้หญิงหุ่นดี สูง 175 ขึ้นไป ผิวขาว หน้าตาสวยแบบเซ็กซี่แล้วก็ท่าทางกิริยามารยาทดูดี ขอสักเอ่อ...”ประโยคหลังอึกอักเล็กน้อย แต่สเป็คไปแล้วแบบนี้ ก็ต้องบอกให้หมด เขาจะทำให้ธุวดาราซึมไปเลย เมื่อเห็นผู้หญิงคนใหม่ของเขาเข้า อินทัชคิดในใจ
“ผมขอคัพดี เอวไม่เกิน 25 สะโพกไม่เกิน 36 หาให้ผมได้ไหม จะเรียกค่าจ้างเกินสามแสนก็ได้นะ ผมให้ไม่อั้น ส่งรูปมาให้ผมคัดด้วยก็ยิ่งดี”
“อินจะจ้างไปทำไมเหรอ? ไปทำงานอะไร” คำที่เพื่อนสนิทร่ายมายิ่งทำให้เพชรน้ำหนึ่งยิ่งงงหนัก ว่าพ่อเจ้าประคุณจะให้หาผู้หญิงที่ว่าไปทำอะไรกันแน่ อินทัชหัวเราะหึๆ ก่อนจะตอบตามตรงว่า
“ผมจะจ้างไปเป็นแฟน”
“หา!” เพชรน้ำหนึ่งแทบจะทำโทรศัพท์หลุดร่วงลงจากมือ เมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ตกลงเธอหูฝาด หรือว่าเพื่อนชายของเธอเพี้ยนจัดไปแล้วกันแน่
“ร้อนมากหรือเปล่าน่ะอิน จู่ๆ ถึงได้คิดทำอะไรเพี้ยนๆ แบบนี้ขึ้นมา ล้อเล่นหรือเปล่า?”
“หึๆ เอาน่า หามาให้ผมหน่อยก็แล้วกันน่ะหนึ่ง ช่วยผมหน่อยก็แล้วกัน”
“โอเคๆ ตกลง เดี๋ยวหนึ่งจัดการให้ก็แล้วกัน” เพชรน้ำหนึ่งยังคงงงไม่หาย แต่ก็ยอมทำตามที่เพื่อนสนิทร้องขอแต่โดยดี สงสัยอินทัชจะล้อเธอเล่นแน่ๆ คงจะจ้างไปเป็นพรีเซ็นเตอร์เปิดตัวสินค้าเสียมากกว่า
“แล้วคุณจะต้องรู้จักผมมากกว่านี้ ธุวดารา” อินทัชยิ้มอย่างหมายมาด จะว่าเขาบ้า หรือเพี้ยน เขาก็ยอมกันล่ะงานนี้ มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีนี่นา คนอย่างเขาฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ แล้วก็ต้องทำทุกวิถีทางด้วย เพื่อจะได้แก้ลำคนที่เคยทำให้เขาเจ็บแสบหัวใจจนแทบปางตาย