14 ชีค ซาริม บินซาราด 1
“เรายังไม่ได้คุยกับเค้าเป็นจริงเป็นจังเสียที เพราะมีภารกิจออกเยี่ยมประชาชนแทบทุกวัน ยังดีนะที่ท่านนายพลซาเมียร์เป็นกำลังสำคัญ ไม่เช่นนั้นเราคงเหนื่อยมากกว่านี้”
กล่าวชมนายพลซาเมียร์ผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดแห่งกองทัพ ในแต่ละวันเขาจะนำแผนงานมั้งหมดมากราบทูลแก่พระองค์ หากว่าสมควรที่จะไปที่แห่งใดก็จะเสด็จไปทันที ไม่เกี่ยงต่อความยากลำบาก โดยยึดถือคติที่ว่า หากจะได้ใจจากประชาชนก็ต้องเข้าถึงพวกเขาให้มากที่สุด
ขณะที่อาเมียร์รู้สึกคันปากยิบๆ รู้ว่าเหตุใดนายพลซาเมียร์ถึงทำงานรับใช้ใต้ยุคลพระบาทอย่างชนิดที่เรียกว่าประจบประแจง ยอมเหนื่อยกว่าผู้อื่นทั้งที่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น ทุกคนต่างรู้ดีว่าชายผู้นี้ต้องการที่จะให้ ชีคซาริม บิน ซาราด พึงพอใจในธิดาของตน พยายามนำนางผู้เลอโฉมเข้ามารับใช้งานใกล้ชิดกับพระองค์บ่อยๆ
หวังที่จะได้เป็นพระราชินี และในโอมัสกัต ไม่มีใครเหมาะสมกับ ชีคซาริม บิน ซาราด เท่ากับแดเนียร์อีกแล้ว
หากว่าพระองค์เข้าพิธีสถาปนาเป็นกษัตริย์และอภิเษกสมรสกับแดเนียร์ นางจะได้เป็นพระราชินีทันที เมื่อวันนั้นมาถึงนายพลซาเมียร์ก็จะเป็นใหญ่ค้ำฟ้า มีอำนาจเต็มที่เพราะมีธิดาคอยหนุนหลัง
“ทรงเข้าบรรทมเถิดพระเจ้าข้า”
อาเมียร์เลี่ยงที่จะพูดถึงนายพลผู้นั้น ชิงชังต่อความมักใหญ่ใฝ่สูง ทั้งที่เวลานี้ยิ่งใหญ่กว่าใครในกองทัพ แต่ยังไม่รู้จักพอในอำนาจ พยายามกีดกันบุตรสาวของนายทหารท่านอื่นๆ ไม่ให้นำเข้ามารับใช้งานในพระราชวัง
ในเวลานี้แดเนียร์ใหญ่ที่สุด ทำหน้าที่ควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่หญิงทุกคน หากว่าไม่พอใจใครก็จะจัดการตามกรรมวิธีของตน จนไม่มีใครกล้าหือ
“เราอยากรู้จังว่าน้องของเราหลับหรือยัง”
“พระองค์ทรงวางพระทัยเถิด ยูซุฟบอกข้าพระพุทธเจ้าว่า พระอนุชาทรงเข้าบรรทมตั้งแต่สองทุ่ม จะตื่นอีกทีก็ตีห้า”
“ส่วนกลางวันไม่เคยเห็นเลย แม้แต่เวลารับประทานอาหาร อย่างว่านั่นแหละเราเองก็มีภารกิจเยอะ ออกข้างนอกแทบทุกวันเหมือนกัน โอกาสที่จะเจอกับน้องน้อยมาก นอกจากโทรศัพท์คุยกัน ตลกดีเหมือนกันนะ”
ทรงพระสรวลเบาๆ แล้วทอดพระวรกายลงบนพระแท่นบรรทม อาเมียร์เข้ามาดูแลความเรียบร้อยอีกครั้ง จากนั้นเดินถอยหลังไปยืนตรงพระทวาร โค้งคำนับหนึ่งครั้งแล้วเดินออกไปอย่างเงียบกริบ
สายลมที่โชยพัดผ่านพระแกล หอบความเย็นเข้ามาด้วย แม้ว่าเลื่อนกระจกออกแค่เพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความเย็นพรั่งพรูเข้ามา ในบรรยากาศเช่นนี้ ชีคซาริม บิน ซาราด รู้สึกถึงความอ้างว้าง ชีวิตในแต่ละวันมีแต่งานและงาน
เพิ่งรู้ว่าการเป็นกษัตริย์ของประชาชนเต็มไปด้วยความเหนื่อยยาก แม้ว่ามีความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต แต่การเดินทางออกไปพบปะประชาชนเพื่อรับรู้ถึงปัญหาต่างๆ คือภาระอันหนักอึ้ง วูบหนึ่งคิดถึงสตรีที่จะมาอยู่เคียงใกล้ แต่ไม่มีใครที่ทรงพอพระทัย แม้แต่แดเนียร์ นางสวย เอาใจเก่ง แต่เป็นได้แค่เพียงเจ้าหน้าที่ในพระราชวังคนหนึ่งเท่านั้น
“ใครกันนะที่จะเป็นราชินีของเรา เฮ้อ อย่าคิดเลย ถึงเวลาก็มีเองนั่นแหละ จงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว เราจะต้องเป็นกษัตริย์ที่นำประเทศไปสู่ความเจริญ ประชาชนจะต้องกินดีอยู่ดี เราต้องทำได้ ซาริม”
ชีคซาริม บิน ซาราด รำพึงเพียงเบาๆ อาจจะเป็นเพราะภารกิจในตอนกลางวันที่ต้องไปตามสถานที่ต่างๆ พระวรกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เพียงแค่ปิดพระเนตร ความสงบนิ่งได้มาเยือน เพียงไม่นาน ชีคซาริม บิน ซาราด ยุติการเคลื่อนไหวใดๆ นอกจากไออุ่นร้อนที่เป่าผ่านพระนาสิกเท่านั้น
พระองค์เข้าสู่นิทราอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันชายในชุดโต๊ปสาวเท้าเร็วๆ ผ่านห้องบรรทมที่มีทหารยืนตัวตรงเฝ้ารักษาการ ร่างนั้นหยุดยืนที่หน้าห้องๆ หนึ่ง ทหารรับใช้เป็นผู้เปิดประตู ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปทันที