ตอนที่ 3 : ตัววุ่นวาย
ตอนที่
[3]
ตัววุ่นวาย
เขาว่าเช่นใดนะ…..
“ข้าเห็นด้วยขอรับ เพียงแต่...ก่อนหมั้นหมาย ข้าอยากให้เราทั้งคู่ รู้จักกันให้มากกว่านี้ก่อน หากใจไม่ตรงกันค่อยว่ากันอีกที น้องเฟินเยว่เห็นด้วยหรือไม่”
นี่เขา...ไม่ปฏิเสธแถมยังตกลงหรือ!
อันใดคืออยากให้รู้จักกันมากกว่านี้ ใครอยากจะรู้จักกับเขากัน!
นางว่าแล้ว หยางเยว่เล่อผู้นี้ความคิดลึกล้ำคาดเดาไม่ได้!
“ข้าว่า.......”
“ป้าว่าดีมากเลยนะเยว่เออร์ ใช่หรือไม่อาเร่อ” หยางฮูหยินรีบกล่าวตัดหน้านางพร้อมหันไปถามมารดานางทันที ส่วนมารดานางก็ไม่ทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง
“เจ้าค่ะพี่อิง ดียิ่งนัก เอาตามเยว่เล่อว่า ค่อย ๆ ทำความรู้จักกันค่อยหมั้นหมายก็ได้”
เอออห่อหมกกันหมด ถามความคิดเห็นนางกันหรือยัง!!
“ท่านแม่....”
“เยว่เออร์ ลูกคงไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ลูกพูดอะไรไปใช่หรือไม่” มารดานางเขยิบมากระซิบข้างหูนาง
‘หากเขาตอบตกลงลูกก็จะตกลงเช่นกัน’
ด้วยเหตุนี้นางจึงนั่งเงียบไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ พร้อมหันไปมองตัวต้นเหตุว่ามีสีหน้าเช่นใด ซึ่งเขาก็กำลังมองนางอยู่พอดี
หึ
นั่นเขายิ้มมุมปากหรือ เขากำลังหัวเราะเยาะนางใช่หรือไม่!
ไม่ผิดแน่ หยางเยว่เล่อ!!
หยางเยว่เล่อเห็นประกายความโกรธเคืองในสายตาของแม่นางน้อยตรงหน้าก็รู้สึกสนุกยิ่ง
นางกำลังไม่พอใจเขา
ไม่พอใจอย่างมากเสียด้วย
“ข้าว่านะอาเร่อ ทั้งสองคนต้องเป็นคู่ด้ายแดงของกันแน่ แค่ชื่อก็ราวว่าเกิดมาคู่กันแล้ว เยว่เล่อ ดวงจันทร์แห่งความสุข เฟินเยว่ ดวงจันทร์หวานหอม อยู่ด้วยกันจะต้องเต็มไปด้วยความสุขอันหอมหวานแน่”
ท่านป้าช่างมโนยิ่งนัก
หอมหวานกับผีน่ะสิ
น่าจะขมขื่นเสียมากกว่า!
เมื่อตกลง (บังคับ) กันเสร็จสรรพแล้ว กลับถึงบ้านนางก็รีบไปหาบิดาทันที
“ท่านพ่อเกิดเรื่องใหญ่แล้ว” บิดาเงยหน้าจากกองหนังสือพร้อมตอบว่า
“พ่อรู้เรื่องแล้ว”
หา!!
“มารดาเจ้าส่งคนมาบอกก่อนหน้านี้แล้ว” ไป๋หานเห็นบุตรสาวทำหน้าตาสงสัย จึงคลายข้อสงสัยให้กับนาง
โอโห ท่านแม่เร็วยิ่งนัก!!
