9 ตามหาเพชรที่ถูกโจรกรรม 2
“ครับ ผมกับเพื่อนทั้งสองจะทำงานให้เสร็จเร็วที่สุด พวกเรา แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย”
ตำรวจสายสืบฝีมือดีทั้งสามต่างสลายตัวจากกันในเวลาอันรวดเร็ว พ.ต.ท.จารึกยืนกอดอกอยู่ในห้องทำงาน สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นว่าเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้จะต้องทำงานจนประสบผลสำเร็จ นอกจากจะมีชื่อแล้ว ยังได้เงินรางวัลก้อนโต เป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ที่ทำงานซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก เสี่ยงต่ออันตรายทั้งปวง
ร่างของลุงนลชายวัยเลยเกษียนซึ่งอยู่ในชุดเสื้อคอกลมสีขาวกับกางเกงเลสีน้ำเงิน กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานด้วยความขะมักเขม้น มีดอีโต้หัวตัดที่อยู่ในมือ ฟันลงไปที่ลำไม้ไผ่ ทุกครั้งที่คมมีดฝังลงไป สะเทือนไปทั้งตัว
ใกล้ๆ กันป้ามาลาผู้เป็นภรรยา มีวัยไล่เลี่ยกัน กวาดเก็บเศษไม้รวมไว้เป็นกอง เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด ครู่หนึ่งเสียงรถมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้ามาจอด ทั้งสองเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน พลัน! ดวงตาเบิกกว้างด้วยความดีใจที่เห็นหญิงสาวรูปร่างประเปรียวในชุดสีดำเดินหิ้วกระเป๋าเข้ามาพร้อมกับยกมือไหว้
“สวัสดีลุงนล สวัสดีค่ะป้ามาลา”
“โอ ณภัทร มายังไงกันนี่ ไม่บอกล่วงหน้าเลยนะ ป้าจะได้ทำข้าวต้มมัดเอาไว้ให้กิน”
“ป้าจ๋า ไม่ต้องหรอกจ้ะ แค่เห็นหน้าป้ากับลุง ณภัทรก็มีความสุขมากแล้ว ไหนขอกอดให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”
ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น หญิงสาวโผเข้ากอดเอวป้าสะใภ้เอาไว้แน่น ตามด้วยยื่นปลายจมูกสวยบรรจงจูบลงไปที่แก้มนิ่มเพียงเบาๆ ป้ามาลายิ้มด้วยความปลื้มใจ น้ำตาคลอ ไม่คิดว่าหลานของสามีจะให้ความรักและเคารพตนเองได้ถึงเพียงนี้
ความกตัญญูรู้คุณสำหรับณภัทรมีอยู่ล้นเปี่ยม ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์เลี้ยงดูด้วยความทะนุถนอม รักเหมือนลูกตัวเอง
“เรานี่ช่างอ้อนเสียจริง ไปกอดลุงนลบ้างสิ เดี๋ยวก็น้อยใจหรอก”
“ได้เลย ลุงนล ขอวัดรอบเอวซิ ขยายใหญ่หรือยัง”
“ไม่หรอก มีแต่กิ่วลงน่ะสิ พักนี้กินข้าวไม่ค่อยอร่อย”
“อ้าว! ทำไมล่ะ อาการอย่างนี้ไปหาหมอไหม ณภัทรพาไปนะ”
“ไม่ต้องหรอก แค่เพียงเห็นหน้าหนู ลุงก็หายแล้ว โรคคิดถึงหลานไงล่ะ เรานี่ยิ่งโตยิ่งสวย ช่างผสมกลมกลืนกันได้ดีจริงๆ ระหว่างแม่กับพ่อ ถ้าเค้าอยู่คงดีใจนะที่มีลูกสาวอย่างเรา”
