บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ฉาดใหญ่ (1/2)

“เจียวมี่!”

เฟิ่งเหลียนฮวาทบทวนตัวเองจนแน่ใจดีแล้วว่า นางมีโอกาสได้ย้อนเวลากลับมาแก้ไขเรื่องราวชีวิตที่น่าบัดซบของตัวเองอีกครั้ง นางก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในทันที

เสียงหวานก้องกังวานร้องเรียกบ่าวรับใช้คนสนิทในทันที ไม่นานร่างเล็กของเจียวมี่ก็รุดเร่งเข้ามายังห้องนอนของนางด้วยความรีบร้อน

“คุณหนู มีกระไรหรือเจ้าคะ” เจียวมี่ยืนหอบหายใจถี่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพราะรีบร้อนวิ่งมา

“เจ้าว่าอาภรณ์ของข้า และข้าวของเครื่องใช้พวกนี้ดูจืดชืดเกินไปหรือไม่ อยู่ดี ๆ ข้าเห็นแล้วก็อยากจะอาเจียนขึ้นมา แปลกพิกล”

ว่าแล้วเฟิ่งเหลียนฮวาก็มีท่าทีพะอืดพะอมราวกับจะอาเจียนขึ้นมาเสียอย่างนั้น และนับว่าเป็นครั้งที่สองของวันที่นางทำให้เจียวมี่ได้แต่นิ่วใบหน้าที่อาบไปด้วยความสงสัย

“คุณหนู ท่านก็ชอบอาภรณ์สีขาวอยู่แล้วนี่เจ้าคะ”

“หากข้าจะบอกว่าตอนนี้ข้าไม่ชอบเล่า” เฟิ่งเหลียนฮวาแตะปลายนิ้วชี้เข้าด้วยกัน พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคิด

“ไม่ชอบก็เปลี่ยนสิเจ้าคะ จะยากอะไร” เจียวมี่ได้แต่ยืนทำตาปริบ ๆ

“อ่า…นั่นแหละที่ข้าต้องการ เช่นนั้นเจ้าก็เปลี่ยนให้ข้าตั้งแต่ประเดี๋ยวนี้ เปลี่ยนให้หมด หลังจากนี้เรือนของข้าจะไม่มีสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นสีขาวอีกต่อไป!” เมื่อเฟิ่งเหลียนฮวาเอ่ยปาก มีหรือที่บ่าวไพร่ภายในเรือนจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่ง

“จะ…เจ้าค่ะ ว่าแต่คุณหนูต้องการสีใดหรือเจ้าคะ”

เจียวมี่เริ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่เริ่มจะผุดขึ้นตามกรอบหน้า เรือนหลังนี้เล็กเสียที่ไหนกัน เห็นทีตั้งแต่ตะวันขึ้นยันดวงตะวันตกดินก็ไม่อาจแล้วเสร็จเป็นแน่

“สีแดง”

“จะ…เจ้าคะ” เจียวมี่ผินใบหน้ากลับมาถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สูงขึ้น ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่นางเอ่ยปากบอกไปเมื่อครู่

“ข้าบอกว่าสีแดง ภายในวันนี้นะ ไม่เช่นนั้นคืนนี้ข้าคงนอนไม่หลับเป็นแน่” แค่กวาดตามองไปรอบ ๆ อีกครั้ง นางก็รู้สึกขนลุกขนชันด้วยความขยาดขึ้นมาเสียแล้ว

“เจ้าค่ะ!” เจียวมี่ที่ทำท่าจะหันหลังกลับถูกเฟิ่งเหลียนฮวาเรียกเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง

“อ่อ หาอาภรณ์สีแดงมาให้ข้าเปลี่ยนด้วย”

“เจ้าค่ะ”

เจียวมี่หายไปอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับอาภรณ์สีแดงสดปักลวดลายเหลียนฮวาด้วยด้ายสีแดงเข้มกว่าพื้นอาภรณ์

ร่างบางนอนแช่กายอยู่ภายในอ่างอาบน้ำใบโตที่เจียวมี่ตระเตรียมเอาไว้ให้ ก่อนจะไปจัดการทุกอย่างภายเรือนตามคำสั่ง ผิวน้ำที่เกิดระรอกคลื่นเมื่อนางขยับตัว ส่งให้กลีบดอกเหมยกุ้ยสีแดงสดกระเพื่อมไปตามคลื่นน้ำส่งกลิ่นหอมฟุ้ง เฟิ่งเหลียนฮวารู้สุกสดชื่นขึ้นมาไม่น้อย

เมื่อรู้สึกผ่อนคลายอย่างเต็มที่ นางจึงหยัดกายลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วสวมใส่อาภรณ์ผ้าไหมสีแดงสด จนเห็นเนินเนื้อที่เริ่มจะพองโตเมื่อย่างเข้าสู่วัยสาว ก่อนจะหยิบผ้าคลุมสีขาวปักด้ายแดงขึ้นมาสวม

ร่างอรชรหมุนกายอยู่หน้ากระจกทองเหลืองบานโต เรือนผมสีดำขลับถูกมวยครึ่งหัวแล้วปักปิ่นทองแต่งอัญมณีล้ำค่าลงไป ทั้งที่เมื่อก่อนนางมักจะเลือกใช้เพียงปิ่นหยกมันแพะเพียงเท่านั้น แต่ครานี้นางไม่ใช่เฟิ่งเหลียนฮวาอ่อนแอคนเดิมอีกต่อไป

ตลับชาดสีสดถูกฝ่ามือบางหยิบขึ้นมาแต่งแต้มบนพวงแก้มและริมฝีปากจนมีสีสัน เรียวคิ้วโค้งมนถูกเขียนจนเกิดเส้นคม ส่งให้ใบหน้าของนางงดงามเสียยิ่งนัก

เมื่อแต่งกายเรียบร้อยดีแล้ว เฟิ่งเหลียนฮวาอยากจะออกไปสูดอากาศรอบเรือนของนาง ร่างอรชรย่างก้าวออกไปจากเรือนท่ามกลางสายตาของบ่าวไพร่ภายในเรือน ที่เต็มไปด้วยความฉงนสงสัยและแปลกใจกับการเปลี่ยนไปของคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฟิ่ง

สะพานหินทำจากหินก้อนใหญ่ที่ถูกแบ่งออกเป็นหกชิ้นเล็ก ๆ ประกอบขึ้นเป็นสะพานโค้งนูนทอดยาวไปยังศาลากลางน้ำที่อยู่ใกล้กับเรือนของเฟิ่งเหลียนฮวา นางเดินตามทางมาเรื่อย ๆ ด้วยความเหม่อลอย รู้ตัวอีกทีนางก็มาหยุดยืนอยู่ที่ศาลาเสียแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้นางขัดใจคงจะหนีไม่พ้นดอกบัวสีขาวที่ชูดอกตูมและบานอยู่เต็มผืนน้ำ ‘สีขาวอีกแล้วหรือ ขัดใจนัก’ ตั้งแต่ที่นางได้ย้อนเวลากลับมาก็ไม่อาจทนมองทุกสิ่งที่เป็นสีขาวรอบกายได้อีกต่อไป

“เจียวมี่!” เสียงเล็กแหลมตะโกนเรียกเจียวมี่อีกครั้ง

“เจ้าค่ะ คุณหนู…”

เจียวมี่ที่รุดวิ่งหน้าตั้งเข้ามายังศาลากลางน้ำด้วยความรีบร้อน ฉับพลันปลายสายตาก็มองเห็นสีของดอกบัวภายในสระน้ำก็เข้าใจได้ในทันที

“เปลี่ยนให้หมด คงไม่ต้องให้ข้าบอกใช่หรือไม่ ว่าต้องเป็นสีอะไร” เฟิ่งเหลียนฮวาไม่ใช่คุณหนูเอาแต่ใจ แต่ในครั้งนี้ที่นางสั่งเปลี่ยนทุกสิ่งเพราะทนไม่ไหวจริง ๆ

“เจ้าค่ะ!”

บ่าวไพร่ภายในเรือนล้วนแล้วแต่ทำงานกันด้วยความขยัน ผ่านไปราวครึ่งวันสีขาวก็เริ่มหายไป แม้แต่ดอกบัวภายในสระน้ำยังถูกเปลี่ยนออกไปจนหมด ในยามนี้ทั่วทั้งผืนน้ำเต็มไปด้วยดอกบัวสีแดงที่บานสะพรั่งอย่างมีชีวิตชีวาอยู่เหนือน้ำ

“ค่อยยังชั่ว”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel