23 ณภัทรถูกชีคซาริมชี้หน้า 1
“คนที่นี่รัก ชีคซาริม มากนะคะ”
“ใช่ พระองค์เป็นคนดี เสียสละ แก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนให้อยู่ดีกินดี”
“พระองค์ขึ้นครองราชย์กี่ปีแล้วคะ”
“ขึ้นครองราชย์อย่างไม่เป็นทางการยังไม่ถึงปี จะต้องทำพิธีสถาปนาเป็นกษัตริย์เสียก่อน ตอนนี้ทรงดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมาร ตำแหน่งนี้มีสองพระองค์ด้วยกัน”
อาลีอธิบายให้หญิงสาวได้รับรู้ถึงระบบกษัตริย์ของโอมัสกัต ซึ่งก็ได้ความรู้พอสมควร โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ที่พลิกพื้นทะเลทรายให้เป็นสีเขียว เน้นการปลูกผักแบบไร้ดิน บัดนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง
วิลล่าที่สร้างตามชายฝั่งทะเล เมื่อก่อนเป็นภูเขาหินที่ไร้ค่า พระองค์ทรงวางแปลนปรับพื้นจนราบเรียบ สร้างวิลล่าหรูกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเศรษฐีทั่วโลก ให้เช่าและซื้อในราคาค่อนข้างสูง
ดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังมีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจำนวนมหาศาล ที่ทั่วโลกต้องหอบเงินมาซื้อ โอมัสกัตจึงเป็นประเทศที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของคาบสมุทรอาหรับ
“พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถจริงๆ แล้วพระอนุชาล่ะคะ ชื่ออะไร ช่วยงานพระเชษฐาอย่างไรบ้าง”
“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง”
“เล่นพูดอย่างนี้ ฉันจะรู้ไหมเนี่ย แน่ะ ขบวนเสด็จมาแล้ว มีทหารขี่ม้านำหน้า เอ ชีคซาริม บิน ซาราด ทรงพาหนะชนิดใดนะ”
หญิงสาวยังคงซักถามอาลีด้วยอาการตื่นเต้น เธอไม่รู้เลยว่าถูกจ้องมองด้วยความพึงพอใจจากเขา ซึ่งไม่อาจเลื่อนดวงตาให้คลาดจากใบหน้างดงาม การแสดงออกด้วยความเสน่หา เขาไม่รู้เลยว่าการกระทำดังกล่าวไม่พ้นการสังเกตของเพื่อนทั้งสอง
หนุ่มสาวทั้งสองหนักใจ หากว่าอาลีตกหลุมรักในตัวณภัทรจริงๆ สงสารฝ่ายชายเพราะรู้ว่าไม่อาจสมหวัง ณภัทรคงไม่มีใจให้แก่เขา
“ชีคของเราทรงอูฐน่ะสิ”
“จริงเหรอ อืม ฉันกลัวมากเลย”
“อูฐไม่น่ากลัวหรอก เป็นสัตว์ที่มีความอดทน สามารถเดินลุยทะเลทรายได้นานๆ โดยไม่ดื่มน้ำเลยเป็นเวลาเจ็ดวัน น่าทึ่งไหมล่ะ”
ไม่ว่าอาลีจะพูดอะไร หญิงสาวฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง คอยแต่ชะเง้อมองขบวนพระราชดำเนินที่กำลังผ่านมา ในที่สุดเสียงร้องสรรเสริญ ให้พระองค์ทรงพระเจริญเป็นภาษาอาหรับดังขึ้นกึกก้อง ณภัทรรู้สึกว่าขนลุกซู่ด้วยความซาบซึ้ง
แม้ว่าเป็นคนต่างชาติ ต่างภาษา ยังเข้าใจถึงความรู้สึกเป็นอย่างดี ได้แต่ยืนสงบนิ่ง มองไปยังขบวนเสด็จที่เป็นอูฐ
ในที่สุดณภัทรได้เห็น ชีคซาริม บิน ซาราด ใกล้ๆ พระองค์เป็นบุรุษหนุ่มรูปงามสมคำร่ำลือจริงๆ พระพักตร์ที่หันมองประชาชนนั้นทรง แย้มพระโอษฐ์และโบกมือให้ทุกคน
“อาลี ทำไมพระองค์หน้าคล้ายคุณจังเลย”
หญิงสาวกระซิบเบาๆ เกรงว่าจะมีคนได้ยิน อาลีไม่กล่าวคำใดๆ ออกมานอกจากยิ้มเพียงอย่างเดียว กระทั่งพระองค์หันมามองที่เธอ สบตากัน พลังอะไรบางอย่างวูบผ่านเข้ามา สะกดให้ยืนนิ่งตกตะลึงอึ้งอยู่กับที่
พระองค์ทำท่าฉงนเมื่อเห็นหญิงสาวแต่งตัวแตกต่างจากสตรีคนอื่นๆ โดยไม่คาดคิด ชีคซาริม บิน ซาราด ชี้พระดัชนีมาที่เธอ สีพระพักตร์เข้มขึ้น คณะผู้ติดตามพากันหันมามองเป็นตาเดียวกัน ณภัทรสะดุ้ง ตื่นจากภวังค์ ความกลัวจู่โจมเข้ามา หันไปมองเพื่อนทั้งสองที่เตรียมเผ่นออกมาเช่นกัน
“ไปเถอะณภัทร”
“ไปไหน อาลี”
“เถอะน่า ตามผมมา”
เขาฉุดมือเธอ แล้ววิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยมีเพื่อนทั้งสองไล่กวดตามมาติดๆ วิ่งและวิ่งจนเหนื่อยหอบ เมื่อรู้ว่าออกมาห่างจากท่าเรือพอสมควร พากันนั่งลงที่พื้นทราย ใต้ต้นปาล์มใหญ่ สักพัก เสียงหายใจแรงๆ ดังขึ้น
ณภัทรเหนื่อยจนแทบขาดใจ แม้ว่าผ่านการฝึกฝนจากการวิ่งมาอย่างหนัก แต่เป็นการวิ่งธรรมดา ไม่ได้แฝงด้วยความกลัว ยังจำติดตา ชีคซาริม บิน ซาราด ชี้มาที่เธอด้วยพระพักตร์บึ้งตึง ราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง
เมื่อคลายจากอาการเหนื่อย หญิงสาวมองหน้าอาลี บัดนี้ยิ้มเรี่ยราดให้แก่ทุกคน ก้มศีรษะลงเป็นการขอโทษ
“อาลี ฉันทำอะไรผิด ทำไม ชีค ถึงชี้หน้าฉัน ทำท่าราวกับโกรธมาก”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”
“ไม่มีแล้วชี้หน้าฉันทำไม แล้วคุณพาฉันวิ่งออกมาทำไม”
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถ้าคุณมากับผม ไม่มีใครทำอันตรายได้ รับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย เชื่อเถอะนะ โอเค”