ตอนที่ 2 : พบหน้าครั้งแรก
ตอนที่
[2]
พบหน้าครั้งแรก
“ท่านแม่เจ้าคะ เรากลับก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ ใต้เท้าหยางน่าจะไม่สะดวกมาวันนี้” เมื่อเข้ามาในห้องนางก็รีบเปิดประเด็นทันที
“เยว่เออร์ จะรีบไปที่ใดลูก ป้ายังพูดคุยกับมารดาของหลาน โดยเฉพาะกับหลาน....ป้ายังพูดคุยไม่เท่าใดเอง” หยางฮูหยินเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น นางกลัวว่าว่าที่สะใภ้ผู้นี้จะรีบกลับก่อนที่จะได้พบบุตรชายของนาง เมื่อนึกถึงบุตรชายก็รู้สึกเข่นเขี้ยวไม่น้อยเหตุใดถึงชักช้าเพียงนี้
“เยว่เออร์ กลัวว่าจะเป็นการรบกวนหยางฮูหยินเกินไปเจ้าค่ะ”
“หยางฮูหยินอะไรกัน เรียกป้าว่าท่านป้าสิลูก เราคนกันเอง” หยางฮูหยินมองดูเด็กสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“เอ่อ...เจ้าค่ะ ท่านป้า เยว่เออร์ว่า วันนี้ใต้เท้าหยางคงมิสะดวกมาพบ อีกทั้งยิ่งอยู่นานจะเป็นการรบกวนท่านป้ามากเกินไปเจ้าค่ะ” ไป๋เฟินเยว่ส่งสัญญาณไปหามารดาให้รีบกลับโดยด่วน
“เยว่เออร์......แม่ว่า”
“คุณหนูไป๋จะรีบกลับไปที่ใดหรือ”
!!!
“เล่อเออร์มาแล้วหรือลูก” เสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไปด้วยความเย็นชา ดังขึ้นที่ด้านหลังนาง ตามด้วยเสียงดีใจของหยางฮูหยิน นางจึงรีบหันไปมองอีกหนึ่งบุคคลสำคัญในนิยาย ‘เพราะเจ้าคือรักเดียวของข้า’ ทันที
หยางเยว่เล่อ พระรองช้ำรักผู้นั้น ตัวจริงหล่อเหลาถึงเพียงนี้เลยหรือ!
ผิวขาวจัด ใบหน้าเรียวเล็ก จมูกโด่งสันได้รูป เครื่องหน้าทั้งหมดรวมกันดียิ่ง ไหนจะรูปร่างที่สูงเพรียวสง่าอีก ช่างดีงามเหลือเกิน แต่...การแสดงสีหน้าและสายตาช่างดูเย็นชายิ่งนัก
ไป๋เฟินเยว่สำรวจเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง พยายามไม่แสดงอาการใด ๆ
“ขออภัยไป๋ฮูหยินและ...คุณหนูไป๋ที่ข้ามาช้า พอดีข้าเพิ่งจัดการธุระเสร็จเรียบร้อย”
“เอ่อ.... ใต้เท้าหยางมิต้องขออภัยข้า ใต้เท้าหยางมีกิจธุระการงานให้จัดการมากมาย เป็นพวกข้ากลับรบกวนเวลาอันสำคัญของท่าน”
ไป๋ฮูหยินรีบกล่าวอย่างเกรงอกเกรงใจ
“อาเร่อ ใต้เท้าหยางอะไรกัน นั่นหลานชายของเจ้า เรียกเขาว่าเยว่เล่อหรือเล่อเออร์เถิด เยว่เออร์ก็ด้วย เรียกพี่เขาว่าพี่เล่อเถิด คนกันเอง อีกอย่างจะได้สนิทกันเร็ว ๆ”
“เอ่อ....” ไป๋ฮูหยินหันไปมองพี่สาวคนสนิทที บุตรชายของนางทันที
“เอาเช่นท่านแม่ว่าก็ได้ขอรับ เช่นนั้น...ข้าขอเรียกไป๋ฮูหยินว่าท่านน้านะขอรับ และก็.... น้องเฟินเยว่” หยางฮูหยินหันไปมองบุตรชายอย่างไม่เชื่อสายตาว่าเขาจะกล่าวออกมาเช่นนี้ แต่สักพักก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“เช่นนั้นเอาตามที่เล่อเออร์ว่าเถิดอาเร่อ เยว่เออร์เอาเช่นนี้นะ ป้าเห็นด้วยกับพี่เขา” ไป๋เฟินเยว่มองบุรุษผู้นี้อย่างสับสน นี่ใช่หยางเยว่เล่อในนิยายจริงหรือ หากเป็นในนิยายเขาคงไม่ได้มาสนใจทำเช่นนี้ ที่จริงนางตกใจตั้งแต่ที่เขามาแล้ว ตำนานหักหน้าทิ้งคู่ดูตัวให้รอมานักต่อนัก ที่ได้ยินมานั้นไม่ได้มาเล่น ๆ
“เจ้าค่ะ” นางจึงรับปากอย่างจำยอม แต่จะเรียกไม่เรียกก็อีกเรื่อง
เมื่อมากันครบ หยางฮูหยินก็ให้ทางโรงเตี๊ยมทยอยนำอาหารขึ้นชื่อของโรงเตี๊ยมมาวางบนโต๊ะเต็มไปหมดจบแทบไม่มีที่วาง สั่งคล่องราวกับเป็นคนที่นี่เลยทีเดียว
การรับประทานอาหารก็ดำเนินการไปเรื่อย ๆ ท่านแม่และหยางฮูหยินก็พูดคุยกันถูกคอนักเพราะบวกกับความคิดถึงที่ไม่ได้พบกันถึง 7 ปี ตั้งแต่ครอบครัวนางย้ายมาที่นี่ ยิ่งมีเรื่องมากมายให้พูดคุยกัน ส่วนหยางเยว่เล่อนอกจากประโยคแปลก ๆ ที่เขากล่าวตอนมาถึง หลังจากนั้นเขาก็แทบไม่พูดอันใด เพียงแค่พยักหน้าในบางครั้งเป็นมารยาทเท่านั้น ส่วนนางก็เขี่ยข้าวอยู่เงียบ ๆ คนเดียวเท่านั้น
“เยว่เออร์ ก็ผ่านวัยปักปิ่นมาสักพักแล้วใช่หรือไม่”
นั่นอย่างไรเริ่มเข้าประเด็นแล้ว
“แล้วยังไม่มีคู่หมายใช่หรือไม่”
“ยังไม่มีเจ้าค่ะ”
“ดี ๆ” หยางฮูหยินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “แล้วมีผู้ใดมาทาบทามไว้บ้างหรือไม่” ประโยคนี้นางหันไปถามท่านแม่ของนาง
“กล่าวตามตรง พี่อิง มีผู้มาทามทาบเยว่เออร์มากมายเหลือเกิน แต่เป็นเพราะบุตรีผู้นี้ยังเด็กนัก เลยยังไม่ได้สนใจในความรักหนุ่มสาวเท่าใด”
นางจะบอกผู้อื่นได้อย่างไร ว่าบุตรสาวของนางมีความคิดที่แปลกจากคนทั่วไป เช่น การไม่อยากออกเรือน หรือแม้แต่การไม่อยากมีบุตร
“ฮ่า ๆ จริงหรือ เยว่เออร์ของป้า มองอย่างไรก็โตแล้ว โตเป็นสาวงามเสียด้วย แต่ยังไม่สนใจในความรักหรือ เยว่เออร์หากหลานจะชื่นชอบบุรุษสักคน หลานจะชื่นชอบบุรุษเช่นใดหรือ”
“เอ่อ ท่านป้า หลานไม่ได้คิดถึงเรื่องการชื่นชอบบุรุษมาก่อนเจ้าค่ะ”
“อย่างพี่เล่อของเจ้าเป็นไร ชอบหรือไม่”
“….”
นางหันไปมองคนที่ถูกกล่าวถึงทันที แต่เขากลับทำราวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเอง
“ที่จริงแล้ว ป้าอยากให้เจ้าหมั้นหมายกับพี่เล่อของเจ้า พี่เล่อของเจ้าเป็นบุรุษที่ดีอีกทั้งเขายังไม่เคยมีคู่หมายมาก่อน หน้าที่การงานก็มั่นคงยิ่ง หากได้แต่งกับเขาก็จะเป็นเรื่องที่ดีกับเยว่เออร์ ป้ามั่นใจ เยว่เออร์เห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่” หยางฮูหยินกล่าวจบก็ฉีกยิ้มให้นางแล้วแสดงท่าทีว่าให้นางตกลงเถิด
นี่มันบังคับกันทางอ้อมชัด ๆ !!
“ท่านป้า เยว่เออร์ยังไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน อีกทั้งเรื่องการหมั้นหมายยังต้องเป็นเรื่องของคนสองคน ท่านป้าควรสอบถามความคิดเห็น ตะ..ใต้...อ่า พี่เล่อดูก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ”
เมื่อนางกล่าวจบสายตาของทุกคนในยามนี้จึงหันไปมองเขาอย่างคาดหวัง ทั้งหยางฮูหยินและท่านแม่ของนางต่างรอคำตอบของเขา ส่วนนางน่ะหรือ ก็คาดหวังเช่นเดียวกัน คาดหวังว่าเขาจะตอบเช่นทุกครั้งเมื่อมารดาเสนอบุตรีของขุนนางคนแล้วคนเล่าให้เขา
‘ข้าไม่สนใจในสตรีใด ท่านแม่เลิกทำเช่นนี้เถิดขอรับ’
เอาสิ หยางเยว่เล่อ ตอบเช่นนี้เร็ว ทุกอย่างจะได้จบ
เขาวางตะเกียบลงและนำผ้ามาเช็ดที่มุมปากก่อนจะกล่าวบางอย่างออกมา
“ข้าเห็นด้วยขอรับ เพียงแต่.... ก่อนหมั้นหมาย ข้าอยากให้เราทั้งคู่ รู้จักกันให้มากกว่านี้ก่อน หากใจไม่ตรงกันค่อยว่ากันอีกที น้องเฟินเยว่เห็นด้วยหรือไม่”
!!!