บท
ตั้งค่า

เสน่ห์ร้าย บทที่ 4 (NCเล็กน้อย)

เขาเอื้อมมือมาเพื่อที่จะปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แต่ฉันสะบัดหน้า และพยายามดิ้นออกจากมือของเขาที่จับแขนฉันไว้ แววตาที่มองมาเริ่มอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เสแสร้งงั้นสินะ

“ปล่อยได้แล้ว นี่ฉันถามหน่อยว่าพี่ขายฉันไปเท่าไร” ฉันจะเอาเงินไปคืนเพื่อซื้อตัวฉันคืนเองเนี่ยแหละ!

“ไม่ต้องรู้หรอก เธอไม่มีปัญญาหามาคืนแน่” ตาดุมองหน้าฉันอย่างเอาจริง

“หึ! ทำไมจะหามาคืนไม่ได้ ในเมื่อพี่ขายฉันให้นายเพื่อแลกกับเงินได้ ฉันก็จะขายตัวเองให้คนอื่น เพื่อเอาเงินมาคืนนายไง”

ปึก!

เขาเปลี่ยนจากกอดมาเป็นจับฉันกดลงไปบนโต๊ะทำงานด้านหลังแทน ข้อมือเล็กทั้ง 2 ข้างถูกมือหนากดลงตรึงไว้เหนือหัว เส้นเลือดตามข้อมือเริ่มปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะความแค้นและความปากดีทำให้ฉันพูดออกไปอย่างหมดความอดทน สายตาของเขาที่มองมาเริ่มแสดงถึงความสมเพชอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมองฉันด้วยสายตาแบบนี้มาก่อนเลยสักนิด

“ผู้หญิงอย่างเธอนี่ ฉันคิดถูกหรือเปล่าที่ยอมเอาเงินไปโยนทิ้งเพื่อให้ได้ตัวเธอมา”

“ขอโทษนะ พอดีว่าผู้หญิงอย่างฉันมันก็ไม่เคยขอให้นายเอาเงินมาโยนทิ้งเพื่อแลกกับฉันนี่” ยิ่งเถียงมากเท่าไร มือหนาก็ยิ่งบีบข้อมือฉันแรงมากขึ้นเท่านั้น

“ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่า นอกจากปากดีแล้ว อย่างอื่นมันจะยังดีอยู่ด้วยหรือเปล่า”

“ดีไม่ดีไม่รู้! แต่ที่รู้ใคร ๆ ที่ผ่านมา เขาก็บอกว่าฉันเด็ดสุดนะ” ใช่...ฉันมันปากดี แต่ไม่ได้มีดีแค่ปากแน่ ๆ

“โซยู” แววตาสีนิลจ้องลึกเขามาในตาฉัน ดูก็รู้ว่าเขาโมโหมากแค่ไหน

“ทำไม คิดผิดละสิที่ซื้อฉันมา ฉันผ่านอะไรมาบ้างนายไม่เคยรู้หรอก”

เรื่องโกหกทั้งหมด ฉันไม่เคยผ่านใครมาทั้งนั้น เพราะโมโหจึงทำให้พูดออกไปแบบนั้น ความโกรธ เกลียด แค้น ทุกอย่างมันวิ่งชนเข้ามาในเวลาเดียว ยิ่งนายรังเกียจฉันมากเท่าไร ก็จะไม่อยากเข้าใกล้ฉันมากเท่านั้น

“งั้นเหรอ ขอทดสอบหน่อยละกัน แล้วฉันจะตัดสินเองว่าสมควรปล่อยเธอไปหรือเปล่า”

ไม่พูดเปล่ามือของเขาเปลี่ยนจากจับข้อมือฉัน เป็นอุ้มฉันขึ้นมาให้นั่งอยู่บนโต๊ะ และเอาลำตัวแทรกเขามาระหว่างกลางขาทั้ง2ข้างแทน ฉันทั้งดิ้น ถีบ ข่วน ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ออกจากตรงนี้ มือทั้ง2ที่ทุบตีเขาอยู่ก็โดนรวบไปด้านหลัง และจับไว้ด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว มืออีกข้างที่ว่างก็ถกชายเสื้อทำงานขึ้นอย่างคล่องมือ เผยให้เห็นเสื้อในลายลูกไม้สีดำ และเนินอกสวยขาวได้รูปพร้อมกับรอยแดงที่เขาตีตราไว้เมื่อคืน ความตกใจทำให้ฉันกรี๊ดออกมาลั่นห้อง

“กรี๊ด อึก! อื้อ!” ริมฝีปากร้อนประกบจูบอย่างรวดเร็ว เพื่อปิดปากฉันให้เงียบ เมื่อพยายามจะหันหนี มืออีกข้างของเขาที่ว่างอยู่ก็เอื้อมไปด้านหลัง จับหัวฉันกดลงมาชิดแน่นยิ่งกว่าเดิม

(คุณโซยูคะ! เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ให้พี่เข้าไปมั้ยคะ) เสียงจากพี่มุกถามผ่านโทรศัพท์โต๊ะทำงานของฉัน

“อื้อ! อื้อ!” เสียงทักท้วงพยายามบอกให้ปล่อยจากฉันไม่ได้ทำให้เขายอมปล่อยฉันเลย จะให้คนอื่นมาเห็นสภาพแบบนี้หรือไง!

(คุณโซยูคะ คุณโซยู! ...งั้นพี่ขอเข้าไปนะคะ)

พึ่บ! ฉันใช้แรงทั้งหมดที่มีดิ้น และดันอกเขาออกจากตัว แล้วหมุนกลับไปกดปุ่มตอบพี่มุกทันที

“พี่มุกคะ ไม่เป็นไรค่ะโซโอเค”

(อ๋อ ค่ะ)

เฮ้อ~ เมื่อหันกลับมาก็มาเจอกับร่างสูงที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ เมื่อนึกขึ้นได้รีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่ และโดดลงจากโต๊ะ ถอยหลังยืนห่างจากเขาให้มากที่สุด

“มองอะไร เชิญกลับไปได้แล้ว หมดธุระแล้วนี่” เขามองหน้าฉันและอมยิ้มเบา ๆ ก่อนจะยอมหันหลังทำท่าจะเดินออกไปจากห้องอย่างว่าง่าย แต่ก่อนเปิดประตูเขาหันกลับมาเตือนสติฉันอีกครั้ง

“นับจากวันนี้ เธอเหลือเวลาอีกแค่ 2 วัน เตรียมรับมือกับฉันให้ดี ๆ แม่คนเก่ง”

ปึง! (เสียงปิดประตู)

อีก 2 วันงั้นเหรอ ชีวิตต่อจากนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งเกลียดก็ยิ่งต้องมาเจอหน้ากันทุกวัน ทุกอย่างเหมือนฝันร้าย ในชีวิตฉันจะไว้ใจใครได้บ้าง แม้แต่พี่ยังหักหลังฉันเลย...

ที่บ้านของภาคิน

หลังกลับจากบริษัทของโซยู ผมก็กลับบ้านทันที เพื่อที่จะเตรียมตัวบินไปพร้อมไอ้เจ้าชาย โซยูเพราะความดื้อดึงและความปากเก่งของเธอ ทำให้ผมหมดความอดทน ปกติผมไม่เคยสนใจใครง่าย ๆ อยู่แล้ว ยิ่งถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่เล่นด้วยผมยิ่งไม่แคร์ แต่กับเธอยังไงก็ยอมทำทุกวิธีเพื่อให้ได้เธอมา

ผู้หญิงที่เข้ามาหาผมส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาเพราะหน้าตา เงินทอง อำนาจ และผลประโยชน์ ยังไม่มีใครถูกใจสักคน ส่วนใหญ่ก็จะมีความสัมพันธ์แบบคืนต่อคืนเท่านั้น ผมเป็นคนเบื่อง่าย จึงไม่สนใจจะอยู่กับใครจริงจังสักคน เพราะที่ผ่านมาเคยให้คนคนหนึ่งไปมาก แต่ก็โดนหักหลังกลับมามากเช่นกัน

“นี่ไอ้คิน มึงว่าถ้าจะพาคนที่แกรักไปเที่ยวสักที่ จะไปที่ไหนดีวะ” ไอ้เจ้าชายที่มานั่งรอผมแต่งตัวอยู่ในห้องนอนถามด้วยสายตาจริงจัง

“อะไร อย่าบอกนะว่าไปสนใจผู้หญิง” ขออย่าให้สนใจคนเดียวกันก็พอ

“ก็ไม่เชิง เจอกันหลายรอบแล้ว แต่เมื่อคืนพึ่งมีโอกาสได้คุยกับเธอ”

“เจอกันที่ไหน” ผมถามกลับอย่างไม่ใส่ใจ

“ที่งานวันเกิดไง”

“อะไรนะ” ไอ้นี่ยิ่งชอบมาถามเรื่องหุ้นของโซยูอยู่ด้วย

“จะเสียงดังทำไม กูจะสนใจใครไม่ได้เลยหรือไง”

“เออ สนใจได้ แต่คงไม่ใช่คนเดียวกันกับกูหรอกนะ”

“ไม่ใช่ก็แล้วกัน ก็คนที่เป็น...”

ก๊อก ๆ ๆ

(ขออนุญาตค่ะ) เสียงของคนงานของบ้านดังขึ้นมาจากนอกห้องนอน

“เข้ามา”

“คุณคินคะ มีผู้หญิงมารอพบอยู่ด้านล่างค่ะ” ผู้หญิงงั้นเหรอ

“เขาได้บอกชื่อมั้ย”

“ชื่อมายาค่ะ” มายาเหรอ

“มายามา...” ไอ้ราฟารีบเดินออกจากห้องผมไปทันที

“อือ...เดี๋ยวฉันลงไป” ผมหันไปบอกเธอ ก่อนจะหันมาจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยซะก่อนที่จะออกไป มายางั้นเหรอ... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ

ร่างบางในชุดเดรสสีครีมเข้ารูป ใบหน้าสวยคมคายกำลังจับจ้องมาที่ผมกับราฟา มายา มัสยา อินมา นูสเอล ลูกสาวรัฐมนตรี เพื่อนสนิทผู้หญิงผมกับเจ้าชาย

“เธอมาทำอะไรที่นี่” ราฟาถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

“พอดีว่าฉันกำลังจะไปเยี่ยมพ่อ แล้วได้ยินมาว่าเจ้าชายอยู่กับคินที่นี่เลยแวะมาหา และจะขอบินกลับด้วยน่ะ...ก็เท่านั้นเอง” ถึงปากจะตอบคำถามของราฟา แต่สายตากลับจับจ้องมาที่ผม

“งั้นเหรอ...แล้วไอ้ราฟล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ”

“เขาไม่สนใจฉันหรอก ฉันคิดว่าจะขอหย่ากับเขาแล้ว”

“ทะเลาะกันหรือไง ดูเธอกับราฟก็มีความสุขกันดีนี่ “

“นี่ราฟา อย่าพูดชื่อเขาได้มั้ย ฉันไม่อยากได้ยิน” มายาหันไปโวยใส่ราฟา

“ทะเลาะกันเหรอ” คำพูดแรกที่หลุดออกจากปากผมตั้งแต่ลงมาเจอเธอ

“ก็ไม่เชิงหรอกคิน...ฉันคิดว่าจะขอหย่ากับเขา” มายาพูดพร้อมกับส่งสายตาเศร้ามาให้

“ขอหย่า ทีตอนแต่งงาน เธอดูมีความสุขจะตาย” ราฟาพูดใส่อย่างหงุดหงิด ตอนที่เธอแต่งงาน เธอดูมีความสุขโดยที่ไม่แคร์ความรู้สึกของผมเลยสักนิด มายาหันมาสบตาผม ความรู้สึกที่เหลืออยู่ให้เธอตอนนี้มีแค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น

“พอเถอะ...ไปกันได้แล้วราฟา เดี๋ยวจะไม่ทัน” ผมหันไปบอกราฟาพร้อมกับลุกขึ้นยืน และกำลังจะก้าวเดินไปที่รถ แต่ก็โดนมือของมายาจับไว้ ผมก้มลงมองมือเล็กของมายาก่อนจะหันไปมองหน้าราฟาอีกที มันยักไหล่ใส่ผมก่อนจะออกเดินนำหน้าผมไปที่รถ ผมก้มมองหน้ามายาที่ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“ไปสิ ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่”

“แค่เพื่อนเองเหรอคิน เราเคยเป็นคู่หมั้นกันนะ”

“ใช่ เคยเป็นคู่หมั้น แต่ก็แค่เคย...” พูดจบผมก็ก้าวเดินตามหลังราฟาไปที่รถ โดยไม่สนใจเสียงของมายาเลยสักนิด ผมไม่ใช่แค่เคยเป็นคู่หมั้นของมายา แต่เคยเป็นผู้ชายที่รักเธอด้วย

ถ้าย้อนไปเกือบ ๆ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมกับราฟาอายุประมาณ 21 ปี ส่วนมายาอายุ 22 ปี เธออายุห่างจากพวกผมไม่ถึงปีหรอก เราโดนจับให้เป็นคู่หมั้นหมายกันตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ของเรา 2 คนเป็นเพื่อนสนิทกัน ผมกับมายาก็เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นผมก็เริ่มมีความรู้สึกรักเธอเกินกว่าเพื่อนไปแล้ว