“ท่านพ่อลูกจะทำอย่างไรดี”
“ก็อย่างที่เขาว่า ทำความรู้จักกันไปก่อน หากไม่เข้ากัน ก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้”
เฮ้ออออออ ต้องหาทางเอาตัวรอดเองสินะ
“คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ลี่ลี่บ่าวรับใช้คนสนิทของนางถามขึ้น หลังจากกลับมาจากทำธุระให้นาง
“หยางเยว่เล่อบอกจะลองคบหากับข้าดู” นางสรุปสั้น ๆ ให้ลี่ลี่เข้าใจง่าย ๆ
“หา! เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ เหตุใดใต้เท้าหยางถึงดูแตกต่างจากที่ได้ยินมา”
“นั่นน่ะสิ ข้าก็สงสัย ข้าคิดว่าเขาต้องปฏิเสธข้าแน่นอน จึงได้กล่าวกับท่านแม่ไปเช่นนั้น แต่เขากลับ....”
เฮ้ออออออออ
ไป๋เฟินเยว่ไม่รู้ว่าตนถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรแล้วในวันนี้
“จะทำอย่างไรดีเจ้าคะคุณหนู”
หลังจากที่ส่งมารดาถึงจวนเรียบร้อย หยางเยว่เล่อก็นั่งรถม้าออกไปทำธุระอีกที่หนึ่ง ระหว่างนั่งในรถม้า อันหยง จึงถามขึ้น
“คุณชาย เหตุใดจึงตอบตกลงไปเช่นนั้นขอรับ ในเมื่อคุณหนูไป๋ก็ไม่ได้มีความต้องการที่อยากจะแต่งงานหมั้นหมายอันใด”
อันหยงยืนรออยู่ในมุมหนึ่งของห้องแน่นอนว่าเขาได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจน
หยางเยว่เล่อ ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง
“ยิ่งนางไม่ได้มีความต้องการ ข้าเลยตอบตกลงไป”
“หืม เหตุใดขอรับ”
“ยิ่งนางไม่ได้พึงใจในตัวข้า นางก็จะหาทางออกห่างข้า ไม่มาวุ่นวายกับข้า และในที่สุดก็จะหาทางยกเลิกความสัมพันธ์กับข้า ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น ก็คงจะใช้ระยะเวลาพักใหญ่ ๆ กว่าเรื่องทั้งหมดจะสิ้นสุดลง ระหว่างนี้ท่านแม่ก็จะไม่มายุ่งวุ่นวายหาสตรีอื่นมาให้ข้าอีก นั่นถือเป็นเรื่องที่ดียิ่ง”
“อ่า เป็นเช่นนี้ ข้าน้อยนึกว่าคุณชายตกลง เพราะนางคล้ายกับ....”
“เจ้าคิดผิดแล้ว” หยางเยว่เล่อรีบกล่าวขึ้นทีนที
“ดีแล้วขอรับ คุณชายของข้าน้อยฉลาดยิ่งขอรับ” อันหยงยิ้มเมื่อเข้าใจในเรื่องราว เขาว่าแล้ว คุณชายต้องไม่ทำสิ่งใดแบบไร้เหตุผลแน่
“ว่าแต่.... คุณหนูไป๋นางเห็นคุณชายแล้ว นางก็ยังไม่มีท่าทีชื่นชอบคุณชายหรือขอรับ”
“ไม่เลยสักนิด” เขาตอบทันทีพลางนึกถึงสตรีผู้นั้น
“นางเป็นสตรีที่แปลกนะขอรับ หรือนางแค่สงวนท่าที แต่จริง ๆ แล้วก็อาจจะชอบคุณชายอยู่ก็ได้” อันหยงยังคงสงสัยมีสตรีใดที่เห็นคุณชายของเขาแล้วจะไม่ชื่นชอบบ้างเล่า ถึงแม้ว่าคุณหนูไป๋จะดูแตกต่างจากผู้อื่นก็เถอะ
“เจ้าว่าจะมีสตรีใดถลึงตาใส่บุรุษที่ตนชอบบ้างเล่า”
หลังจากที่นางไปพบสองแม่ลูกคู่นั้นแล้ว ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ จนนางคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจวบจนกระทั่งวันรุ่งขึ้น.....
“คุณหนูเจ้าคะ คุณชายถงมาขอพบเจ้าค่ะ”
ถงชิ่งอันมาทำไมอีก!
“บอกเขากลับไป” ถงชิ่งอันสร้างความเดือดร้อนให้นางตลอดหลายปี นางเวียนหัวกับเขานัก!
