เหยี่ยวสาวทะเลทราย

88.0K · จบแล้ว
ฟ้ารดา, ฟ้าใส ไอรดา, ธัญญา, ดาวฉาย, จันทร์นารี, ภูต เภตรา, จรรยา เลิศพงษ์ไทย
75
บท
9.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คำว่า เหยี่ยวสาว หลายท่านคาดเดาว่าจะต้องเป็นนักข่าวสาวที่เดินทางไปอยู่ในทะเลทราย ซึ่งก็ถูกเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ภายในมีอะไรที่มากกว่านั้น สำหรับผู้หญิงเก่งชาวไทยคนนี้ เธอคือใคร ไปทำอะไรที่โอมัสกัต เป็นประเทศที่ผู้เขียนสมมุติขึ้นมา ณภัทร สาวงามผู้เก่งกล้าในการต่อสู้ด้วยอาวุธและมือเปล่า เธอเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ยอมคน กล้าต่อปากต่อคำอย่างเจ็บแสบถ้ารู้ว่าตัวเองไม่ผิด แม้แต่ชีคผู้ครองประเทศ เธอยังปะทะคารมมาแล้ว นอกจากหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในเชิงต่อสู้ เรื่องของหัวใจยังยุ่งนุงนัง ระหว่างเธอกับชีคสองพระองค์ ณภัทรจะทำอย่างไรกับภารกิจเหล่านี้ ช่วยเป็นกำลังใจให้ ณภัทรด้วยนะคะ ธัญญา

นิยายรักโรแมนติกนิยายแอคชั่นนิยายสืบสวนสอบสวนนิยายปัจจุบันพลิกชีวิตสายลับนางเอกเก่งบอดี้การ์ดตำรวจพระเอกเก่ง

1 สวย เผ็ด ดุ

เสียงสันมือสับลงไปบนต้นคอชายฉกรรจ์ร่างใหญ่บึกบึนก้องกังวานในความมืด ตามด้วยเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ทว่า ไม่ทันไรปลายเท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าหนังเตะเสยไปที่ปลายคางอย่างจัง เจ้านั่นผวาสุดตัว ตาเหลือกลาน มือตะกายขึ้นไปบนอากาศ ร่างร่วงรูดลงมานอนกองที่พื้นหญ้าด้านหลังโกดังร้างชานเมือง

ร่างประเปรียวในชุดดำถอยฉากออกมา พลิ้วหลบเข้าที่ต้นเสา มองซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง แม้ว่าทุกอณูพื้นครอบคลุมไปด้วยความมืด ไม่เป็นปัญหาสำหรับณภัทร

เสียงคนคุยกันเดินใกล้เข้ามา พร้อมกับแสงสว่างจากไฟฉาย ณภัทรมองไปยังร่างชายคนเมื่อครู่ บัดนี้สภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วเก่าๆ หากว่าใช้กำลังลากมาซ่อนเอาไว้ คงไม่ไหว ความคิดบางอย่างเกิดขึ้น เหลือบเห็นยางรถยนต์เก่าวางระเกะระกะ ไม่รอช้าที่จะดึงมาทับร่างเจ้าวายร้ายเอาไว้ พรางไม่ให้ใครเห็น

‘ไปทางอื่น อย่ามาทางนี้เลย’

หญิงสาวได้แต่ภาวนาด้วยใจเต้นระทึก กลัวว่าลำแสงจากไฟฉายจะจับต้องร่างเธอ แม้ว่าหลบอยู่หลังต้นเสา ใช่ว่าจะปลอดภัย

“ไอ้หลอด เอ็งไปทางด้านหน้าโกดังก่อน ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ”

“แล้วเอ็งไม่ไปด้วยกันหรือวะ มืดๆ อย่างนี้ไม่กลัวผีหรือไง”

“ไอ้เวร พูดออกมาได้ ยิ่งหลอนๆ อยู่ด้วย ข้าขอทำธุระส่วนตัวก่อน แล้วจะตามไป แหม เสียเส้นจริงๆ ดันมาปวดฉี่ตอนนี้ เอาล่ะวะ ปล่อยมันตรงนี้แหละ”

ไฟฉายที่อยู่ในมือดับวูบลง ตามด้วยเสียงรูดซิปดังแคว่ก ณภัทรสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นเจ้าคนดวงจู๋กำลังแอ่นสะโพกเข้าใส่ตรงต้นเสาที่แอบอยู่ รู้ว่าอีกไม่นานสายน้ำจากร่างกายจะต้องพุ่งออกมา แน่นอนว่าจะต้องมีบางส่วนกระเซ็นกระสายมาถูกเธอ ก่อนที่มันจะปล่อยน้ำเสียออกมา หญิงสาวไม่รอช้าพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย! อะไรกันวะ”

เจ้านั่นอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเงาดำๆ ของใครบางคนพุ่งเข้าหา โถมใส่จนเสียหลักล้มลงไปนอนที่พื้นหญ้าซึ่งเต็มไปด้วยหนามกระสุน ปักแล้วเจาะเข้าไปในเนื้อ เจ็บปวดจนสุดพรรณนา ณภัทรฉวยโอกาสในตอนนี้จัดการน็อกด้วยการสับมือลงที่ซอกคอ ทีเดียวสลบเหมือด

“อ๊าก!”

