บทย่อ
“จันทร์หอม” สตรีในยุคปัจจุบันที่ชื่นชอบการอ่านนิยายแนวจีนโบราณเป็นอย่างมาก อยู่ดี ๆ วันหนึ่งกลับมีแสงสีทองปรากฏขึ้นรอบกาย . . . เธอถูกส่งมาในนิยายที่ตัวเองอ่าน และที่สำคัญนิยายเรื่องนี้จบแล้ว จบดีด้วย แล้วส่งเธอมาเพื่อ??! ทุกคนในนิยายก็จบอย่างมีความสุข เว้นก็แต่......อีตาพระรองแสนเย่อหยิ่งและปากหนักผู้นั้นอย่าง ‘หยางเยว่เล่อ’ ที่ชอกช้ำอยู่คนเดียว อย่าบอกนะว่า...... จะส่งเธอมาดามใจพระรองอกหักคนนี้ ไม่เอา! เธอไม่อยากแต่งงาน โดยเฉพาะแต่งกับคนเช่นนี้! หากเป็นในนิยาย “เพราะเจ้าคือรักเดียวของข้า” เขาคือพระรองผู้ไม่สนใจผู้ใดนอกจากนางเอก................. แม้นางเอกจะมีใจให้กับพระเอกของเรื่องเพียงผู้เดียว และมารดาเพียรหาสตรีมาให้เขาเลือกมากมายเพียงใด เขาก็ยังไม่สนใจใครยกเว้นแต่นางเอกผู้นั้นเช่นเดิม เมื่อจะต้องมาหมั้นหมายกับสตรีแปลกหน้าแถมยังข้ามภพมาเช่นนาง คิดเอาไว้ เขาคงไม่ได้สนใจอันใดนางแน่ ๆ แต่เหตุใด.......เขาถึงทำเช่นนี้กัน!
ตอนที่ 1 : ว่าด้วยเรื่องการหมั้นหมาย 1/1
ตอนที่
[1]
ว่าด้วยเรื่องการหมั้นหมาย
นิยายแนวจีนโบราณ แนวย้อนยุคทะลุมิติเป็นแนวที่ “จันทร์หอม” สาวสวยและโสดในยุคปัจจุบันชื่นชอบในการอ่านเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเงินเดือนที่หามาได้ในแต่ละเดือนนั้น เธอพร้อมที่จะเปย์นิยายเหล่านี้จนเกือบหมดตัว แต่เพราะผลลัพธ์มันคือความสุข เธอจึงไม่ได้วอรี่อะไรกับเงินที่จ่ายไปสักเท่าไหร่ จวบจนมาถึงเรื่องล่าสุดที่เธออ่าน “เพราะเจ้าคือรักเดียวของข้า” ที่เมื่ออ่านตอนจบเธอก็ตบเข่าฉาดทันที
มันต้องอย่างนี้!
เพราะทั้งการดำเนินเรื่อง คาแรคเตอร์ตัวละครและตอนจบมันถูกใจเธอมาก ตัวร้ายก็ได้รับผลกรรมที่ทำ ตัวเอกส่วนใหญ่ก็มีความสุขกันเกือบทุกคน และตัวละครที่เธอชื่นชอบมากที่สุดเห็นทีก็คงจะเป็นนางเอกของเรื่อง เพราะรู้สึกว่ามีนิสัยและแนวคิดที่คล้าย ๆ กันกับเธอเป็นอย่างมาก.....
แต่เมื่ออ่านเรื่องจบแล้วไม่นาน วันหนึ่ง...อยู่ดี ๆ กลับมีแสงสีทองปรากฏขึ้นรอบกายเธอ มันค่อยสว่างจ้าขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดก็มองไม่เห็น
สิ่งใด
ลืมตาอีกทีก็มาปรากฏอยู่ในสถานที่แปลกตา ชื่อสถานที่ไม่คุ้นหู ในตอนแรกไม่รู้ว่าคือที่ใด แต่ที่เห็นชัด ๆ มันคือยุคโบราณ แล้วเป็นยุคคล้ายจีนโบราณด้วย!
OMG มาก!
แล้วเธอไม่ได้โผล่มาเป็นคนไร้ตัวตนของที่นี่ แต่กลับเป็น “คุณหนูไป๋เฟินเยว่” บุตรสาวคนงามคนเดียวของอดีตราชครูขององค์รัชทายาท “ไป๋หาน” กับไป๋ฮูหยิน ชื่อเดิม จ้าวเสวี่ยเร่อ ท่านราชครูขอลาออกจากงานก่อนวัยเกษียณด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาพาครอบครัวมาตั้งต้นใช้ชีวิตที่เมืองซานหลินแห่งนี้ เมื่อ 7 ปีก่อน ถึงจากมา 7 ปี แต่ฮ่องเต้ก็ยังคงให้ความสำคัญมากอยู่ จากในตอนแรกเธอไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ใด
และเพราะเหตุใดถึงส่งเธอมาที่นี่
แต่เนื่องจากตอนนี้เธอใช้ชีวิตที่นี่มา 7 ปี เธอก็รู้แล้วว่าที่นี่คือที่ไหน หลังจากเริ่มได้ยินชื่อคนหลายคนที่รู้สึกคุ้นหูเหลือเกิน....
ตอนนี้เธออยู่ในนิยาย เพราะเจ้าคือรักเดียวของข้า ไม่ผิดแน่! เพราะได้ยินชื่อ ทั้งชื่อของพระเอกของเรื่องอย่าง “องค์ชายสามจ้าวอี้หลง” ผู้เป็นแม่ทัพบูรพา กับนางเอกคุณหนูอันดับหนึ่งของเมืองหลวง “หลี่ซินอี๋” ที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายาหลี่เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวความรักของทั้งคู่โด่งดังไปทั่วทั้งแคว้น ผู้ใดก็ต้องเคยได้ยิน และผ่านมา 7 ปี เธอก็รู้อีกเหตุผลที่เธอถูกส่งมาที่นี่แล้ว ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้มีบทบาทในนิยายเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ที่สำคัญนิยายเรื่องนี้ก็จบแล้วด้วย!
“เยว่เออร์ฟังแม่อยู่หรือไม่ ตกลงว่าอย่างไร”
“ลูกไม่แต่งเจ้าค่ะ”
เธอกำลังจะถูกจับหมั้นหมายแต่งงานกับตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในนิยาย ‘เพราะเจ้าคือรักเดียวของข้า’ อย่าง “หยางเยว่เล่อ” พระรองผู้ช้ำรักและรักฝังใจในนางเอกยิ่ง!! ขุนนางอายุน้อยอนาคตไกล ใต้เท้าฝ่ายโยธาที่มีตำแหน่งเป็นถึงรองเสนาบดี ผู้ที่ควบคุมการก่อสร้างใหญ่ ๆ ทั้งหมดในแคว้นตามประสงค์ของฝ่าบาท
แล้วทำไมต้องให้เธอมาเกี่ยวข้องกับคนที่อกหักและมีรักฝังใจแบบนั้นด้วย ที่สำคัญตามนิยายคือหยางเยว่เล่อนั้นเป็นผู้มีกิริยานิ่งเงียบ แต่กล่าวออกมาแต่ละคำนั้นชวนคนเข้าใจผิดและไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือเขาค่อนข้างเจ้าระเบียบ ที่นางเอกของเรื่องไม่ชอบเขาเพราะเธอคิดว่า พระรองคนนี้กล่าวแต่ละคำออกมาไม่คล้ายไปจีบแต่คล้ายไปหาเรื่องเขาเสียอย่างนั้น ความหวานไม่มี ดีแต่ทำตัวแปลก ๆ
เช่นนี้ก็แห้วไปสิ ไม่แปลกเลย!
ย้อนกลับมาสถานการณ์ตอนนี้ คือเธอแอบเคืองเบื้องบนที่ส่งเธอมา ทำไมต้องส่งเธอมาแล้วมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วย
ถ้าจะให้มาดามใจพระรอง บอกเลยว่าไม่มีทางสำเร็จ ก็บอกแล้วว่าในนิยายเขาฝังใจกับนางเอกยิ่งกว่าอะไร และอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญ ตอนอยู่ในยุคปัจจุบัน เธอตั้งใจแล้วว่าจะเป็นสาวโสดตลอดไป ไม่อยากแต่งงาน เพราะความสุขของเธอไม่ใช่การแต่งงาน ถึงจะถูกส่งมายุคนี้ที่การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ยังคงล้าหลัง ขนบประเพณีต่าง ๆ และที่สำคัญยุคนี้ก็ยังอยู่ในยุคที่ชายเป็นใหญ่ แม้ว่าคนรอบตัวจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่หากว่าผู้ที่ต้องมาเป็นสามีเธอเล่า แบบนี้จะรับรองได้อย่างไรว่าเธอจะมีความสุขในการแต่งงาน ดังนั้น เธอก็จะไม่เปลี่ยนความคิดนี้เด็ดขาด!!
ทุกอย่างกำลังจะไปด้วยดี แต่แล้วเหตุใดท่านแม่ต้องรู้จัก อ่า เรียกได้ว่าถึงขั้นสนิทกับหยางฮูหยิน มารดาของหยางเยว่เล่อด้วย!
“ท่านแม่ลืมปณิธานของลูกไปแล้วหรือเจ้าคะ” ไป๋เฟินเยว่ทำหน้างอใส่มารดา
“ไอ้ปณิธานสาวเทื้อของเจ้าน่ะหรือ คราแรกแม่คิดว่าเจ้าพูดเล่น เพราะยังไม่เจอผู้ที่ถูกใจ หรือไม่ก็รำคาญคุณชายถงที่คอยตามตอแยเจ้า แต่นี่ใต้เท้าหยาง ผู้ที่ใคร ๆ ก็เล่าลือกันว่ารูปลักษณ์งามยิ่ง อีกทั้งฉลาดล้ำเกินผู้ใด ที่สำคัญชาติตระกูลก็ดี เจ้าก็ยังไม่สนใจอีกหรือ”
“ไม่เจ้าค่ะ ต่อให้ดีกว่าหยางเยว่เล่อ ลูกก็ไม่สนใจ”
“เฮ้อ นู่นบิดาเจ้ามานู่นแล้ว ลองถามความคิดเห็นเขาดู” ไป๋ฮูหยินส่ายหน้าอย่างหนักใจ
“ท่านพ่อ~~~~~~~~”
“มีอันใดกัน ไยเยว่เออร์ทำหน้างอเช่นนี้”
“ท่านพ่อ ท่านแม่จะให้ลูกหมั้นหมายกับหยางเยว่เล่อเจ้าค่ะ”
“เหตุใดไปเรียกชื่อใต้เท้าหยางตรง ๆ เช่นนั้น แต่อันใดนะ หมั้นหมายกับใต้เท้าหยางหรือ” ไป๋หานหันไปทางภรรยาอย่างขอคำตอบ
“ยังไม่ได้ให้หมั้นหมายตอนนี้หรอกเจ้าค่ะ เพียงแต่ยามนี้ใต้เท้าหยางย้ายมาประจำการที่เมืองซานหลิน เพราะต้องควบคุมการสร้างเขื่อน พี่หรงอิงก็ตามบุตรชายมาอยู่ที่นี่ด้วย นี่ก็มาถึงได้ 2-3 วันแล้ว เลยอยากนัดเจอกันที่โรงเตี๊ยมฟู่เฟิงเจ้าค่ะ ท่านพี่ก็รู้ว่าอาหารที่นั่นรสชาติดีนัก แม้จะน้อยกว่าฝีมือเยว่เออร์ก็เถอะ แต่ทีนี้ไหน ๆ ก็นัดกันแล้ว พวกข้าก็เลยอยากให้เยว่เออร์ กับใต้เท้าหยางได้รู้จักกันไว้ หากวันหน้ามีวาสนาต่อกันก็จะได้หมั้นหมายแต่งงานกันเจ้าค่ะ”
‘พวกข้า’ แสดงว่าหยางฮูหยินก็เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้เช่นกันสินะ ไป๋เฟินเยว่คิด
แล้วท่านแม่รู้หรือไม่ที่เขาย้ายมาเพราะย้ายหนีช้ำจากเมืองหลวงมาต่างหาก ใครจะมีกะจิตกะใจมาแต่งงานกับผู้อื่นอีกเล่า!
