8 ตามหาเพชรที่ถูกโจรกรรม 1
“คืออย่างนี้นะ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ร้อยละ 80 เป็นเทือกเขา ร้อยละ 15 ที่เหลือเป็นที่ราบ และมีที่ชายฝั่งทะเลเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ซาเทียร์คือเมืองหลวง เป็นเมืองที่มีโอเอซีสกลางทะเลทราย มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติติดหนึ่งในสิบของคาบสมุทรอาหรับ แต่เธอไม่ต้องกลัวนะว่าจะตามตัวเจ้าพวกผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษไม่ได้ พวกมันไม่อาจรอดพ้นจากสายตาเจ้าหน้าที่บ้านเมือง สามารถตามจับได้ทุกราย”
“เฮอะ ให้มันจริงเห๊อะ”
เสียงที่บีบให้เล็กแหลมจากณภัทรดังขึ้น ไม่เชื่อว่าวายร้ายทั้งสามจะถูกจับกุม เพราะโอมัสกัตมีโอเอซิสมากมาย เหมาะสำหรับการหลบซ่อนตัว ผู้ที่ตามไปจับจะต้องใช้ความพยายามอย่างสูงถึงจะประสบความสำเร็จ ต่างจากดิลกเชื่อว่า ทีมงานของเขาที่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นสายลับเช่นเดียวกัน อยู่ที่โอมัสกัตจะต้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“อย่าพูดอย่างนั้น เราต้องได้ตัวพวกมัน กลับมาพร้อมกับเพชรสีชมพู ไม่ต้องพูดอะไรแล้วณภัทร ฉันยังพูดไม่จบ คือว่าความน่าอยู่ของที่นี่ก็คือ มีการตัดทางหลวงผ่านภูเขาทั้งลูก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นเยี่ยม ภูเขาที่ติดทะเลทรายจะถูกปรับพื้นที่แล้วสร้างโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว มีวิลล่าราคาแพงขายให้กับพวกเศรษฐีทั่วโลก”
“เฮ้อ รวยกันเข้าไป ส่วนเราก็จนเสียให้เข็ด ข้อมูลมีแค่นี้ใช่ไหม งั้นเราไปหาพี่จารึกกันเถอะ จะได้วางแผนว่าจะเอายังไงต่อไป”
“ใช่ ขอบคุณมากนะคะที่ให้ความร่วมมือ”
วรัทหันไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ของการท่าอากาศยานด้วยรอยยิ้มสดใส ตามด้วยยกมือไหว้และได้รับการไหว้ตอบเช่นเดียวกัน ดิลกหันกลับไปมองหญิงสาวคนหนึ่ง หน้าตาจิ้มลิ้ม สบตาเพียงชั่วครู่ รับรู้ถึงความสดใสในดวงตาคู่นั้น วาบหวามในอก แต่ตัดใจ เดินออกมาโดยเร็ว เตือนตัวเองว่า ทำงานแบบนี้จะต้องไม่มีความรัก ความรักคืออุปสรรคเป็นห่วง ขัดขวาง เหนี่ยวรั้ง ไม่ให้งานสำเร็จตามที่หวัง
หากมีความรักจะต้องลาออกจากการเป็นสายสืบ ในเวลานี้เขายังสนุกกับงาน ขอใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน
ข้อมูลเกี่ยวกับโอมัสกัตอยู่ในมือพ.ต.ท.จารึก เขาขยับแว่นตาให้เข้าที่ และอ่านด้วยความสนใจ โดยมีเจ้าหน้าที่สายสืบทั้งสามนั่งอยู่ตรงหน้า ในใจของแต่ละคนต่างคิดไปคนละทาง ณภัทรรู้ว่าจะต้องเดินทางไปโอมัสกัต เธอจะต้องไปลาลุงกับป้าที่พัทยา
ทุกครั้งที่ทำงานสำคัญ เธอจะขอพรจากท่านทั้งสอง เมื่อได้รับแล้วมีความรู้สึกอบอุ่นใจที่สุด และงานสำเร็จด้วยดี
ดิลกคิดถึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ไม่รู้ว่าจะจัดเสื้อผ้าไปกี่ชุด เครื่องใช้ส่วนตัวจะเอาอะไรไปบ้าง และจะกลับเมื่อไหร่ เขาไม่สามารถที่จะกำหนดเวลาได้เลย แต่แวบหนึ่งคิดถึงหญิงสาวหน้าสวย รู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจไม่น้อย ได้แต่บอกตัวเองว่าถ้ามีวาสนาคงได้พบกันอีก
สำหรับวรัทนึกถึงโอมัสกัตที่เต็มไปด้วยโอเอซิส ทะเลทรายและวิลล่าชายฝั่งทะเล อยากรู้เหลือเกินว่าจะสวยงามสักแค่ไหน จะได้มีโอกาสเข้าพักที่นั่นหรือไม่
“โอเค ข้อมูลแน่นมาก อีกสามวันพวกเราเตรียมตัวจัดเตรียมข้าวของเพื่อเดินทาง เรื่องที่พักไม่ต้องห่วงคุณถกลเป็นผู้จัดการให้ และนี่คือค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง ติดตัวไปคนละสองแสนบาท และยังทำบัตรเครดิตสำหรับไปกดหรือซื้อของที่โน่นด้วยคนละใบ พลาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบินก็อยู่ในซองนี้ เรียบร้อยแล้ว”
“โอโห ทุ่มทุนสร้างขนาดนี้ ไม่เต็มที่ก็แย่แล้ว ดิลก วรัท ถือว่าไปเที่ยวพักผ่อนสมองก็แล้วกัน นานๆ จะได้เดินทางออกนอกประเทศ ไปเปิดหูเปิดตาเสียที”
“เอาเชียวนะ ยัยณภัทร เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจมากเกินไป พี่วางแผนให้ไปในคราบของนักข่าว นี่บัตรเอาติดตัวไว้ เป็นบัตรของนักข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ไปทำข่าวเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นไงความคิดของพี่เจ๋งมั้ย”
ทุกคนยื่นมือไปรับซองเอกสารสีน้ำตาลที่มีชื่อของแต่ละคนอยู่ด้านหน้าขึ้นมาดู เปิดปากซองออก ตรวจความเรียบร้อย เห็นว่าเอกสารทุกอย่างอยู่ครบ รวมทั้งตั๋วเครื่องบิน บัตรเครดิตและเงินตามจำนวนที่รับทราบ
“เงินนั้นแลกเป็นเงินของโอมัตกัสเรียบร้อยแล้ว เอาเป็นว่าอีกสามวันเจอกันที่สนามบินก็แล้วกัน พี่จะไปรอที่นั่น”
“ขอบคุณค่ะพี่จารึกที่จัดการเรื่องทุกอย่าง พวกเราไม่ต้องทำอะไรเลย”
“ณภัทร คนที่ต้องขอบคุณก็คือคุณถกล เขาให้เลขาช่วยจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง พี่มั่นใจว่าเขาจะต้องจัดที่พักที่ดีสำหรับพวกเราสามคน ขอให้ตั้งใจทำงานเต็มที่ก็แล้วกัน”