“ฮึ! ยังจะร้องอีก แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงแกหรอก เข่าฉันยัดปากแกเอาไว้แล้ว ไอ้พวกเลว เกิดมาทำไม จิตใจถึงได้ต่ำช้าขนาดนี้”

หญิงสาวบริภาษด้วยความแค้นเคือง เพราะรู้ว่าคนพวกนี้เป็นสมุนของพ่อค้ายาบ้าที่นำยามหันตภัยมาซ่อนเอาไว้ในโกดังร้างแห่งนี้ เธอสะกดรอยตามจนรู้ว่าที่นี่คือที่พักยา ก่อนที่จะนำออกไปจำหน่าย ไม่รอช้าที่จะแท็กทีมกับดิลกและวรัทเพื่อนคู่หู ช่วยกันมาจัดการพวกที่เฝ้า เพื่อเข้าไปหาหลักฐานภายใน

“ณภัทรเป็นยังไงบ้าง พวกมันมีกี่คน”

วรัทตำรวจสายสืบนอกเครื่องแบบ เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกับเธอถามขึ้น พร้อมกับก้าวยาวๆ เข้ามายืนเคียงข้าง ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มรูปร่างสูง กล้ามใหญ่บึกบึนตามมาติดๆ ณภัทรมองบุคคลทั้งสองในความมืด กล่าวด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

“เห็นไหมล่ะนอนนับดาวอยู่นั่นคนนึง อีกคนถูกยางรถยนต์ทับเอาไว้ ป่านนี้แบนเป็นกล้วยปิ้งแล้วมั้ง แล้วเธอล่ะ ด้านหน้าฉันเห็นว่ามีอีกคนหนึ่งเพิ่งเดินออกไป”

“ไม่ต้องห่วง ดิลกจัดการสอยจนหลับกลางอากาศไปแล้ว”

“ณภัทร เราเข้าไปในโกดังกันเถอะ เจอหลักฐานแล้วค่อยแจ้งพี่จารึก”

“ได้...ไม่มีปัญหา ไปเร็วเข้า ขอยืมไฟฉายก่อนนะไอ้เบื๊อก”

ทันทีที่พูดจบ ณภัทรไม่รอช้าก้มลงเก็บไฟฉายขึ้นมาจากพื้น แล้วเดินตามเพื่อนทั้งสองไปหยุดอยู่ตรงประตูที่มีกุญแจดอกใหญ่ล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา ทั้งสองหันมามองหน้ากันเป็นเชิงปรึกษา ครู่หนึ่งดิกลกดึงไฟฉายออกไปจากมือ แล้วเดินอ้อมไปทางด้านหลัง

“ดิลกจะทำอะไร”

“คงหาทางเข้าไปข้างในนั่นแหละวรัท เราช่วยกันลากร่างไอ้มะขามข้อเดียวมาหลบไว้ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพรรคพวกมันเข้ามาเห็น จบเห่กันพอดี”

“ได้เลยเพื่อน มาช่วยกัน คนละข้าง อื้อหือ ตัวหนักเป็นบ้าเลย สงสัยกินข้าวเหนียวเข้าไปเยอะ บักอื๊ดเอ๊ย”

วรัทบ่นพลางลากร่างเตี้ยล่ำของชายหน้าเหลี่ยมไปซ่อนเอาไว้ตรงพุ่มไม้ ณภัทรยิ้มชอบใจในคำพูดของเพื่อนร่วมงาน สายตาคู่คมฉาบฉายไปที่จอมวายร้ายที่ยังคงสลบเหมือด นอนนิ่ง ไร้ความรู้สึกใดๆ

“ตัวหนัก มันเกี่ยวอะไรกับกินข้าวเหนียวด้วยล่ะ”

“เกี่ยวสิเธอ ข้าวเหนียวอืดกว่าข้าวสวยธรรมดา เวลากินเข้าไปแล้วมีทั้งแป้งและน้ำตาล มันขยายตัวในท้อง ส่งผลให้ตัวคนที่กินหนักกว่าปกติ”

“เธอรู้ได้ยังไง ว่าเจ้านี่กินข้าวเหนียว”

“ไม่รู้หรอก แค่เดาเอาเท่านั้นเอง นั่น ดิลกมาแล้ว รีบทำเวลา ก่อนที่พวกมันจะพากันแห่มาอีก”