เมื่อถึงวันเกิดอายุครบ 22 ปีของเธอ ผมที่อยู่ประเทศไทยก็บินไปดูไบโดยที่ไม่บอกเธอล่วงหน้า เพราะคิดว่าจะเซอร์ไพรส์ให้เธอดีใจ แต่ก็ต้องเจอกับความจริงที่ผมรับไม่ได้ เพราะเมื่อมาถึงบ้านของเธอ ผมที่คิดว่าเธอจะดีใจกับการมาของผม แต่เปล่าเลยสักนิด เธอกำลังมีความสุขกับราฟ ลูกชายคนสนิทของพ่อเธอ ทั้งเสียงและท่วงท่าที่ผมเห็นอย่างไม่ได้ตั้งใจ และไม่อยากจะเห็น

สุดท้ายผมก็เก็บตัวอยู่คนเดียว และมองผู้หญิงทุกคนที่เข้ามา เพียงเพราะเธอเหล่านั้นต้องการแค่นอนกับผม และต้องการแค่เงินเท่านั้น และเมื่อมายารู้ว่าผมรู้เรื่องของเธอทั้งหมดแล้ว เธอก็ดูจะไม่ได้สนใจผมเลยสักนิด จนกระทั่งมีข่าวการแต่งงานของเธอออกมา แต่ตอนนี้เธอทำเหมือนว่าจะกลับมาหาผมอีกครั้ง แต่ผมให้เธอได้แค่เพื่อนเท่านั้น เธอเป็นคนทำลายมันลงเองกับมือ เพราะฉะนั้นเธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องอะไรจากผมอีกแล้วต่อจากนี้

เครื่องบินส่วนตัวของคิน



เครื่องบินส่วนตัวของครอบครัวผมตอนนี้กำลังมุ่งตรงไปยังประเทศของราฟา ในเครื่องบินลำนี้มีห้องส่วนตัว 2 ห้อง ตอนนี้ราฟาก็ขอตัวไปงีบหลับอยู่ในห้องส่วนตัวแล้ว และมายาเธอก็ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในอีกห้องหนึ่ง ส่วนผมก็กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวด้านนอก

“คิน! มาช่วยฉันหน่อย” เสียงของมายาดังออกมาจากในห้อง

“มีอะไร มายา” เธออยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ กำลังก้ม ๆ เงย ๆ เพื่อพยายามรูดซิปกระเป๋าเดินทางออกอย่างยากลำบาก

“ฉันรูดซิปไม่ออก ช่วยหน่อยสิ”

เธอหลบทางให้ผมเพื่อให้ช่วยรูดซิปกระเป๋าเดินทาง ผมก้มลงไปรูดซิปกระเป๋าให้เธออย่างง่ายดาย

ปึง! กริ๊ก! (เสียงประตูห้องปิดลง)

“คิน ทำไมเย็นชาจัง ยังโกรธมายาอยู่เหรอ” ไม่พูดเปล่า มือเล็กของมายาสวมกอดจากด้านหลัง และเบียดตัวให้ชิดกับแผ่นหลังกว้าง จนรู้สึกถึงความนิ่มของหน้าอก

“มายา” ผมเรียกชื่อเธอเพื่อเตือนสติ และพยายามแกะมือเธอออก แล้วหมุนตัวหันหน้าเข้าหาเธอ

“คิน มายารู้แล้วว่ามายารักใคร ที่ผ่านมามายาไม่มีความสุขเลย ไม่เหมือนอยู่กับคิน” เธอพรั่งพรูความในใจออกมาพร้อมทั้งน้ำตา

“มายา ตอนนี้ฉันให้เธอได้แค่เพื่อนนะ แล้วก็พอเถอะ”

“ไม่นะ ไม่เอา เรากลับมาหมั้นกันเหมือนเดิมนะคิน มายาจะเป็นของคินเพียงคนเดียว ไม่ต้องรอแต่งงาน เราอยู่ด้วยกันตอนนี้เลยก็ได้” เธอไม่ได้พูดเพียงอย่างเดียว มือเล็กถอดชุดคลุมอาบน้ำออกอย่างไม่ลังเล เผยให้เห็นผิวพรรณสุขภาพดี หุ่นสวยหน้ามอง อกตูมได้รูป ยอดปทุมถันคู่ชูชันสีชมพู ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นได้เห็นผู้หญิงมาทำแบบนี้ต่อหน้าคงไม่มีใครปล่อยผ่านไปแน่ แต่เขาตอนนี้กลับมองว่าเธอกำลังลดคุณค่าของตัวเองลง