พูดออกไปแล้วชะงักชั่วครู่ นึกขึ้นได้ว่าไม่ควรที่จะเอ่ยถึงพ่อแม่ผู้จากไปของหลานสาว กลัวว่าจะกลายเป็นการสร้างความสะเทือนใจให้แก่เธอ ทว่า เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น ณภัทรไม่มีอาการเศร้าโศกให้เห็น
ใบหน้างามยังคงยิ้มเช่นเดิม ลำแขนเรียวสอดรัดรอบเอวเอาไว้แน่น เส้นผมยาวสลวยถูกลมพัดปลิวสยายอยู่เบื้องหลัง ช่วยเพิ่มความงามยิ่งขึ้น
“ท่านไปดีแล้วจ้ะลุง เข้าบ้านกันเถอะ หิว”
“ตายจริง ป้าไม่ได้เรื่องเลย ขอโทษทีนะ ป้าจะทำผัดกะเพรากุ้งสดให้กิน”
“ขอบคุณจ้ะป้า ขอแซบๆ หน่อยนะ”
ถ้อยคำอ้อนๆ จากผู้เป็นหลานเรียกพลังจากป้าสะใภ้ได้เป็นอย่างดี ทั้งสามพากันเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นครึ่งตึกครึ่งไม้ สร้างอยู่ทางด้านหลังของห้องเช่าซึ่งเป็นแถวยาว อยู่ด้านหน้าติดกับชายทะเล
ภายในบ้านสะอาดสะอ้าน ข้าวของวางอย่างเป็นระเบียบ ลมเย็นๆ โชยเข้ามาจากทางหน้าต่าง ณภัทรเอนร่างลงนอนกับเตียงยาวไม้แดง นลส่งหมอนหนุนส่งให้ทันที หญิงสาวหลับตาพริ้มด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง
หนึ่งคืนของการได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านลุง หญิงสาวสูดอากาศชายทะเลให้เต็มที่ มีความรู้สึกว่าจะต้องเก็บเกี่ยวเอาความสวยงามไว้ให้มากที่สุด ไม่รู้ว่าโอมัสกัตจะเป็นอย่างไร แม้ว่าเห็นสภาพบ้านเมืองจากอินเทอร์เน็ตก็ตาม
ลุงกับป้าเดินเข้ามาหยุดยืนทางด้านหลัง มีความคิดเหมือนกันว่า ณภัทรอาจจะปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้ เพราะไม่บอกล่วงหน้ามาก่อนว่าจะมา หลังจากยืนมองอยู่ครู่หนึ่งหญิงสาวหันกลับไปมองพร้อมกับรอยยิ้ม
“ลุงนล ป้ามาลา”
“ป้ามาตามเราไปกินข้าว นี่ก็สายแล้วนะ หนูบอกว่าจะกลับตอนสิบเอ็ดโมงไม่ใช่หรือ”
“ค่ะ ป้า ความจริงอยากจะอยู่ต่ออีกสักคืน แต่ว่ามีงานค้างเอาไว้ ขอโทษจริงๆ โอกาสหน้าก็แล้วกัน ก่อนที่จะไปณภัทรขอพรจากลุงกับป้าค่ะ”
ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปกราบที่อกของผู้มีพระคุณทั้งสอง ลุงนลยกมือขึ้นลูบที่เส้นผมหลานสาวเบาๆ เช่นเดียวกับมาลาพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำดีๆ ออกมา
“ลุงกับป้าขอให้หนูเดินทางด้วยความปลอดภัย ขอให้ประสบกับสิ่งดีๆ โชคดี ร่ำรวย ไปทางไหนมีแต่คนรักและเมตตา ทุกข์ไข้อย่าได้เข้ามากล้ำกราย”
“ขอบคุณค่ะ ณภัทรเป็นคนโชคดีที่สุด ได้เกิดเป็นหลานลุงกับป้า ถ้ามีเวลา ณภัทรจะมาเยี่ยมอีก ณภัทรกราบค่ะ”
หญิงสาวก้มกราบลุงกับป้าอีกครั้ง มีความอบอุ่นที่สุด เพียงเท่านี้ที่ต้องการ จะเก็บพรที่ได้รับเอาไว้ในใจ พกไปที่โอมัสกัต ซึ่งดีกว่าเครื่องรางของขลังใดๆ อีกสองวันเธอจะต้องจากประเทศไทย เพื่อไปตามล่านักโจรกรรม ซึ่งอยู่ในพื้นที่อันไกลโพ้น