“แต่คุณหนูเจ้าคะ คุณชายถงร้องไห้โวยวายอยู่หน้าจวนเจ้าค่ะ”
ว่าอย่างไรนะ!!
นางไม่ได้สนใจเขา แต่การที่เขามาร้องไห้อยู่หน้าจวน ต้องมีผู้พบเห็นมากมายแน่ แม้นางมั่นใจว่าผู้คนจะไม่นำนางไปนินทาเสีย ๆ หาย ๆ แต่มันเหมาะสมหรือไม่ที่เขาจะมาร้องไห้ที่หน้าจวนผู้อื่นเช่นนี้ นางจึงให้ลี่ลี่ไปเรียกเขาให้มาพบที่สวนส่วนกลางของเรือน
ยามเมื่อพบหน้าก็พบว่าอีกฝ่ายอยู่ในสภาพตาแดงก่ำ จมูกถูกถูจนแดง สภาพไม่ได้ดูน่าสงสารแต่อย่างใดแต่กลับดูอนาถยิ่ง
“คุณหนูไป๋ ที่ท่านบอกข้าว่าไม่อยากแต่งงานมาตลอด แท้จริงแล้ว ท่านพึงใจในใต้เท้าหยางใช่หรือไม่ ฮึก ๆ ท่านหลอกข้า”
“นี่...ถงชิ่งอัน ข้าจะชื่นชอบผู้ใด เกี่ยวอันใดกับท่าน”
“ฮึก ๆ ท่านใจร้าย ท่านยอมรับแล้วใจหรือไม่ ว่าชอบเขา”
“ข้าไม่ได้ชอบเขา”
“ไม่ได้ชอบแล้วเหตุใดด้านนอกถึงพูดถึงเรื่องท่านกับใต้เท้าหยางจะหมั้นหมายกัน”
หืม นี่ ต้องเป็นฝีมือหยางฮูหยินแน่ เล่นใหญ่เกินไปแล้ว
นางมองหน้าถงชิ่งอัน หากนางบอกเขาว่านางกับหยางเยว่เล่อไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เขาก็จะตามตอแยนางเช่นเดิม แต่ถ้านางคล้ายยอมรับไป เขาก็คงจะรีบตัดใจจากนางเป็นแน่ ที่ผ่านมาที่นางปฏิเสธเขา เขาก็ยังไม่ตัดใจ เพราะนางยังไม่มีผู้ใด แต่ยามนี้ไม่เหมือนกัน
“ข้ากับใต้เท้าหยาง แม้ข้าจะยังไม่ได้ชื่นชอบเขา แต่ยามนี้เราสองคนกำลังเรียนรู้กันและกัน หากทุกอย่างราบรื่นก็คงจะเกิดการหมั้นหมายในอีกไม่ช้านี้แน่นอน”
“ฮือ ๆ ๆ ข้าเจ็บปวดหัวใจ ชิ่งอัน เจ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก ฮือ ๆ” ไป๋เฟินเยว่มองถงชิ่งอันที่พูดกับตนเองเสร็จก็ลงไปชักดิ้นชักงอลงกับพื้น จึงกุมขมับทันที
นางปวดหัวกับเขาจริง ๆ!!
แต่ไม่นานอีกฝ่ายกลับมีปฏิกิริยาหยุดนิ่ง และมีสายตาที่มุ่งมั่นขึ้น เขาลุกยืนขึ้นและปัดเศษฝุ่นตามเนื้อตัว พร้อมทั้งหันมากล่าวกับนางว่า
“คุณหนูไป๋ ตราบใดที่ท่านและใต้เท้าหยาง ยังไม่ได้หมั้นหมายแต่งงานกัน ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ ไม่มีวันยอมแพ้โดยเด็ดขาดท่านคอยดู!!” ว่าแล้วก็รีบวิ่งออกไปทันที
ถงชิ่งอันนี่.....เหตุใดจึงดื้อดึงยิ่งนัก
วันนี้นางพบแต่กับตัววุ่นวายโดยแท้
หัวจะปวด!!