6 เพชรสีชมพู ถูกโจรกรรมอย่างอุกอาจ 2
ถกลเกิดอาการคล้ายกับคนสติแตกเพราะเสียดายเพชรมูลค่ามหาศาล พ.ต.ท.จารึกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเข้ามาปลอบ แล้วกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ความโกลาหลเกิดขึ้น เมื่อผู้ที่เข้ามาชมงานจิวเวลรี่ในครั้งนี้รู้ว่าเพชรถูกโจรกรรม
“รีบไปแจ้งให้พิธีกรทราบด่วน”
“ครับท่าน”
เพียงไม่นานเสียงพิธีกรคนเดิมแจ้งข่าวแก่ผู้ชมว่ามีการโจรกรรมเพชรสีชมพู โดยอาศัยช่วงจังหวะที่ทุกคนให้ความสนใจแฟชั่นโชว์ชุดเมื่อครู่ มีผู้คนจำนวนหนึ่งพยายามที่จะเข้ามาดูยังจุดเกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาเชือกมากั้นเอาไว้ ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามา
ณภัทรกับเพื่อนทั้งสองเข้ามาอยู่ในบูธ เห็นแต่เพียงความว่างเปล่าในตู้โชว์ เพชรสีชมพูหายไปอย่างไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บรอยนิ้วมือ และก็ส่ายหน้าไปมา
“ไม่มีรอยนิ้วมือ พวกมันคงใส่ถุงมือ”
“เลวที่สุด ทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง ท่านครับ กรุณาช่วยตามเพชรกลับคืนมาให้ผมด้วย”
เจ้าของเพชรมูลค่ามหาศาลเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงช้ำ ณภัทรรู้สึกสงสารไม่น้อย เข้าใจถึงหัวอกของผู้สูญเสียเป็นอย่างดี พ.ต.ท.จารึกเข้าไปปลอบโยนและยืนยันว่าจะเป็นผู้ติดตามคดีนี้เอง
“คุณไม่ต้องห่วง พวกเราจะช่วยเต็มที่”
“ขอบคุณมากครับ ผมมีรางวัลในการตามหาเพชรให้กลับคืนมาเป็นจำนวนเงินสิบล้านบาท ค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทางผมจะเป็นผู้ออกเองทั้งหมด”
พ.ต.ท.จารึกไม่พูดแต่หันมามองณภัทรกับเพื่อนๆ ด้วยสายตามีความหมาย ดิลกซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ก้มหน้าลงมาพร้อมกับเสียงกระซิบกระซาบ แต่จับใจความได้เป็นอย่างดี
“งานเข้าแล้วณภัทร”
“เออ เรารู้ แต่เป็นงานที่มืดว่ะ เราไม่มีข้อมูลอะไรเลย แต่เดี๋ยว หน้าร้านมีกล้องวงจรปิดนี่ พี่จารึกคะ ณภัทรขอดูได้ไหมคะ เผื่อว่าจะมีเบาะแสของคนร้าย”
“ได้สิ คุณถกล ผมขออนุญาตเช็กกล้องวงจรปิดเดี๋ยวนี้เลย”
“ได้ครับๆ ตามสบาย ผมยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ เชิญครับ เพื่อความสะดวกเอาไปดูที่ออฟฟิศของฝ่ายจัดงาน ตรงนั้นจะเป็นห้องที่มิดชิดกว่าตรงนี้”
เพียงไม่นานหญิงสาวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งพากันเข้ามาดูภาพที่กล้องวงจรปิดถ่ายเอาไว้ ในช่วงเวลาก่อนไฟดับแล้วเพชรหายไป เธอเห็นแขกขาวสามคนยืนอยู่หน้าร้าน สายตาแต่ละคนมองไปที่ตู้โชว์เพชร กระทั่งไฟดับลงมีแต่ความมืดมิด แต่ก็ยังเห็นเพชรที่ยังคงทอประกายอยู่ในความมืด
จู่ๆ เพชรหายวับไป แน่นอนว่าถูกโจรกรรมไปแล้ว ณภัทรให้เจ้าหน้าที่ควบคุมกล้องวงจรปิดย้อนกลับไปดูภาพชายทั้งสามคนอีกครั้ง
“ต้องไอ้สามตัวนี่แน่ๆ เลย แขกขาวเสียด้วย”
“ชัวร์เลยพี่จารึก พอไฟสว่าง พวกมันก็หายไป คงซ่อนเครื่องมือตัดกระจกไว้ในชุดโต๊ปนั่นแหละเห็นไหมไอ้คนตัวใหญ่ๆ ท้องมันป่องผิดปกติ”
ณภัทรออกความเห็น พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ส่วนท้องของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ บริเวณนั้นป่องโตคล้ายกับผู้หญิงท้อง ถกลถอนใจออกมายาวๆ ดวงตาแห้งผาก ไร้น้ำหล่อเลี้ยง รู้ว่าโอกาสที่จะตามเพชรเม็ดนั้นให้กลับคืนมาคงยาก แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจให้คำยืนยันว่าจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ก็ตาม เพราะรู้ว่าคนต่างชาติพวกนี้มีความชำนาญในการโจรกรรมและหลบหนี ป่านนี้คงกำลังเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
“ปริ๊นท์ภาพออกมาดูด้วยค่ะ เอาหลายๆ แผ่น”
หญิงสาวบอกแก่เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลกล้องวงจรปิดให้ช่วยปริ๊นท์ภาพออกมาดู ดิลกซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ยกมือขึ้นแตะบ่าเธอเบาๆ
“ช้าไม่ได้แล้วนะ เราจะต้องตามไปที่ท่าอากาศยาน”
“ใช่ ณภัทร เรามั่นใจว่าพวกมันจะต้องเดินทางออกนอกประเทศ พี่จารึกเราต้องไปดักที่ท่าอากาศยานเดี๋ยวนี้เลย พี่คอยเก็บภาพที่ปริ๊นท์ออกมาไว้ด้วยนะคะ แล้วส่งเมลไปให้ณภัทร”
“เออพี่รู้แล้ว มาลี พาเพื่อนๆ ไปที่ท่าอากาศยานเดี๋ยวนี้เลย พี่จะให้รถนำขบวนเปิดทางเพื่อสะดวกในการเดินทาง”
เจ้าหน้าที่ตำรวจแบ่งงานกันทำทันที ถกลใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง รู้ว่ามีความหวังที่จะได้เพชรสีชมพูกลับคืนมา ยกมือไหว้ทุกคนด้วยน้ำตานองหน้า พ.ต.ท.จารึกเข้าไปโอบกอดแนบแน่น รู้ซึ้งถึงหัวอกของผู้ที่สูญเสียเป็นอย่างดี
“ไม่ต้องเป็นกังวล ทุกอย่างจะเรียบร้อย”
“ขอบคุณมากครับ ผมดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาใจใส่ประชาชนขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย เบิกกับผมได้เต็มที่”
“เราทำเพื่อประชาชนอยู่แล้วครับ ส่วนเรื่องรางวัลคือน้ำใจที่ได้ตอบแทนมา ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนในการทำงาน ภาพปริ๊นท์ออกมาหมดแล้ว ผมขอตัวไปที่กองบัญชาการก่อนนะครับ คุณทำใจให้สบาย ทางเราจะพยายามตามสิ่งนั้นกลับคืนมาให้คุณจนสุดความสามารถ”
พ.ต.ท.จารึกกล่าวตบท้ายแล้วเดินออกไปพร้อมๆ กับตำรวจอารักขานอกเครื่องแบบสิบนาย ขณะนั่งอยู่ในรถเพื่อไปที่ทำงาน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทันทีที่เห็นเบอร์ รู้ว่าณภัทรติดต่อมา
“พี่จารึก ณภัทรโทร.มารายงานว่าใกล้ถึงท่าอากาศยานแล้วนะ อีกไม่นานหรอก”
“เยี่ยม เมื่อไปถึงแล้ว ติดต่อเจ้าหน้าที่ของการท่า ขอดูกล้องวงจรปิด ดูรูปเจ้าแขกสามคนนี่ด้วย พี่จะรีบส่งเมลไปให้เร็วที่สุด”
หลังจากรับปากลูกน้องสาวแล้ว พ.ต.ท.จารึกบอกให้พลขับจอดรถที่หน้าร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะเอาภาพวายร้ายทั้งสาม ส่งอีเมลไปให้ณภัทร เพียงไม่นานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เขาไม่รอช้าเดินทางไปที่กองบัญชาการเพื่อวางแผนการในลำดับต่อไป