“แล้วเยว่เออร์ไม่เห็นด้วยหรือ” คราวนี้ไป๋หานหันไปถามบุตรสาว ซึ่งนางก็พยักหน้าว่านางไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เขารู้ดีว่าบุตรีผู้นี้ ไม่อยากออกเรือนเพียงใด นางบอกว่าจะดูแลบิดากับมารดาไปจนแก่เฒ่า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางเป็นบุตรเพียงคนเดียวหรือไม่ ถึงกลัวว่าในอนาคตพวกเขาจะไม่มีผู้ดูแล ส่วนเขาที่จริงแล้ว อย่างไรก็ได้ ขอเพียงนางมีความสุขก็พอ แต่ครั้งนี้เหมือนมีบางอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
“พ่อว่า แค่ไปพบกันไม่น่าจะเป็นอันใด อีกทั้งพ่อได้ข่าวว่า ที่จริงแล้วมีคุณหนูตระกูลขุนนางในเมืองหลวงอยากจะออกเรือนให้ใต้หยางมากมายนัก แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล เพราะใต้เท้าหยางไม่สนใจผู้ใดเลยสักนิด”
ก็เพราะว่าเขาสนใจแต่นางเอก คุณหนูหลี่ซินอี๋น่ะสิ!
“หากเจ้าไปก็ใช่ว่า.... ใต้เท้าหยางจะสนใจเจ้า......” ช่วงท้าย ๆ อดีตราชครูกล่าวเสียงเบาลงเพราะกลัวบุตรสาวไม่พอใจ เขาไม่ได้ว่านางไม่งาม เพราะที่จริงแล้วนางงามมาก แต่ไม่อยากให้นางคิดไปไกล
“ก็ใช่น่ะสิเจ้าคะ จะไปให้เสียเวลาทำไม อย่างไรเขาก็ไม่สนใจลูกแน่ ๆ”
“เจ้างดงามถึงเพียงนี้ เหตุใดใต้เท้าหยางจะไม่สนใจเจ้า” ไป๋ฮูหยินกล่าวขึ้น
“ท่านแม่ไม่เคยได้ยินข่าวที่เขามีคนในใจแล้วหรือเจ้าคะ”
“นะ...นั่น ผู้อื่นเขาแต่งงานไปแล้ว ใต้เท้าหยางคงไม่มีอันใดด้วยแล้ว” ไป๋ฮูหยินกล่าวอย่างตะกุกตะกัก
“มีแน่นอนเจ้าค่ะ และเพราะเช่นนั้นเขาไม่มีทางตกลงแต่งงานหมั้นหมายกับลูกแน่”
“แล้วหากเขาตกลงเล่า” ไปฮูหยินยังคงต่อรองอย่างไม่ลดละ
“หากเขาตอบตกลงลูกก็จะตกลงเช่นกัน!”
“เจ้าตกลงแล้วนะ”
เอ๋ ทำไมพอรับปากท่านแม่ไปแล้วกลับรู้สึกแปลก ๆ นะ
แต่ช่างเถอะ! คงไม่มีอันใด