“พอเถอะ...อย่าลดคุณค่าของตัวเองไปมากกว่านี้เลย”

“ไม่เอานะคิน มายาไม่ยอม คินอย่าบอกนะว่าคินรักคนอื่นแล้ว”

“ก็คงใช่”

“คิน...” ร่างเปลือยของมายาค่อย ๆ นั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง ตาคู่สวยกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา

“เธอทำลายมันเองนะ ตอนนี้ฉันให้เธอได้แค่เพื่อนเท่านั้น...อย่าพยายามเลย” ผมพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องของเธอ และปล่อยให้เธอได้อยู่กับตัวเองสักพัก

บ้านของโซยู

วันเสาร์ที่สุดแสนจะสบาย แต่ฉันอาจจะเป็นคนเดียวที่ไม่สบายก็ได้ จิตใจที่กระวนกระวายกับวันพรุ่งนี้ นี่ก็ครบกำหนด 3 วันที่ให้ฉันเตรียมตัว ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรอยายอลิสที่จะเฝ้าบ้านให้ฉันแทน จนตอนนี้ก็ยังแค้นใจไม่หายเรื่องที่เขาทำไว้กับฉัน ทุกอย่างในชีวิตฉันตอนนี้กำลังหมดทางเลือก บางทีการมีชีวิตแบบคนธรรมดาที่อยู่อย่างไม่ต้องคอยดูแลสมบัติอะไรยังจะมีความสุขมากกว่าซะอีก เพราะเงินเนี่ยแหละที่ทำให้คนที่เรารักกล้าหักหลังเราได้ลงคอ

ปิ๊น ๆ (เสียงแตรรถของยายอลิสดังขึ้น)

สักพักก็เห็นป้านงค์ แม่บ้านประจำบ้านฉันวิ่งออกไปเปิดประตูบ้านให้อลิส รถหรูสีขาววิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถบ้าน ฉันออกมาจากบ้านก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางของอลิสที่ขนมา

“นี่อลิส จะย้ายไปอยู่โลกใหม่เหรอ กระเป๋าสี่ใบ แกขนมาทำไมเยอะแยะ”

“เสื้อผ้าฉันแค่ใบเดียว ส่วนอีกสาม กระเป๋ากับรองเท้าล้วนจ้าที่รัก”

“ฉันล่ะเชื่อแกเลย”

“ฉันร้อนแล้วเข้าบ้านเถอะ” อลิสพูดพร้อมกับกระโดดกอดคอฉัน และลากเข้าบ้าน สรุปนี่บ้านใคร ฉันหรือแกที่เป็นแขก

หลังจากที่พาเพื่อนตัวดีของฉันเอาของไปเก็บที่ห้องเรียบร้อย ก็มานั่งรอทานอาหารฝีมือป้านงค์กันอยู่ที่โต๊ะ

“แกโอเคเปล่าโซยู” อลิสถามฉันด้วยความเป็นห่วง คงเห็นหน้าที่ใกล้ตายของฉันเต็มทีแล้วสินะ

“อือ โอเคโคตร ๆ เฮ้อ~ลำพังฉันก็เหนื่อยอยู่แล้ว แต่ต่อจากนี้อาจจะเหนื่อยเพิ่มอีกเป็นสิบเท่าก็ได้”

“เอาน่า ฉันเชื่อว่าฟ้าต้องเข้าข้างแกสักวันหนึ่ง”

“เอาวันนี้เลยมั้ย ไม่อยากรอวันหนึ่งแล้ว”

“ชิ! ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้แหละ บางทีมันก็ไม่สามารถเลือกทางที่ตัวเองอยากเดินได้หรอก แต่ฉันเชื่อว่าแก ผู้หญิงที่ไม่กลัวใครจะต้องผ่านมันไปได้”

นั่นสิ ต่อจากนี้จะหายใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันอาจจะเกลียดเขาจนไม่อยากสูดอากาศร่วมกันเลยก็ได้ จากนี้ละของจริง ฉันจะทำให้นายอยู่สงบไม่ได้เลยคอยดู รอบที่แล้วเผาแค่ประตู รอบนี้คิดไว้แล้วละว่าจะเผาทั้งบ้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel